ประเทศไทย กำลังเจรจาซื้อวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติมจาก 4 ประเทศ 5 ยี่ห้อ จากเดิมที่มีเพียงชิโนแวกและแอสตร้าเซนเนก้า เท่านั้น
วันที่ 17 เมษายน 2564 ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) เกี่ยวกับวัคซีนโควิด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
โดยมีการเจรจาเพิ่มเติมกับบริษัทผลิตวัคซีน จาก 5 ยี่ห้อ 4 ประเทศ ดังนี้
1. ประเทศรัสเซีย วัคซีนสปุตนิก วี
2. ประเทศจีน วัคซีนชิโนฟาร์ม และ CanSino Biologics
3.ประเทศอินเดีย วัคซีน COVAXIN จากบริษัท Bharat Biotech
4.ประเทศสหรัฐอเมริกา วัคซีนไฟเซอร์
วัคซีนที่เจรจารอบใหม่นี้เป็นวัคซีนทางเลือกสำหรับโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า “ประเด็นของเราคือ วัคซีนที่ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน ขายรัฐต่อรัฐเท่านั้น การที่รัฐซื้อเข้ามาแล้วขายต่อทำไม่ได้ ตามข้อกฎหมาย สิ่งที่พยายามทำอยู่ในตอนนี้คือ ให้องค์การเภสัชกรรมสั่งซื้อได้ เพื่อนำมาแจกจ่ายหรือให้กับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้รับไป หรือใครก็ตามที่มีขีดความสามารถในการฉีดวัคซีน”
นายกรัฐมนตรี ได้ฝากถึงแพทย์ พยาบาลที่เกษียณอายุไปแล้ว มารวมพลังกัน สมัครมาฝึกมาซ้อม เตรียมการเพื่อร่วมกันให้มากขึ้นทุกจังหวัด
นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด เปิดเผยว่า “สถานการณ์ปัจจุบันที่ไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ ตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการผลิตวัคซีนโควิด-19 โดยที่ผ่านมา บริษัทมีการประชุมทางไกลกับแอสตร้าเซนเนก้าอย่างใกล้ชิด เพื่ออัพเดตความคืบหน้าทุกขั้นตอน ให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของแอสตร้าเซนเนก้า ผู้เกี่ยวข้องทุกคนกำลังทำงานแข่งกับเวลา เพื่อผลิตวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพของคนในชาติ รวมถึงเศรษฐกิจไทยกลับคืนสู่ภาวะปกติอีกครั้ง”
