AIS ขยับชิงแม่ค้าออนไลน์ ดันแพ็กเกจ Online Seller เจาะตลาด

แม้การระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายจนผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว แต่พฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กลายเป็นวิถีปกติของผู้บริโภคในปัจจุบันทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซยังเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในแง่มูลค่าตลาด และจำนวนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ทั้งในกลุ่มเอสเอ็มอี (SMEs) ไปจนถึงรายเล็กรายน้อย (แต่ยอดขายไม่น้อย) ซึ่งอาจไม่ได้มีโปรดักต์ของตนเอง แต่มีความสามารถในการขายก็เริ่มต้นธุรกิจได้ด้วย “สมาร์ทโฟน” เพียงเครื่องเดียว

“เอไอเอส” ในฐานะผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และอินเทอร์เน็ตบ้าน ปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 49 ล้านรายในจำนวนนั้นมีไม่น้อยเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์

SMEs ไทยในตลาดอีคอมเมิร์ซ

“ปรัธนา ลีลพนัง” หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) เปิดเผยว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ปี 2565 อยู่ที่ 6.2 แสนล้านบาท และมีการคาดการณ์ว่าปี 2566 และ 2567 จะขยับขึ้นมาที่ 6.34 และ 6.94 แสนล้านบาท ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2562 หรือช่วงก่อนโควิดมีมูลค่าที่ 2.12 แสนล้านบาทเท่านั้น เทียบกันแล้วเติบโตถึง 3 เท่า

ปรัธนา ลีลพนัง
ปรัธนา ลีลพนัง

หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโต คือเอสเอ็มอี หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่เป็นฟันเฟืองในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ โดยข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ระบุว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยราว 3.18 ล้านราย แบ่งเป็นกลุ่มคนขายออนไลน์ (residential SMEs) 2.35 ล้านราย และกลุ่มที่จดทะเบียนนิติบุคคล 8.3 แสนรายรวม ๆ แล้วสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 34.2% ของ GDP ทำให้เกิดการจ้างงานประมาณ 12.6 ล้านคน

สแกนกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

“คณาธิป ธีรทีป” หัวหน้าแผนกงานการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ และลูกค้าโพสต์เพด AIS กล่าวว่า จากข้อมูลการใช้งานของลูกค้าปัจจุบันพบว่า ลูกค้า 6 แสนราย มีพฤติกรรมในการเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ มีการใช้งานแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และแอปโซเชียลต่าง ๆ ที่เข้าข่ายว่าใช้ในเชิงธุรกิจ แต่เป็นผู้ใช้ธรรมดาที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนนิติบุคคล

คณาธิป ธีรทีป
คณาธิป ธีรทีป

“จริง ๆ เราเชื่อว่าไซซ์ของคนขายออนไลน์น่าจะมากกว่า 2.35 ล้านราย อยู่มาก อย่างตอนนี้แทร็กได้แค่ 6 แสนราย แต่จากการรีเสิร์ชเชื่อว่าตัวเลขจริง ๆ อาจโตจาก 2.35 ล้านไปอีกประมาณ 3 เท่าด้วย อาจแฝงอยู่ในกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่ค้าขายเป็นอาชีพเสริม หรือเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมที่ไม่สามารถแทร็กได้อีกเป็นจำนวนมาก”

ADVERTISMENT

ทั้งยังพบว่า กลุ่มคนขายออนไลน์ไม่ได้ต้องการแค่เครือข่ายที่เชื่อมต่อกับ online platform ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้นแต่ต้องการซอฟต์แวร์หรือโซลูชั่นที่ช่วยบริหารจัดการระบบหลังบ้านได้ด้วยตนเอง เช่น การจัดการเอกสารและบัญชี การทำสื่อโฆษณา การจัดส่งสินค้า ฯลฯ เพื่อลดต้นทุนและเวลา และถ้าดูจากสถิติของ สสว.จะพบว่า ผู้ประกอบการ 1 ราย จ้างพนักงานเฉลี่ย 3-4 รายเท่านั้น

ผนึก 7 พันธมิตรจัด 4 แพ็กเกจ

“เรามองเห็นโอกาสในการสนับสนุนการทำธุรกิจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลจึงสปินออฟการทำงานจากยูนิต business มาที่กลุ่มคนขายออนไลน์โดยเฉพาะ และจับมือกับพันธมิตรที่เกี่ยวกับการขายสินค้าออนไลน์ทำแพ็กเกจ online seller ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้ มีทั้งแพ็กเกจอินเทอร์เน็ต และสิทธิพิเศษจากพันธมิตร ในแง่ธุรกิจช่วยเพิ่มความผูกพันกับแบรนด์ด้วย เพราะมีตัวเลือกใหม่ ๆ ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จากที่แต่เดิมแพ็กเกจที่เขาใช้อยู่อาจไม่ได้ตอบโจทย์การทำธุรกิจขนาดนั้น”

ADVERTISMENT

โดย AIS ร่วมกับพันธมิตรทั้ง 7 ราย คือ TikTok Shop, แพลตฟอร์มสำหรับการออกแบบกราฟิก Canva, Microsoft 365, LINE MAN MESSENGER, ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ MyOrder, แอปพลิเคชั่นถุงเงิน และระบบจัดการบัญชี FlowAccount ออกแบบแพ็กเกจ online seller 4 แพ็กเกจ ที่จะมีราคา และสิทธิพิเศษจากพันธมิตรแต่ละรายแตกต่างกันไป ได้แก่ 1.แพ็กเกจ AIS All in One เป็นแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตที่มาพร้อม AI Router 2 ตัว, SIM Net 20GB และ Microsoft 365 Family ใช้ได้สูงสุด 6 ผู้ใช้ พร้อม One Drive 1TB ต่อผู้ใช้ สำหรับลูกค้า AIS รายเดือนที่มียอดค่าใช้บริการ 349 บาทขึ้นไป ซื้อได้ในราคา 1,199 บาท/เดือน (ลูกค้าทั่วไป 1,499 บาท/เดือน) จะได้ On-Top Internet 20GB สำหรับหมายเลขรายเดือนที่ใช้รับสิทธิเท่านั้น

2.แพ็กเกจ AIS 5G Seller เริ่มต้น 699 บาท/เดือน มาพร้อมตัวช่วยด้านการขาย เช่น รับสิทธิในการใช้งาน Canva Pro ฟรี 45 วัน พร้อมโปรแกรมตัวช่วยระบบหลังบ้าน MyOrder ฟรี 6 เดือน มีระบบขนส่งจาก LINE MAN MESSENGER รับส่วนลดกว่า 3,100 บาท 3.แพ็กเกจ AIS 5G TikTok Shop สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สายไลฟ์สด มาพร้อมเน็ต 5G เต็มสปีด โทร.คุ้มทุกเครือข่าย ฟรีค่าโฆษณาบน TikTok มูลค่า 300 บาท และโปรแกรมดูแลลูกค้าจาก FlowAccount ราคา 699 บาท/เดือน และ 4.แพ็กเกจ AIS 5G ถุงเงินโซเชียล เน้นการใช้โซเชียล ไม่ว่าจะเป็นแอปถุงเงิน, LINE, Instagram และ Facebook ซึ่งให้ใช้เน็ตไม่อั้น รับเน็ตเต็มสปีด 30GB ราคา 499 บาท/เดือน

“คณาธิป” พูดถึงการทำตลาด และการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเอสเอ็มอีและพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ว่าเริ่มจากการสื่อสารผ่านพันธมิตรที่มีฐานลูกค้าเดิมของตน รวมถึงโปรโมตในช่องทางต่าง ๆ ของ AIS และจำหน่ายผ่านร้าน Telewiz ทั่วประเทศ

เป้าหมายและความคาดหวัง

ในแง่การตั้งเป้ายอดขายชัดเจนว่า เพื่อขยายลูกค้ากลุ่มที่เป็นคนขายออนไลน์ให้ถึง 1 ล้านรายภายใน 1 ปี หรือมีส่วนแบ่งตลาดเอสเอ็มอีครึ่งหนึ่งของตลาดรวม

“1-2 เดือนต่อจากนี้น่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเดือนละ 10,000 ราย จะเห็นการเติบโตในเซ็กเมนต์นี้ชัดเจนขึ้น ซึ่งนอกจากเป้าหมายเชิงธุรกิจ เรายังต้องการส่งเสริมความสามารถของเอสเอ็มอีด้วยการจัดเวิร์กช็อปการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ร่วมกับพันธมิตร”

ในเชิงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้วางแผนที่จะเพิ่มโซลูชั่นตามความต้องการของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ เช่น ด้านการซื้อสื่อโฆษณา เป็นต้น

ด้าน พัชริดา สมิทธิเนตย์ Country Community Manager Canva กล่าวว่า Canva เริ่มเข้ามาบุกตลาดในประเทศไทยราว 1 ปี อยู่ในช่วงสร้างการรับรู้ในวงกว้าง และปรับผลิตภัณฑ์ให้เข้ากับผู้ใช้งานชาวไทยมากขึ้น ความร่วมมือกับ AIS เป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างการรับรู้ในแบรนด์ และน่าจะช่วยให้เอสเอ็มอีทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้ต้นทุนน้อยลง เพราะ Canva มีเครื่องมือที่ช่วยให้การออกแบบทำได้ง่ายขึ้น ประหยัดทั้งเงินและเวลา

“ศุภกิตต์ ประเสริฐมรรค” ผู้บริหารฝ่ายการตลาด MyOrder กล่าวว่า ความร่วมมือกับ AIS ทำให้เกิดการรับรู้ในแบรนด์มากขึ้น มีฐานลูกค้าเติบโตขึ้น แต่นอกจากสิ่งเหล่านั้น การที่พันธมิตรแต่ละรายทำงานร่วมกันจะทำให้เอสเอ็มอี หรือคนขายออนไลน์ในไทยทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น