ไอซีที

Robinhood อัพสปีดซุปเปอร์แอป เปิดบริการใหม่ “ซื้อด่วน-เรียกรถ”

Robinhood เปิดบริการ Robinhood Mart อย่างเป็นทางการ หวังยอดขาย 500ล้านบาทในปี 2566 หลังทดสอบ มียอดใช้หมื่นครั้ง/เดือน พร้อมเผย ระบบเรียกรถโดยสารจะพร้อมใช้ไตรมาส 4/2565

วันที่ 27 กันยายน 2565 นายธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์ม “โรบินฮู้ด” กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของ Robinhood แพลตฟอร์มเกิดขึ้นจากความต้องการที่จะช่วยเหลือ “คนตัวเล็ก” ทั้งฝั่งผู้ประกอบการร้านค้า ลูกค้า และไรเดอร์ เริ่มต้นจากธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรีในช่วงวิกฤตโควิด-19 ด้วยการไม่เก็บค่า GP กับร้านอาหาร

หลังจากนั้นจึงได้ขยายขอบเขตการให้บริการสู่ธุรกิจท่องเที่ยวด้วย “Robinhood Travel” บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์แบบครบวงจร (all-in-one online travel service) ไม่เก็บค่าคอมมิชชั่นจากโรงแรมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย

ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายแล้ว ภาคธุรกิจกลับมาเปิดให้บริการตามปกติมากยิ่งขึ้นแต่ได้เกิดภาวะเหนือธรรมชาติที่คนเมืองกำลังเผชิญ คือ สภาพอากาศช่วงหน้าฝน ส่งผลให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดอย่างหนักหน่วง และเกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ ด้วยเหตุนี้ Robinhood เล็งเห็นถึงปัญหาและความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวันของคนเมือง จึงเปิดให้บริการ “Robinhood Mart” (โรบินฮู้ด มาร์ท) บริการสั่งซื้อสินค้า ของสด ของใช้ จากร้านค้า (Mart Service)

“จาก Pain Point ของบ้านเราคือเรื่องฝนตกรถติด การจะใช้รถในเวลาที่ต้องการก็ไม่มี รวมถึงร้านค้าในช่วงฝนตกที่ซบเซา ดังนั้เราจึงใช้แพลตฟอร์มซุปเปอร์แอปแก้ปัญหาเหล่านี้ โดยเราได้ลองทดสอบ Robinhood Mart โดยการนำไอคอนไปวางไว้บนแอปโดยไม่ได้ประกาศหรือทำการตลาดใดๆ ปรากฎว่าผลตอบรับดีมาก คนที่เขาใช้บริการด้านการสั่งอาหารก็หันมาใช้บริการ Mart”

นายธนา ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า Mart จะทำให้ไรเดอร์ของโรบินฮู้ดมีงานทำมากขึ้น ร้านอาหารบนแพลตฟอร์มจะได้ขายของอย่างอื่นด้วย นอกจากนี้ Mart จะช่วยดึงเอาความแข็งแรงของกลุ่มลูกค้าเราที่เรียกว่า “กลุ่มสตาร์บัก” คือกลุ่มที่มีกำลังซื้อและมีเครดิตจากธนาคาร เป็นฐานลูกค้าที่ผูกบัญชี SCB easy และบัตรเครดิต ซึ่งเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ใช้บริการโรบินฮู้ด

“ดังนั้นเราต้องคิดว่าลูกค่าที่มีกำลังซื้อเหล่านี้เวลาที่รถติดเราควรชวนเขาไปซื้ออะไร ไปช่วยร้านค้าเล็กๆ น้อยๆ อย่างไร นั่นคือจุดเริ่มของ Robinhood Mart เราเริ่มได้เลยเพราะไรเดอร์เรามีอยู่แล้ว ทำแอปก็ไม่ได้แพง”

หลังจากทดลองเปิดให้บริการ soft launch เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า มียอดสั่งซื้อสินค้ามากกว่า 10,000 ออเดอร์ต่อเดือน ยอดสั่งซื้อต่อออเดอร์เฉลี่ย 280 บาท โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมใน Robinhood Mart คือ ผักสวนครัว เนื้อสัตว์ และยา ตามลำดับ

นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากร้านค้าถึง 4,000 ร้านค้า ซึ่งเป็นพรีเมี่ยมแบรนด์กว่า 100 แบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์เครื่องสำอางและสินค้าไอทีที่ โรบินฮู้ด เห็นว่ามีความต้องการซื้อสินค้าส่งด่วนสูง และสินค้ากลุ่มนี้ยังมีมาร์จิ้นสูงอีกด้วย

นายสีหนาท ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงจุดแข็งและความแตกต่างว่า  Robinhood Mart มีร้านค้าพันธมิตรกว่า 4,000 ร้าน

รวมถึงร้านค้าเอ็กซ์คลูซีฟที่เปิดให้บริการเฉพาะที่ Robinhood Mart อย่าง HomePro และ EVEANDBOY ทำให้มีสินค้าคุณภาพระดับพรีเมียม การให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว ส่งไวแบบออนดีมานด์เดลิเวอรี ไม่ต้องรอรอบส่ง ไรเดอร์ที่มีคุณภาพ รวมถึง Call Center ที่จะช่วยดูแลลูกค้าและร้านค้าตลอด 24 ชั่วโมง

ที่สำคัญ GP ต่ำสุดในตลาดไม่เกิน 15% จะเป็นจุดต่างที่ช่วยให้ Robinhood Mart แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น และด้วยความแข็งแกร่งของฐานลูกค้า Robinhood ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ทำให้มีการตั้งเป้าหมายในปี 2566 ว่ากลุ่มบริการ “Robinhood Mart” จะมีผู้ประกอบการและแบรนด์เข้าร่วมบนแพลตฟอร์มกว่า 10,000 ราย มียอดขายบนแพลตฟอร์ม (GMV) กว่า 500 ล้านบาท มียอดออเดอร์เฉลี่ย 4,000 ออเดอร์/วัน และมียอดสั่งซื้อต่อออเดอร์โดยเฉลี่ยประมาณ 300 บาท”

นอกจากนี้ นายสีหนาท ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ปัจจุบัน “โรบินฮู้ด” มีบริการแล้ว 3 กลุ่มบริการ คือ 1.บริการสั่งอาหาร (Food Delivery)  2. บริการด้านการท่องเที่ยวครบวงจร (Travel service) 3. บริการซื้อของด่วน (Mart Service) ล่าสุด “โรบินฮู้ด” ได้รับใบอนุญาตจากกรมขนส่งทางบกให้ประกอบธุรกิจการเรียนรถได้แล้ว

“แผนธุรกิจของ Robinhood ในก้าวถัดไป เราคาดว่าในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะสามารถเปิดให้บริการ Robinhood Ride แพลตฟอร์มเรียกรถ (Transportation Platform) และบริการรับ-ส่งของ (Express Service) ตามลำดับ

โดยบริการทั้งหมดนี้นับเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานในการสร้างการเติบโตของธุรกิจ ก่อนต่อยอดขยายสู่บริการอื่นๆ ต่อไปในอนาคตเพื่อปูทางสู่การเป็น “Super App สัญชาติไทย” ที่สามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับภูมิภาคต่อไป (Regional Player)” นายสีหนาท กล่าวทิ้งท้าย