คนไทยลุ้นวัคซีนโควิดฟรี “จุฬาฯ-ใบยา” แจงผลทดลองดี คาดพร้อมใช้ในปี 64

จุฬาฯ จับมือ ใบยา ไฟโตฟาร์ม พัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 สำเร็จ ในห้องปฏิบัติการ เริ่มทดลองในมนุษย์ มิ.ย.64 พร้อมใช้ไม่เกินปี 64 ลั่นคนไทยใช้ฟรี เริ่มจากกลุ่มเสี่ยงก่อน อนาคตเล็งสร้างรายได้เพิ่มจากการส่งออกวัคซีนไปต่างประเทศ

ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา จุฬาฯ โดยการดำเนินการของ บริษัท ซียูเอ็นเทอร์ไพรส์ จำกัด ได้ให้การสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพ อย่างบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม จำกัด โดยร่วมกันขับเคลื่อนโครงการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จากใบพืชได้สำเร็จแล้วในห้องปฏิบัติการ

ขณะนี้ได้เริ่มทดลองวัคซีนในสัตว์และได้ผลค่อนข้างดี และมีผลข้างเคียงน้อย คาดจะเริ่มทดลองในมนุษย์ประมาณเดือนมิถุนายน 2564 หากสำเร็จจะพร้อมนำออกมาใช้ทันที ประมาณปลายปี 2564 นี้ ซึ่งคนไทยจะได้รับวัคซีนฟรี แต่จะเริ่มในกลุ่มเสี่ยง อาทิ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่บริเวณชายแดน หากมีวัคซีนเหลือเพียงพอ อาจมีการจัดจำหน่ายไปที่ต่างประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ประเทศต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จุฬาฯ ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมในการบริจาคคนละ 500 บาท จำนวน 1 ล้านคน โดยจะนำเงินจำนวนนี้ใช้พัฒนาโรงงานผลิตวัคซีน เพื่อจะได้มีกำลังผลิตเพียงพอถึงเดือนละ 1-5 ล้านโดส

ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า นับเป็นเรื่องท้าทายและจำเป็นอย่างมาก กับการจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 ให้เพียงพอต่อคนไทยทั้งประเทศจำนวนกว่า 66 ล้านคน ขณะนี้กระทรวงฯ ได้ตั้งงบประมาณ เร่งหาวัคซีน ทั้งจากการสั่งจองซื้อจากต่างประเทศ การนำเข้าวัคซีน ตลอดจนการผลิตวัคซีนในประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องดำเนินการควบคู่กันไป

ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุข ได้จองซื้อและซื้อ วัคซีนต้านโควิด-19 จาก บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า จำกัด ไว้แล้ว จำนวน 26 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชาชนจำนวน 13 ล้านคน

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพิงต่างชาติ และเชื่อว่าโครงการวัคซีนเพื่อคนไทยนี้ จะสำเร็จลุล่วง และเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้ประเทศไทยผ่านวิกฤติ พร้อมกลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว