หุ้นไทยรับแรงหนุน “ราคาน้ำมัน” พุ่ง เงินไหลออก-โควิด ฉุด SET ฟื้นกรอบแคบ

หุ้น-นักลงทุน

“บล.กรุงศรี” คาด SET แกว่งตัวในกรอบแคบ 1,530-1,550 จุด เหตุกังวลโควิดเดลต้า ด้านราคาน้ำมันดิบแม้จะปรับขึ้นแต่ Fund flow ที่ไหลออกต่อเนื่องจะกดดันดัชนี พร้อมคาด “อีซีบี” คงดอกเบี้ย-คิวอี

วันที่ 22 กรกฎาคม 2564 บริษัทหลักทรัพย์กรุงศรี หรือ บล.กรุงศรี คาดดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันนี้ แกว่งตัว 1,530-1,550 จุด แม้ดัชนีจะได้แรงหนุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงต่ำสุดในรอบ 18 เดือน อย่างไรก็ตามกรอบการดีดตัวยังถูกจำกัดจากความกังวลการแพร่ระบาดเชื้อ Covid-19 เดลต้าที่พุ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศซึ่งเป็นลบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้กระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ (Fund flow) ที่ไหลออกต่อเนื่องจะกดดันดัชนี

สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้หลังราคาน้ำมันดิบ WTI บวกแรงกว่า 3 ดอลลาร์ หรือ +4.6% ปิดที่ 70.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากข่าวสต๊อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิงในรัฐโอกลาโฮมาของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน ที่ระดับ 36.7 ล้านบาร์เรล หรือลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน

ด้านดัชนีดาวโจนส์ฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเพิ่มขึ้น 286 จุด หรือ +0.83% ปิดที่ 34,798 จุด เนื่องจากนักลงทุนตอบผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ โดย 85% ของบริษัทที่ประกาศงบฯแล้วล้วนมีกำไรสุทธิสูงกว่าที่โบรก (Consensus) คาดไว้

ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ย้ำมุมมองเดิมคาด ECB คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ -0.50% และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร

บล.กรุงศรีแนะนำหุ้นน่าจับตาวันนี้ ได้แก่ CKP หรือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 5.8 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาที่ 6.5 บาทต่อหุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/64 แตะระดับสูงสุดใหม่ที่ 931 ล้านบาท เทียบกับ ขาดทุนสุทธิ 95 ล้านบาทในไตรมาส 2/63 และกำไรจะเร่งขึ้นอีกในไตรมาส 3/64 จากช่วงนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น (High season)

และอีกตัวคือ JWD หรือ บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ราคาปิดที่ 15 บาทต่อหุ้น แนะนำซื้อ/เป้าหมายราคาจากการสำรวจความเห็นของโบรก (IAA Consensus) ที่ 16.3 บาทต่อหุ้น คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 โตต่อเนื่องตามความต้องการในทุกธุรกิจที่เพิ่มขึ้นรับอานิสงส์ภาคการค้าโลกฟื้นตัวและรับกระแส WFH, คลังห้องเย็นใหม่รับรู้รายได้เต็มไตรมาส