แพทย์ชี้โควิด-19 เพิ่มความเสี่ยงผู้ป่วยหลอดเลือดอุดตัน เหตุเลือดแข็งตัวเพิ่มขึ้น นอนพักฟื้นนาน แนะตรวจสุขภาพ-เลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
วันที่ 15 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี เป็นวันหลอดเลือดอุดตันโลก หรือ World Thrombosis Day (WTD) ที่จัดขึ้นพร้อมแคมเปญ “Eyes Open to Thrombosis” เพื่อสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับหลอดเลือดอุดตันร่วมกันทั่วโลก เนื่องจากประชากร 1 ใน 4 ของโลก เสียชีวิตจากหลอดเลือดอุดตันในแต่ละปี จาก 4 ปัจจัยเสี่ยงคือ การรักษาตัวในโรงพยาบาล ผู้ป่วยโรคมะเร็ง การติดเชื้อโควิด-19 และปัจจัยด้านกายภาพ
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ศ.นพ.พันธุ์เทพ อังชัยสุขศิริ สาขาวิชาโลหิตวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ทั้งการอุบัติใหม่และกลับมาของเชื้อโรค และการแพร่ระบาดของโควิด-19 นำไปสู่การรักษาที่ส่งผลต่อระบบการทำงานในร่างกาย
โดยเฉพาะการเกิดลิ่มเลือดที่จะไปชะลอการไหลเวียนของโลหิตในหลอดเลือด และนำมาสู่ภาวะหลอดเลือดอุดตัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงได้ อาทิ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองตีบ และลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
คนเสียชีวิตจากหลอดเลือดอุดตัน 1 แสนคน/ปี
ตามรายงานของ International Society on Thrombosis and Haemostasis (ISTH) พบว่า ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากภาวะหลอดเลือดอุดตันราว 100,000 คน หรือ 1 ใน 4 ของผู้คนทั่วโลก ซึ่งมากกว่าผู้เสียชีวิตทั้งหมดในแต่ละปีจากโรคเอดส์ มะเร็งเต้านม และอุบัติเหตุทางรถยนต์รวมกัน
“หลอดเลือดอุดตัน (Thrombosis)” เป็นภาวะที่ลิ่มเลือดก่อตัวและไปอุดตันในหลอดเลือด จากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือผนังหลอดเลือดผิดปกติ สามารถเกิดได้ทั้งในหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ ซึ่งหากลิ่มเลือดที่อุดตันหลุดไปตามกระแสเลือด จะเป็นอันตรายต่อร่างกายและโรคอื่น ๆ ตามมา
ภาวะหลอดเลือดอุดตันในไทย
สำหรับสถานการณ์ภาวะหลอดเลือดอุดตันในประเทศไทย จากข้อมูลกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับหลอดเลือดอุดตันในปอด พบว่าในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีผู้ป่วยประมาณปีละ 12,900-26,800 คน คิดเป็นอัตราผู้ป่วย 200-400 คนในประชากรหนึ่งล้านคน
ศ.นพ.พันธุ์เทพกล่าวเพิ่มว่า ปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงต่อหลอดเลือดอุดตัน สามารถแบ่งออกเป็น 4 สาเหตุหลัก ดังนี้
ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดจากการรักษาตัวในโรงพยาบาล กว่า 60% ของผู้ป่วยหลอดเลือดอุดตัน เกิดขึ้นระหว่างการพักรักษาตัว หรือผู้ที่มีบาดเจ็บบริเวณหลอดเลือดจากการผ่าตัด ซึ่งการพักฟื้นเป็นระยะเวลานานจะทำให้ผู้ป่วยลดการขยับตัว นำไปสู่การเกิดลิ่มเลือดได้ ทั้งนี้ ในระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลแพทย์จะป้องกันและรักษาด้วยการประเมินความเสี่ยงของผู้ป่วย อาจมีการให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือการใช้เครื่องช่วยให้เลือดที่ขาไหลเวียนดีขึ้น
ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดจากโรคมะเร็ง สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง มีความเสี่ยงเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันร้ายแรงสูงกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า โดยความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน จะขึ้นอยู่กับประเภทของมะเร็ง ระยะของโรค และวิธีการรักษา รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้ป่วย
ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดจากการติดเชื้อโควิด-19 พบว่าผู้ป่วยโควิด-19 ในระยะวิกฤตเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดได้สูงกว่าบุคคลปกติ เนื่องจากผู้ป่วยจะมีการแข็งตัวของเลือดเพิ่มขึ้น ประกอบกับการนอนพักฟื้นเป็นระยะเวลานาน สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่พักรักษาตัวที่บ้าน (Home Isolation) ควรขยับร่างกายสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 ได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่มีผลต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน
ปัจจัยการเกิดลิ่มเลือดด้านกายภาพ หากมีบุคคลในครอบครัวเป็นหลอดเลือดอุดตันจะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น โดยในเพศหญิง อายุ 20-40 ปี มีความเสี่ยงมากกว่าเพศชาย จากการใช้ยาคุมกำเนิดและการตั้งครรภ์ กลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี มีโอกาสทั้งเพศหญิงและเพศชาย และบุคคลที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไป ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมส่วนบุคคลด้วย หากพบว่ามีอาการเจ็บ มีรอยแดง ลักษณะอุ่น ๆ บริเวณน่องหรือต้นขา หรือมีอาการบวมของขา ควรพบแพทย์ เพื่อประเมินภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน
วิธีป้องกันภาวะหลอดเลือดอุดตัน
การป้องกันการเกิดโรคถือเป็นกุญแจสำคัญในการลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ดีที่สุด ซึ่งคนทั่วไปสามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยมี 3 วิธีหลัก ๆ ดังนี้
เปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง อาทิ การสูบบุหรี่ การนั่งเป็นเวลานาน ทั้งการนั่งทำงาน ขับรถ หรือการโดยสารเครื่องบินโดยอยู่ท่าเดิมเป็นระยะเวลานานกว่า 4-6 ชั่วโมง
ขยับร่างกายและออกกำลังกาย การขยับบริหารกล้ามเนื้อ หรือออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะหลอดเลือดอุดตันได้ง่ายและดีที่สุด เพราะจะกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถใช้วิธีง่าย ๆ และทำที่บ้านได้ อาทิ การลุกเดิน การหมุนข้อเท้า การยกเข่า การหมุนคอ บ่า และไหล่
สำรวจความเสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน หากมีอาการหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน เช่น มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับเลือด โรคหัวใจ หรือคนในครอบครัวเคยมีประวัติการรักษาหลอดเลือดอุดตัน สามารถเข้าพบแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง การรู้ล่วงหน้าจะช่วยให้ผู้ป่วยรับมือกับภาวะหรือโรคร้ายแรงที่จะตามมาได้ทันท่วงที