กรมอุตุฯเตือน 24-29 ม.ค. อุณหภูมิลดฮวบ 4-6 องศา กทม.เย็นสุด 16 องศา

เตือนอากาศหนาวเย็น 24-29 ม.ค.
เครดิตภาพ : ORAPIN WACHANGNGOEN

กรมอุตุฯเตือน 7 วันข้างหน้า มีมวลอากาศเย็นจากจีนอีกระลอกจะแผ่มาปกคลุมตอนบนของไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้อากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภุมิจะลดลง 4-6 องศา ส่วนภาคอื่น รวมกทม.และปริมณฑลอุณหภูมิลดลง 2-3 องศา ระบุยอดดอยต่ำสุด 8-9 องศา ภาคกลาง รวมกทม.และปริมณฑล เย็นสุด 15-16 องศา ส่วนภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกหนัก อ่าวไทยคลื่นลมแรง

วันที่ 23 มกราคม 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า หรือระหว่างวันที่ 23-29 มกราคม พ.ศ. 2566 ว่า การคาดหมายอากาศทั่วไปในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง

โดยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวไทยและภาคใต้ ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 -3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ข้อควรระวัง
ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งไว้ด้วย สำหรับประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าฝั่งไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ตลอดช่วง

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง

คาดหมายอากาศรายภาคระหว่างวันที่ 23-29 มกราคม 2566

ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 24 ม.ค. อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 5-15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 25-29 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 9-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 10-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส

ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 8-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 3-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 15-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 66 ทางตอนล่างของภาค มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ตลอดช่วง

ในช่วงวันที่ 24-26 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 27-29 ม.ค. 66 ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส

กรุงเทพฯและปริมณฑล
อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ตลอดช่วง อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-32 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

กรมอุตุฯพยากรณือากาศ 7 วันข้างหน้า