เสียของ! ปล่อยบ้านพักอุทยานฯภูกระดึงร้าง 10 กว่าปี เหตุตรวจรับกันไม่จบ งบ 40 ล้านสูญ

เสียของปล่อยร้าง “บ้านพัก-ถนน” มูลค่า 40 ล้านบาทอุทยานฯ ภูกระดึง จ.เลย ของบ อบจ.เลยมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานฯ 10 กว่าปีตรวจรับกันไม่จบ ใช้งานไม่ได้ อธิบดีเผยช่วงส่งมอบเปลี่ยนตัวหัวหน้าอุทยานฯ เลยยืดเยื้อถึงวันนี้

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีเรื่องร้องเรียนมีการปล่อยให้อาคารบ้านพักรับรองและสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย ถูกทิ้งร้าง ไมได้รับการดูแลจนมีสภาพทรุดโทรม ว่า สิ่งปลูกสร้างดังกล่าวอุทยานฯ ภูกระดึง ได้รับงบประมาณมาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เลย มาดำเนินการก่อสร้าง แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวมีการเปลี่ยนหัวหน้าอุทยานฯ จึงยังไม่มีการรับมอบอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ มาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้มอบหมายให้ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ขอนแก่น (สบอ. ไปพูดคุยหารือว่าจะสามารถรับมอบมาเป็นของอุทยานฯ ได้หรือไม่ โดยรับมอบตามสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และเมื่อรับมอบแล้วก็สามารถใช้งบประมาณของอุทยานฯ ในการปรับปรุงได้เพื่อให้ใช้การได้ต่อไป

เมื่อถามว่าโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนเท่าไร นายธัญญา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางจังหวัดมาดำเนินการก่อสร้างให้ ส่วนงบประมาณในการก่อสร้างตนไม่แน่ใจ เพราะดำเนินการมานานและผ่านมาหลายอธิบดี ทั้งนี้ทราบว่าบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างบ้านพักรับรองและสิ่งปลูกสร้างหลายรายการ แต่สภาพในปัจจุบันตนไม่แน่ใจว่ามีสภาพเป็นอย่างไร ส่วนหนึ่งอาจยังใช้การได้แต่บางส่วนอาจชำรุด โดยกำลังให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบ

ส่วนกรณีปัญหาเรื่องสะพานวังอีเมืองสะพานแขวนข้ามลำน้ำพอง บ.บ้านนาน้อย ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน และตรวจสอบพบเป็นการบุกรุกเขตอุทยานฯ ภูกระดึงและอุทยานฯภูผาม่านนั้น นายธัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมากรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินการรื้อถอน เพราะไม่มีการขออนุญาตในการก่อสร้าง แต่มีชาวบ้านที่เดือดร้อนเรื่องเส้นทางสัญจรได้ร้องเรียนกับทางจ.เลย จึงชะลอการรื้อถอนออกไป อย่างไรก็ตามล่าสุดได้มีการหารือกับทางจังหวัดโดยจะให้มีการก่อสร้างสะพานขึ้นใหม่และรื้อของเดิมทิ้ง ซึ่งขณะนี้หัวหน้าอุทยานฯ ภูกระดึงได้เสนอเรื่องมาที่กรมแล้ว และรอการอนุญาตจากกรมให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมอุทยานฯ จากนั้นจะของบประมาณจากทางจังหวัดในการดำเนินการก่อสร้างต่อไป ส่วนกรณีเดิมที่ไม่มีการขออนุญาตก่อนก่อสร้างและเป็นการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯนั้น ก็ต้องมีการตรวจสอบตามข้อเท็จจริงต่อไปและว่ากันไปตามข้อข้อเท็จจริงว่าใครเกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบบ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสิ่งปลูกสร้างที่ถูกปล่อยทิ้งร้างในอุทยานฯ ภูกระดึง เป็นสิ่งปลูกสร้างตามโครงการก่อสร้างถนนลาดยาง และสาธารณูปโภคเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวบริเวณน้ำตกตาดฮ้อง บ.นาน้อย ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง โดยอุทยานฯ ภูกระดึงได้ขอรับงบประมาณสนับสนุนโครงการจาก อบจ.เลย ซึ่งเป็นฝ่ายว่าจ้างเอกชนดำเนินการก่อสร้างตามแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจากกรมอุทยานฯ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2547 โดยอบจ.เลยได้รับการจัดสรรงบประมาณจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในการดำเนินการก่อสร้างอาคารจำนวน 14 รายการ เช่น ศาลาพักผ่อน อาคารสำนักงาน บ้านพักเจ้าหน้าที่ ป้อมยาม ระบบประปา ห้องน้ำสาธารณะ ลานจอดรถ โรงกำเนิดไฟฟ้า สะพาน เป็นต้น เป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท และได้รับงบประมาณในการก่อสร้างถนนลาดยางสายบ้านนาน้อย-น้ำตกตาดฮ้อง ระยะทางกว่า 9 กม. เป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท ซึ่งอบจ.เลยมอบหมายให้สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 6 ขอนแก่นดำเนินการก่อสร้างถนนดังกล่าว

ทั้งนี้โครงการดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงปี 2549 และทาง อบจ.เลยมีการประสานให้อุทยานฯ ภูกระดึงรับมอบสิ่งปลูกสร้างและถนนดังล่าว ซึ่งทางหัวหน้าอุทยานฯ ภูกระดึงในขณะนั้นได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจรับในลักษณะทรัพย์สินที่ได้รับบริจาค แต่ตรวจสอบพบว่าอาคารมีการชำรุด เช่น กระเบื้องมุงหลังคาแตกจำนวน 10 กว่าแผ่น มีกระจกร้าวบางจุด ต้นไม้ประดับตาย วัสดุบางอย่างไม่เป็นไปตามแบบแปลน และถนนบางช่วงมีการชำรุด เป็นต้น และได้ประสานให้ อบจ.เลยแจ้งผู้รับเหมาเข้ามาซ่อมแซม แต่เมื่อมีการซ่อมแซมแล้วก็ยังไม่ได้มีการรับมอบคุรุภัณฑ์ทั้งหมดจนกระทั่งปัจจุบัน ทำให้ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้โดยเฉพาะสิ่งปลูกสร้างทั้ง 14 รายการ ซึ่งเวลานี้มีสภาพชำรุดทรุดโทรมและมีบุคคลภายนอกเข้าไปสร้างความเสียหายอย่างมาก

 

ที่มา   มติชนออนไลน์