คุยกับเอกราช โดย เอกราช เก่งทุกทาง

ปีฝุ่นตลบ

เยอร์เก้น คล็อปป์-เป๊ป กวาร์ดิโอล่า-มิเคล อาร์เตต้า
เยอร์เก้น คล็อปป์-เป๊ป กวาร์ดิโอล่า-มิเคล อาร์เตต้า
คอลัมน์ : คุยกับเอกราช
ผู้เขียน : เอกราช เก่งทุกทาง

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปีนี้ถือเป็นปีฝุ่นตลบ ทีมลุ้นแชมป์ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ พลาดได้ เซได้ ห่างไกลจากความเป็นซูเปอร์ฮีโร่

เรื่องที่จะมีทีมไหนทำแต้มทิ้งห่าง 7-8 คะแนน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

แมนฯซิตี้ แชมป์เก่า ยังถูกยกเป็นเต็ง 1 แต่ความจริงคือ เรือใบสีฟ้าเจอปัญหาร้อยแปด เป็นปีที่กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปวดหัวที่สุด เพราะนักเตะล้ามาจากการพาทีมคว้า 3 แชมป์ฤดูกาลที่แล้ว

ปีนี้แค่ผ่านไปไม่ถึงครึ่ง ซิตี้เดี้ยงกันระนาว เควิน เด บรอยน์ ลงเล่นนัดเปิดฤดูกาลกับเบิร์นลีย์ ก็เจ็บเอ็นเข่า พักยาวมาเกือบ 5 เดือน ดาวยิง 52 ประตู เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ล่าสุดเจ็บเท้า ต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง

เฌเรมี่ โดกู ปีกตัวจี๊ด ฟอร์มกำลังรุ่ง ก็มาเจ็บกล้ามเนื้อ ทำให้ทีมมีออปชั่นน้อยลงไปอีก

ที่สำคัญคือ ตัวใหม่อย่าง มัทเธอุส นูเนส กับ มัตเตโอ โควาซิช 2 มิดฟิลด์ค่าตัวรวมกัน
เกือบ 80 ล้านปอนด์ ยังเป็นหลักให้ทีมไม่ได้ กุนซือเป๊ปจึงต้องปรับแท็กติกช่วย รวมทั้งดันเด็กดาวรุ่งจากอคาเดมี่ขึ้นมาเสริม

มาตรฐานของซิตี้ยังไม่หายไปไหน แต่ความสม่ำเสมอมันลดลง หลายนัดจึงเสียแต้มแบบไม่น่าเสีย

แพ้วูล์ฟส์ พลิกล็อก, โดนสเปอร์สกับเชลซี ตามตีเสมอช่วงท้ายเกม ล่าสุดนำคริสตัล พาเลซ 2 ประตู ยังโดนไล่เจ๊าอย่างเหลือเชื่อ

การชะงักของแมนฯซิตี้ เปิดช่องให้ผู้ท้าชิงหลายทีมเร่งแซงไปเรียบร้อย

อาร์เซน่อลกับลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้ว โอกาสเป็นแชมป์เปิดกว้างพอกันทั้งคู่

แต่ก็ยังเอาแน่ไม่ได้ทั้งคู่

อาร์เซน่อลเกมรับแน่นขึ้น จากการทุ่มซื้อ เดแคลน ไรซ์ มาคุมแดนกลาง แต่ปืนใหญ่ก็เคยพลาด โดนฟูแล่มบุกมาแบ่งแต้มในบ้าน แถมวันที่แพ้ นิวคาสเซิล กับแอสตัน วิลล่า ก็แพ้แบบแก้เกมไม่ตก

กุนซือมิเคล อาร์เตต้า ถูกตั้งคำถามเรื่องผู้รักษาประตู ที่ใช้ ดาบิด ราย่า เป็นมือ 1 แทน อารอน แรมสเดล นี่คือจุดเสี่ยงที่อาจตัดสินกันเลยว่า อาร์เซน่อลจะเป็นแชมป์ได้หรือไม่

ดาบิด ราย่า ใช้เท้าเปิดบอลดีกว่า แต่การออกมาตัดลูกโด่งและการเซฟประตูยังเป็นรอง แรมสเดล ตอนนี้กุนซือ อาร์เตต้า เลือก ราย่า เป็นมือ 1 แต่คนก็ยังสงสัยอยู่ดีว่า คิดถูก หรือคิดผิด ?

หงส์แดง ลิเวอร์พูล จุดประกายให้แฟน ๆ ฝันถึงแชมป์ลีก สมัยที่ 20 ด้วยเกมรุกดุดัน เป็นลิเวอร์พูล 2.0 ที่พัฒนาขึ้นทุกด้าน แดนกลางโคตะระฟิต เล่นเคาน์เตอร์เพรสสุดโหด ใจสู้เกินร้อย ตัวสำรองก็ลงมาเปลี่ยนเกมได้อย่างทรงพลัง

ลิเวอร์พูลคัมแบ็ก แซงชนะคู่แข่งช่วงท้ายเกมได้หลายนัด แต่ก็มีตำหนิ เสียแต้มง่าย ๆ ในนัดเสมอลูตัน ทีมท้ายตาราง 1-1

ยิ่งล่าสุดที่เสมอ แมนฯยูไนเต็ด, เครดิตของหงส์แดงระเหยไปหลายเปอร์เซ็นต์

มีโอกาสยิง 34 ครั้ง เข้ากรอบแค่ 8 ไม่ได้ซักประตู สถิตินี้บั่นทอนความน่าเชื่อถือของลิเวอร์พูลอย่างแรง

แต่นั่นก็คือส่วนหนึ่งในภาวะฝุ่นตลบ

ซิตี้ อาร์เซน่อล ลิเวอร์พูล เก่งพอกัน แต่มีอาการ “สะอึก” และ “สะดุด” ทุกทีม

การลุ้นแชมป์ปีนี้ จึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ ผลัดกันรุ่ง ผลัดกันร่วง ผลัดกันนำ ผลัดกันตาม

กว่าฝุ่นจะจาง อาจต้องรอถึงเมษายน วัดกันใน 2 เดือนสุดท้าย !