ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด 15 กันยายน 2564
กทม. ร่วมกับ สปสช. กระจาย ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง 2 ชุดต่อคน เริ่ม 16 ก.ย. เช็กสิทธิใครได้ มีขั้นตอนอย่างไร
วันที่ 15 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (14 ก.ย.) พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในงานแถลงข่าวความพร้อมแจกชุดตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง Antigen Test Kit (ATK) โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กทม. ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
รองผู้ว่าฯ ระบุว่า เนื่องจาก กทม. เป็นพื้นที่พิเศษ จึงไม่เพียงแต่การแจกชุดตรวจ ATK ผ่านหน่วยบริการเท่านั้น แต่ยังเน้นการกระจาย ATK ไปที่ชุมชนต่าง ๆ และสถานประกอบการที่เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ประกอบด้วย
- สำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุข จะแจกในกลุ่มตลาดจำนวน 410,000 ชุด
- กลุ่มร้านเสริมสวยจำนวน 20,000 ชุด
- กลุ่มร้านนวด สปา จำนวน 56,000 ชุด
- กลุ่มครู อาจารย์ จำนวน 300,000 ชุด
- กลุ่มชุมชนอีกจำนวน 420,000 ชุด
- กลุ่มขนส่งสาธารณะจำนวน 440,000 ชุด
กลุ่มเสี่ยงที่ได้รับชุดตรวจ ATK
สำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งสามารถรับชุดตรวจโควิด ATK ฟรี ได้แก่
- ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง 7 โรค
- ผู้ที่สงสัยว่ามีอาการติดเชื้อ (มีไข้ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจหอบ หายใจลำบาก)
- ผู้ที่อยู่ร่วมบ้านกับผู้ติดเชื้อโควิด
- ผู้ที่ทำงานประสานงานในชุมชน
ช่องทางแจกชุดตรวจ ATK
สำหรับช่องทางการแจกชุด ATK มี 2 ช่องทาง คือ แจก ณ ชุมชนเสี่ยงและตลาด สถานีขนส่งสาธารณะ ร้านเสริมสวย ร้านนวด สปา ครู อาจารย์ โดยสำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุขพื้นที่จะสำรวจผู้ที่มีคุณสมบัติและบริหารจัดการการแจกจ่ายชุด ATK
ส่วนอีกหนึ่งช่องทาง คือ แจกผ่านหน่วยบริการ (โรงพยาบาล คลินิกและร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ)
มี-ไม่มีสมาร์ทโฟน ต้องทำอย่างไร
กรณีประชาชนมีสมาร์ทโฟน ให้ประเมินความเสี่ยงผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ตอบคำถาม 3 ข้อ และไปรับชุด ATK ได้ที่คลินิกและร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ
ในกรณีประชาชนไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถไปขอรับได้ที่โรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองและยืนยันตัวตนให้
ทั้งนี้ ประชาชนจะได้รับคนละ 2 ชุด และต้องตรวจห่างกัน 5 วัน