กรมอุตุฯเตือนพายุลูกใหม่ “ซูลิก” รุนแรงน้อง ๆ ยางิ ฝนตกหนักถึง 24 ก.ย.

กรมอุตุฯคาดพายุลูกใหม่ มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนชื่อ “ซูลิก” ชี้อาจมีความรุนแรงน้อง ๆ พายุยางิ คาดขึ้นฝั่งเวียดนาม 21 ก.ย.นี้ หลังจากนั้นจะฟาดหางมาทางภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบนของไทย เตือนรับมือฝนตกหนักอีกรอบ 21-23 ก.ย.นี้ ขณะที่แทบทุกภาคของไทยโดนอิทธิพลจากร่องฝนที่เลื่อนลงมา และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้มีฝนตกหนักยาวถึง 24 ก.ย. 67

วันที่ 17 กันยายน 2567 เอกอนงค์ เคียนทอง (นักอุตุนิยมวิทยาชำนาญการ) ผู้ดำเนินรายการอุตุนิยมวิทยารับใช้ประชาชน ประจำวันที่ 17 กันยายน 2567 ช่วงเวลา 08.30-09.00 น. เปิดเผยถึงพายุลูกใหม่ว่า ล่าสุดพายุลูกนี้อยู่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ยังคงเป็นพายุดีเปรสชั่น (D) โดยในวันนี้จนถึงวันพรุ่งนี้ (18 ก.ย.) จะเคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ และมีแนวโน้มที่จะแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน ซึ่งถ้ามีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนชื่อของเขาจะชื่อว่า “ซูลิก” เป็นภาษาไมโครนีเซีย ที่เป็นผู้ให้ชื่อ หมายถึง หัวหน้าเผ่าโบราณ

“จริง ๆ ตัวดีเปรสชั่นตัวนี้จะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ในวันนี้ จากนั้นจะเฉียดมาทางเกาะไหหลำ อาจจะต่ำกว่าตัวยางิเล็กน้อย และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามวันที่ 21 ก.ย. ส่วนเรื่องของผลกระทบมันมีต่อเนื่อง เพราะตัวแนวร่องมรสุม พอมีพายุเข้ามาจะอยู่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ต่อเนื่องเช่นกัน อันนี้เป็นผลกระทบทางอ้อม พอเคลื่อนขึ้นฝั่งแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงไป และอาจจะเคลื่อนมาสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนได้ เพราะฉะนั้นต้องติดตามอย่างใกล้ชิดอีกทีว่าจะเป็นความรุนแรงแบบไหน แต่โดยธรรมชาติแล้วจะอ่อนกำลังลง”

ส่วนที่จะส่งผลกระทบกับบ้านเรา จะมีเรื่องของฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องได้ตั้งแต่วันนี้ (17 ก.ย. 67) เพราะตอนนี้ร่องฝนก็ยังพัดผ่านอยู่ เพราะพอพายุลงทะเลจีนใต้ร่องฝนก็ยังไม่ไปไหน และพอเขา (พายุ) เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ แล้ว ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบนจะมีลมต่อเนื่อง

“ช่วง 1-2 วันนี้ (17-18 ก.ย.) ตัวร่องมรสุม (L) หรือร่องฝนจะขยับลงมา ส่งผลให้ภาคกลางตอนบน นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท จะมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ ส่วนภาคเหนือตอนล่าง เช่นที่ จ.พิจิตร จะมีฝนเพิ่มในช่วง 21-22 ก.ย. 67 หรืออาจจะเลยไปถึงช่วงวันที่ 23-24 ก.ย.นี้ได้ด้วย” เอกอนงค์กล่าว และว่า

ช่วงนี้เรื่องของฝนทุกภาคมีโอกาสตกได้อย่างต่อเนื่อง และหนักถึงหนักมากได้ ไม่ว่าจะเป็นด้านรับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทางด้านภาคตะวันออกของภาคใต้ฝั่งอันดามัน หรือทางภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีโอกาสมีฝนตกหนักมากได้ด้วย

ส่วนพื้นที่ของภาคกลางและภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 20-21 กันยายน ปริมาณฝนอาจจะลดลงไปบ้าง ฝนตกหนักอาจจะไม่มากแล้ว หรือการกระจายของฝนก็จะไม่เยอะแล้ว แต่จะเป็นแค่ 1-2 วัน หลังจากนั้นพอพายุเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนาม และเข้ามาใกล้ ๆ บ้านเราเรื่อย ๆ ฝนจะเยอะเหมือนตอนที่พายุยางิอ่อนกำลังลง และเป็นตัวหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านออกไป ฝนจะเยอะเลย

“ตอนนั้น ตัวยางิเขาเป็นไต้ฝุ่น ลมมันจะเร็วและแรงกว่านี้ แต่ตัวนี้เส้นทางการเดินของพายุและการพยากรณ์เรายังต้องติดตามอย่างต่อเนื่องว่าเขาจะแรงขึ้นมาได้ระดับไหน ซึ่งตั้งแต่วันที่ 21 กันยายนนี้ก็จะเริ่มมีหนักมากเข้ามาได้มากขึ้น” เอกอนงค์กล่าวย้ำถึงพายุลูกใหม่ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย

“เหนือ-อีสานตอนบน” จ่อวิกฤตอีกรอบ

วันเดียวกัน (17 ก.ย. 67) นายชวลิต จันทรรัตน์ กรรมการและผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ บริษัท ทีม เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนต์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการก่อตัวของ “หย่อมความกดอากาศต่ำ” กำลังแรงขึ้น ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์

โดยหย่อมความกดอากาศต่ำนี้จะเพิ่มกำลังแรงขึ้น แล้วจะเคลื่อนที่มาทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย จากตอนเหนือของประเทศฟิลิปปินส์ ผ่านทะเลจีนใต้ จะมาขึ้นฝั่งที่เมืองดานัง (เวียดนาม) คาดว่าจะทำให้ฝนตกหนักในภาคอีสานตอนบนและภาคเหนือตอนบนดังนี้

วันที่ 19 ก.ย. จะให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก ที่เมืองดานัง (เวียดนาม) เมืองท่าแขก สปป.ลาว และพื้นที่ใกล้เคียง

วันที่ 20 ก.ย. จะทำให้ฝนตกหนักมากที่จังหวัดนครพนม และฝนตกหนักที่ จังหวัดสกลนคร, บึงกาฬ, หนองคาย, อุดรธานี และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงฝนตกหนักมากในตอนกลางของ สปป.ลาว

วันที่ 21 ก.ย. จะทำให้ฝนตกหนักมากที่จังหวัดน่านตอนบน และฝนตกหนักที่จังหวัดแพร่ตอนบน ลำปางตอนบน พะเยา เชียงราย และเชียงใหม่ตอนบน

วันที่ 22 ก.ย. ทำให้ฝนตกหนักในตอนกลางของประเทศพม่า แล้วเคลื่อนที่ต่อไปสลายตัวที่ชายแดนของประเทศพม่ากับบังกลาเทศ

ประกาศเตือน ฉบับที่ 1 พายุ “ดีเปรสชั่น”

วันที่ 17 กันยายน 2567 นางสาวกรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือน พายุ “ดีเปรสชั่น” ฉบับที่ 1 ว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (17 ก.ย. 67) พายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และคาดว่าในช่วงวันที่ 20-21 ก.ย. 67 จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักมากบางแห่ง และมีลมแรงในช่วงวันที่ 20-23 ก.ย. 67

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-21 ก.ย. 67 ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้

ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปในวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 17.00 น.

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า (17 ก.ย. 67) ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และอ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองและห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในวันนี้ (17 ก.ย. 67) คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 20-21 กันยายน 2567 ลักษณะเช่นนี้ส่งผลทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า

ในช่วงวันที่ 18-20 ก.ย. 67 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 21-23 ก.ย. 67 ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ ทั้งนี้เนื่องจากมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตรตลอดช่วง

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งตลอดช่วง

 

​