“พยัคฆ์ไพร-ดีเอสไอ” เข้าตรวจโครงการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศหรู รุกบนเขาเกาะสมุย

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. เวลา11.00น. ที่ห้องประชุมกองกำลังรักษาความสงบพื้นที่เกาะสมุย กองทัพภาคที่ 4 พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองเม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ ชุดพยัคฆ์ไพร หน่วยจัดการต้นน้ำเกาะสมุย กรมสอบสวนดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ. ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย ที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี สาขาเกาะสมุย เทศบาลนครเกาะสมุย เจ้าหน้าทีตำรวจ สภ.บ่อผุด และเจ้าท่าเกาะสมุย ร่วนประชุมวางแนวทางการจัดระเบียบสังคมบนพื้นที่เกาะสมุย โดยวางกรอบระยะไว้เวลา 45 วัน นอกจากนี้ยังได้ร่วมประชุมวางแผนในการบังคับใช้กฏหมายกับผู้ที่บุกรุกที่ดินป่าต้นน้ำบนเกาะสมุย ด้วยการบุกรุกแผ้วถางป่า เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย สร้างรีสอร์ท และบ้านพักตากอากาศบนที่ดินที่เอกสารสิทธิ์ไม่ถูกต้องทั้งเกาะสมุย โดยเริ่มตรวจสอบในพื้นที่ ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย และที่ดิน 7 แปลง ที่ได้ตรวจสอบพบความผิดไปแล้วก่อนหน้านี้

ต่อมาเวลา 13.00น. นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร พร้อมด้วย ทหารชุดรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่เกาะสมุย กองทัพภาคที่ 4 หน่วยจัดการต้นน้ำเกาะสมุย และ ดีเอสไอ. นำกำลังเข้าตรวจสอบโครงการบ้านพักตากอากาศหรูบนภูเขาสูงชัน พื้นที่ปลายแหลมซอย8 ม.4 ต.บ่อผุด หลังจากที่บินตรวจสอบทางอากาศพบว่า มีการตัดไม้ทำลายป่า ขุดภูเขา ปรับหน้าดิน ทำถนนขึ้นบนเขา และก่อสร้างเป็นบ้านพักตากอากาศหรูบนภูเขา ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าไม่พบผู้ดูแล และโครงการนี้ได้หยุดก่อสร้างไปแล้วกว่า 1 ปี

นายชีวะภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กล่าวว่า จากตรวจสอบเป็นโครงการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศหรู ประมาณ 11 ยูนิต สังเกตุว่าได้หยุดก่อสร้างไปแล้วประมาณ 1 ปี เมื่อเข้ามาก็ไม่พบผู้ดูแล ตอนนี้ไม่ทราบว่าเป็นของใครซึ่งจะขยายผลต่อไป โดยจะตรวจสอบกับเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสุราษฎณ์ธานี สาขาเกาะสมุย ว่าที่ดินแปลงนี้มีการขอเอกสารสิทธิ์แบบไหน ออกไปอย่างไร ถ้าพบว่าไม่มีเอกสารสิทธิ์เลยก็จะต้องแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้ามีเอกสารสิทธิ์ก็จะประสานกับทางดีเอสไอร่วมกันตรวจสอบว่าเอกสารสิทธิ์ที่ออกมาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

จากเท่าที่ดูคร่าวๆก็คิดว่าน่าจะไม่เป็นพื้นที่ทำประโยชน์ โดยสังเกตุจากสภาพเป็นภูเขาหิน และมีความลาดชันเกินกว่า 35 เปอร์เซนต์ ถ้ามีเอกสารก็สันนิษฐานว่ามีการออกโดยคลาดเคลื่อน ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ด้าน พล.ต.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวอีกว่า วันนี้ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาและจัดระเบียบในพื้นที่เกาะสมุย ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ชายหาด และพื้นที่สาธารณะต่างๆ โดยกำหนดกรอบระยะเวลาที่แน่ชัดใน 45 วัน ซึ่งที่เกาะสมุยปัญหาบนป่าเขาที่พบผู้กระทำความผิด และตัดสินไปแล้ว 7 ราย ก็ยังไม่มีการดำเนินการอะไรเลย ซึ่งทางเราจะต้องบังคับใช้กฎหมาย

สำหรับพื้นที่ ม.3 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย มีลักษณะเป็นภูเขา ดูภาพถ่ายทางอากาศชัดเจน ทำการพิสูจน์ให้แน่ชัดและง่ายขึ้น โดยจะเน้นตรวจสอบเป็นจุดๆเพื่อเป็นต้นแบบ ก่อนจะขยายไปจุดที่อื่น ซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจเกิดอันตรายจากสภาพแวดล้อมดินถล่มเป็นอันตรายได้ ที่นี่ทุกคนต้องอยู่ภายใจกฎหมาย ว่าด้วยตามพยานหลักฐานหรือเอกสารต่างๆ ซึ่งจะใช้การตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศจะมีความชัดเจนแน่ชัดยิ่งขึ้น พล.ต.พรศักดิ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์