คปภ.ถก 4 ฝ่าย หาข้อยุติ อู่ซ่อมรถ “เทลูกค้า” อาคเนย์ฯ

อาคเนย์

คปภ. ปลดชนวนปัญหา อู่ซ่อมรถ “เทลูกค้า” อาคเนย์ประกันภัย ถก 4 ฝ่ายหาข้อยุติ เคาะแนวทางต้องจ่ายเงินค่าซ่อมให้อู่คู่สัญญา 390 อู่ ศูนย์บริการ 281 ศูนย์ ภายใน 3 วัน นับแต่วันที่อู่วางบิล

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายแขนง โดยระบุว่า อู่ซ่อมรถยนต์ส่วนใหญ่ ปฏิเสธรับซ่อมรถยนต์จากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 ไปจนกว่าจะมีความชัดเจนจากบริษัทฯ

ซึ่งอู่ซ่อมรถยนต์ระบุเหตุผลว่า เนื่องจากอู่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถยนต์เองทั้งหมด และต้องไปทำการตั้งเบิกในภายหลัง โดยมีความกังวลว่าจะไม่สามารถเบิกค่าซ่อมรถยนต์จากบริษัทอาคเนยประกันภัยได้ หรือให้ผู้เอาประกันภัยชำระค่าซ่อมไปก่อนแล้วนำเอกสารไปตั้งเบิกกับบริษัทอาคเนย์ประกันภัยในภายหลังเพื่อไม่ให้ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้รับผลกระทบและเดือดร้อน

สำนักงาน คปภ. ได้ติดตามสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดเพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 เลขาธิการ คปภ. ได้มอบหมายให้ นายชัยยุทธ มังศรี รองเลขาธิการ ด้านกฎหมาย คดี และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ เป็นประธานในการประชุมหารือกรณีอู่ซ่อมรถยนต์ในเครือของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ปฏิเสธการจัดซ่อมรถยนต์ของผู้เอาประกันภัย ผ่านระบบ Microsoft Teams

โดยมี นายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. นายชยพล หมื่นแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายประเมินราคา บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) นายศุภกร ลีภัทรวรกุล นายกสมาคมอู่กลางการประกันภัย ดร.ธีระพงศ์ ธนเจริญรัตน์ เลขาธิการสมาคมอู่กลางการประกันภัย นางภัณฑิรา จงปิติทรัพย์ นายกสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย และนางสาวกัลยา จุกหอม ผู้แทนสมาคมประกันวินาศภัยไทย เข้าร่วมประชุมด้วย

จากการประชุมครั้งนี้ ผู้แทนจากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ชี้แจงว่าบริษัทได้รับทราบปัญหาและไม่ได้นิ่งนอนใจกรณีตามที่เป็นข่าวว่าอู่ในเครือของบริษัทอาคเนย์ประกันภัยขาดความเชื่อมั่นในการรับซ่อมรถยนต์ให้กับลูกค้าของบริษัทฯ โดยบริษัทได้ทำความเข้าใจกับอู่ไปแล้ว และได้กำหนดแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับอู่และผู้เอาประกันภัย ดังนี้

1.กำหนดให้บริษัทอาคเนย์ประกันภัย จะจ่ายเงินค่าซ่อมให้กับอู่คู่สัญญาภายใน 3 วัน นับแต่วันที่อู่ได้วางบิลกับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย

2.หากอู่คู่สัญญารายใดไม่เชื่อมั่นว่าจะเบิกค่าซ่อมได้หรือไม่ บริษัทอาคเนย์ประกันภัยพร้อมจะจ่ายค่าซ่อมทันทีก่อนจัดซ่อมรถยนต์เสร็จ 3 วันทำการ

โดยปัจจุบันบริษัทอาคเนย์ประกันภัย มีอู่คู่สัญญาที่กลับมารับงานซ่อมครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว จำนวน 390 อู่ ศูนย์บริการ จำนวน 281 ศูนย์

อย่างไรก็ดีหากผู้เอาประกันภัยของบริษัทอาคเนย์ประกันภัย ประสบปัญหาอู่คู่สัญญาของบริษัทอาคเนย์ประกันภัยปฏิเสธการจัดซ่อมรถยนต์ สามารถติดต่อได้ที่สายด่วน 1726

ทั้งนี้ผู้แทนจากบริษัทยืนยันว่าปัจจุบันทั้งเรื่องการอนุมัติราคา การติดตามการซ่อม และการจัดอะไหล่จะไม่เป็นประเด็นปัญหาต่อผู้เอาประกันภัยของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในส่วนของสมาคมอู่กลางการประกันภัย และสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย ได้มีข้อเสนอแนะดังนี้

1.ให้อู่ที่รับซ่อมรถเสนอราคาและบริษัทฯ คุมราคาพร้อมอนุมัติค่าซ่อมโดยเร็ว แล้วตั้งเบิกให้อู่ซ่อมก่อนจ่ายในนามอู่ซ่อมแล้วส่งภาพการซ่อมอะไหล่คืนตามหลังในระบบ EMCS เนื่องจากเป็นกรณีที่กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนผู้เอาประกันภัย ประกอบกับมีข่าวทางโซเชียลเกี่ยวกับการขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย

2. ให้บริษัทเป็นผู้จัดหาอะไหล่การซ่อมให้แก่อู่  และ

3.ค่าแรงการซ่อมรถที่บริษัทอนุมัติแล้วให้สามารถเบิกได้ครั้งเดียว หากมีรายการต่อเนื่องอู่ซ่อมจะไม่สามารถเบิกค่าแรงเพิ่มภายหลังได้

ในกรณีที่บริษัทเป็นผู้จัดหาอะไหล่ อู่สามารถเบิกอะไหล่จากบริษัทฯเพิ่มเติมได้เป็นระยะ ทั้งนี้ ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันระหว่างผู้แทนจากอู่ซ่อมรถยนต์ กับบริษัทอาคเนย์ประกันภัย ดังนี้

1.ให้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องระหว่างบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) สมาคมอู่กลางการประกันภัย และสมาคมการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาให้กับผู้เอาประกันภัยที่นำรถเข้าซ่อม

2. ให้บริษัทอาคเนย์ประกันภัย แจ้งอู่ในเครือของบริษัทฯ ให้รับทราบเกี่ยวกับแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับอู่ซ่อมรถยนต์และผู้เอาประกันภัย  และ

3. ให้บริษัทอาคเนย์ประกันภัย เพิ่มการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับประชาชน


ซึ่งทางสำนักงาน คปภ. ได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการตามแนวทางของที่ประชุมอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย โดยให้รายงานความคืบหน้าต่อสำนักงาน คปภ.โดยเร็ว