ผู้ปกครองเกินครึ่งไม่มั่นใจวัคซีนโควิด กรมอนามัยพบเด็กยังไม่ฉีด 28%

วัคซีนโควิด เด็ก
FILE PHOTO : Cristina Vega RHOR / AFP

เด็กอายุ 5-11 ปี ยังไม่ฉีดวัคซีนเลย 28% ผู้ปกครองไม่มั่นใจประสิทธิภาพร้อยละ 55.3 กรมอนามัยขอพ่อแม่มั่นใจความปลอดภัย ป้องกันเด็กติดโควิดอาการรุนแรง เสียชีวิต 

วันที่ 15 พฤษภาคม 2565 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กยังคงต้องเฝ้าระวังและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงของการเปิดภาคเรียนแบบออนไซต์ทุกชั้นเรียน เด็กควรได้รับวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ

แต่จากผลการสำรวจอนามัยโพลเรื่อง “ความมั่นใจของผู้ปกครองต่อการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 – 11 ปี” ระหว่างวันที่ 22 เมษายน – 11 พฤษภาคม 2565 พบว่า ตอนนี้เด็กอายุ 5 – 11 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และจะฉีดให้ครบ ร้อยละ 54.1 และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลย ร้อยละ 28.7

เหตุผลที่ทำให้กลุ่มผู้ปกครองไม่พาเด็กเข้ารับการฉีดวัคซีน คือ ยังมีความกังวลว่าเด็กอาจมีอาการไม่พึงประสงค์ที่รุนแรง ร้อยละ 77.2 และไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ และความปลอดภัยของวัคซีน ร้อยละ 55.3 รวมทั้งยังกังวลว่าเด็กที่ไม่แข็งแรงหรือมีโรคประจำตัว อาจได้รับผลกระทบที่รุนแรงจากวัคซีน ร้อยละ 37

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5 – 11 ปี สามารถสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตในเด็กได้ รวมทั้งการกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาที่โรงเรียน จึงขอให้ผู้ปกครองมั่นใจในความปลอดภัยของการฉีดวัคซีน โดยการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนในเด็ก ควรให้เด็กกินอาหาร หากเด็กมีอาการป่วย มีไข้ ร่างกายอ่อนเพลีย ควรรักษาอาการให้หายจนกว่าจะเป็นปกติก่อน สำหรับเด็กที่มีโรคประจำตัวรุนแรง อาการยังไม่คงที่ ควรเข้ารับการประเมินอาการจากแพทย์ประจำตัวก่อนเข้ารับการฉีด

“อาการที่พบได้หลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์ คือ ปวด บวม แดง เฉพาะที่ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เป็นไข้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องสังเกตอาการหลังการฉีดอย่างน้อย 30 นาที ในสถานที่ฉีดวัคซีน ซึ่งอาการดังกล่าว สามารถหายได้เองเมื่อกินยาลดไข้ และพักผ่อนให้เพียงพอ หลังฉีดวัคซีน 1 สัปดาห์” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว