ผู้ก่อตั้ง Satang ประเมินตลาดคริปโตฯ เดือน มิ.ย. “ขาลง”

คริปโต

ผู้ก่อตั้ง Satang ประเมินตลาดคริปโตฯ เดือน มิ.ย. ชี้ทุกองค์ประกอบสะท้อน “ตลาดขาลง” ทั้งปัจจัย “ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ-การจ้างงานสหรัฐ” ขณะที่ซีอีโอ “Satang Corporation” เตือนนักลงทุนรับมือตลาดขาลงอีก 2-3 เดือน

นายปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้ง Satang ผู้ประกอบธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและบล็อกเชน กล่าวว่า  ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ เดือน มิ.ย. ถ้าจะดูทิศทางของตลาดว่าขึ้นหรือลงนั้น ให้ดูที่ 3 ปัจจัยหลักคือ ดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และ ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐ ซึ่งตอนนี้พูดได้เลยว่าครบทุกองค์ประกอบของตลาดขาลง

โดยธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.5% อีกอย่างน้อย 2 ครั้ง (มิ.ย., ก.ค.) ในปีนี้ ลดปริมาณการซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนของ FED ที่จะเริ่มในเดือน มิ.ย. โดยมีแนวโน้มไปจนถึงช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ ให้ดอกเบี้ยไปสู่ระดับ 2.5-3.0% ในปีนี้ เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ เพราะอัตราเงินเฟ้อที่คำนวณจากดัชนีราคาผู้บริโภคหรือ consumer price index ยังอยู่ที่ 8.3% ซึ่งนับว่าสูงมาก

ส่วนตัวเลขการจ้างงานที่ไม่รวมภาคเกษตร (Non-Farm payroll) ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี คือถ้ามากกว่า 200,000 คน ต่อเดือนอยู่เสมอในปีนี้ จะทำให้ FED กล้าขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างไร้กังวล เพราะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐ ยังมีความแข็งแกร่งมากพอ และยอมให้ตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ อยู่ในขาลง

“จากสภาพตลาดขณะนี้รวมไปถึงความเชื่อมั่นทางจิตวิทยาที่ลดลงอันเกิดจากการล่มสลายของ LUNA-UST ส่งผลให้มูลค่าตลาดคริปโตฯ ลดลงเหลือ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ จากที่เคยอยู่จุดสูงสุด 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2564 ในขณะที่มีปริมาณการซื้อขาย Stablecoin ทั้งหมดในตอนนี้ คือ 69.26 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเท่ากับ 87.36% ของปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดคริปโตฯใน 24 ชั่วโมง (26 พ.ค 65) [อ้างอิง: coinmarketcap] ซึ่งอาจมองได้ว่านักลงทุนกำลังใช้ Stablecoin กลุ่มที่มีสินทรัพย์หนุนหลังเป็นที่พักเงิน”

นายปรมินทร์ กล่าวอีกว่า ถ้าจะมองหา Safe-Haven ของการลงทุนขณะนี้ ก็อาจเป็นกลุ่ม Stablecoin อย่าง USDC USDT BUSD ซึ่งช่วงนี้ค่าเงิน USD กำลังแข็งอยู่เมื่อเทียบกับ Bitcoin หรือเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท ซึ่งอ่อนลง หรือ GOLD stablecoin ก็น่าสนใจ อย่าง PAXO GOLD  (PAXG)   เพราะทองคำ จะกลับมาขึ้น หรือไม่ลงต่อแบบหลายเดือนที่ผ่านมาแล้ว

“ทองคำขณะนี้ ยืนเหนือ 1,780 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แล้วกลับมาอยู่ที่ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป้าหมายต่อไปที่ 1,900-1,925 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นไปได้ง่ายทิศทางไป 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ กลับขึ้นไปไม่ยาก เพราะเงินเฟ้อยังสูงอยู่ทั่วโลก” นายปรมินทร์กล่าว

ขณะที่นายสรัล ศิริพันโนน ซีอีโอ Satang Corporation กล่าวว่า  ตลาดจะกลับมาเมื่อไรนั้นค่อนข้างจะตอบได้ยากเพราะ FED ก็ยังคงขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ถ้าในกลุ่มนักลงทุนที่กำลังรอซื้อควรจะรออีกหน่อย เพราะตลาดยังเป็นขาลงอีกในระยะ 2 – 3 เดือนข้างหน้าและตลาดอาจค่อนข้างลงแบบซิกแซ็ก ไม่ลงแบบทิ้งดิ่งในครั้งเดียวนักลงทุนต้องระมัดระวังให้มาก

ส่วนในประเด็นของการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสําหรับการโอนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลจนถึงสิ้นปี 2566 ของไทยนั้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี น่าจะช่วยให้ประเทศมีเวลาได้ลองอะไรมากขึ้น แต่อยากเสนอว่ารัฐฯควรจะยกเว้นการเก็บภาษีจาการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ถือครองเกิน 1 ปี เช่นในประเทศเยอรมันนี