“บิ๊กตู่” ย้ำรัฐไม่ปิดข้อมูล ลั่น “เขื่อนแตก-ไม่แตก ไร้สาระเถียงกันทำไม” อย่าเปรียบเทียบน้ำท่วมปี54

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2560 เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือในขณะนี้

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้เข้าใจว่าเหตุน้ำท่วมครั้งนี้มาจากภัยธรรมชาติ วันนี้หลายประเทศก็เผชิญเหตุน้ำท่วม ไฟป่ากันมาเยอะ ส่งผลให้เกิดความเสียหาย แต่จะเสียหายมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำฝนที่ตกลง ครั้งนี้ฝนตกกว่า 300 มิลลิเมตร เกินไม่รู้กี่เท่า ถือว่าตกหนักมากในรอบ 10 ปี

“ฉะนั้นการมาเถียงกันเรื่องเขื่อนแตกหรือไม่แตก มันไร้สาระ ไม่รู้จะเถียงกันทำไม ไม่ใช่เขื่อนแตกแล้วน้ำจะท่วม แต่มันเคลื่อนทั้งหมด รวมถึงเขื่อนด้วย เป็นน้ำที่ไหนมาจากเถือกเขาภูพาน ไหลมาจากทุกทิศทาง เขื่อนนี้สร้างมา 63 ปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหา มีความแข็งแรง หากเป็นสถานการณ์ปกติต้องรับปริมาณน้ำฝนได้แน่นอน และเขื่อนนี้ทำไว้รองรับน้ำประมาณ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่น้ำไหลเข้ามา 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็ต้องล้นเป็นธรรมดา เมื่อน้ำล้นก็ต้องเซาะเขื่อน ฉะนั้นอย่าไปเถียงกันว่าแตกหรือไม่แตก หรือใครต้องรับผิดชอบ” นายกรัฐมนตรีกล่าว

เมื่อถามต่อว่า ภัยน้ำท่วมครั้งนี้มีการเปรียบเทียบถึงการบริหารจัดการน้ำกับสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี 2554 นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นคนละประเด็นกัน ตนไม่อยากกล่าวก้าวล่วงกันไปมา เพราะตนอยู่ใน 2 เหตุการณ์ ซึ่งเป็นเรื่องการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ต้องดำเนินการ อย่าไปย้อนของเก่า เอาอันใหม่ดีกว่า ต้องทำให้ดีที่สุด เเละก็ไม่อยากไปฟังคนเก่าๆพูดจา เดี่ยวก็โต้กันไปมา ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา

เเละจากกรณีมีกระเเสข่าวรายงานว่าอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นแตก แต่มีการปกปิดข้อมูลนั้นรัฐมีเท็จจริงอย่างไร

นายกรัฐมนตรี ตอบว่า จะไปปกปิดข้อมูลอะไร เขาบอกให้ระวังทุกพื้นที่ เขื่อนนี้ก็ต้องระมัดระวัง เพราะน้ำในระยะแรกล้นเกินสันเขื่อนมาแล้ว จะไปเบรกน้ำส่วนอื่นก็ไม่ได้ และเขื่อนนี้ตื้น ไม่ได้เตรียมการรับน้ำมากขนาดนี้ ต้องเอาหลักการแบบนี้มาคิด ซึ่งทางกรมอุตุฯ ได้มีการแจ้งเตือนถึงปริมาณฝนที่กำลังจะตกแล้ว ส่วนเขื่อนก็ต้องเตรียมมาตรการ หากรับไม่ไหวก็คือรับไม่ไหว ทุกเขื่อนถ้ารับไม่ไหวก็คือไม่ไหว แต่หากในช่วงถานการณ์ปกติเขื่อนรับไหวหมด แต่ถ้ารับไม่ไหวเป็นเพราะสถานการณ์ภัยธรรมชาติมากขึ้น