ไทยพบหญิงติดเชื้อ”ไวรัสโคโรน่า” เพิ่มอีก 1 ราย

ไทยพบหญิงติดเชื้อ ไวรัสโคโรน่า เพิ่ม 1 ราย ยอดสะสม 33 ราย หายแล้ว 10 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิงจีน มาก่อนปิดเมืองอู่ฮั่น เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 22

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2563 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 33 ราย โดยเป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีนอายุ 54 ปี มาจากเมืองอู่ฮั่น เดินทางมาก่อนปิดเมือง โดยรายนี้เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นผู้ป่วยรายที่ 22

แต่ประชาชนไม่ต้องกังวลเรื่องของการแพร่เชื้อ เพราะตามปกติจะมีการติดตามเฝ้าระวังจนครบ 14 วัน หากมีไข้มีอาการก็จะนำเข้าสู่ห้องแยกโรค เพื่อรักษาและวินิจฉัย ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ก็เช่นกัน เฝ้าระวังไข้ทุกวัน และเมื่อพบว่ามีไข้ เลยนำตัวเข้ามาที่ห้องแยกโรค สถาบันบำราศนราดูร เมื่อวันที่ 6 ก.พ. และดูแลรักษา โดยผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ออกมาเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ว่าพบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ อย่างไรก็ตาม อาการโดยรวมมีไข้ ไอ เจ็บคอ แต่อาการดีขึ้นโดยลำดับ

นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า ภาพรวมผู้ป่วยยืนยันในไทยเริ่มทรงตัวหรือชะลอตัว แต่ก็ขึ้นกับสถานการณ์ โดยขณะนี้หลายประเทศจำนวนผู้ป่วยแซงหน้าไทยไปแล้ว เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ส่วนผู้ป่วยยืนยันภาพรวมอาการดีขึ้น หลายรายพร้อมให้กลับบ้าน แต่ยังติดเรื่องเงื่อนไขที่วางไว้สูงสุด โดยผลตรวจแล็บต้องไม่พบเชื้อ โดยผู้ที่รักษาหายกลับบ้านยังคงเดิมที่ 10 ราย

ด้าน นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยหญิงชาวจีนที่ รพ.ราชวิถี ผลแล็บเป็นลบ สามารถออกจากห้องแยกโรคแล้ว ส่วนผู้ป่วยยืนยันที่อยู่ในการดูแลของ รพ.ราชวิถี และสถาบันโรคทรวงอก มีทั้งหมด 7 ราย ทั้งหมดอาการดี ไม่มีอาการรุนแรง และบางรายผลแล็บเป็นลบเช่นกันก็น่าจะมีผู้ป่วยรักษาหายรายที่ 11 12 ออกมาอีก

ส่วนการเฝ้าระวังและติดตามผู้เข้าเกณฑ์สอบสวน มีการประสานรพ.เอกชน และรพ.ทุกภาคส่วน เตรียมห้องแยกโรครองรับไว้พอสมควร เผื่อสถานการณ์ระบาดมากกว่านี้ เรียกว่า การ์ดยังไม่ตก เต็มที่และเข้มข้นเตรียมความพร้อม นอกจากนี้ กำลังอยู่ระหว่างปรับแนวทางดูแลวินิจฉัยรักษาให้สอดคล้องกัน และอบรมเพิ่มเติมในส่วนรพ.เอกชน ส่วนเรื่องคลินิกไข้หวัด ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินมีข้อสั่งการให้เขตสุขภาพและจังหวัดที่มีกลุ่มเสี่ยง และนักท่องเที่ยว เริ่มปฏิบัติการแล้ว

เมื่อถามถึงผู้ป่วยที่ได้รับภูมิคุ้มกันจากแท็กซี่ที่หายป่วย นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า เบื้องต้นเท่าที่ทราบคืออาการยังทรงตัวทั้งสองราย

 

ที่มา:ข่าวสดออนไลน์