“Spotify” ปลดพนักงานระลอกใหม่ 1,500 คน นับเป็นการปลดพนักงานครั้งที่ 3 ของปี เหตุบริษัทประสบปัญหาด้านการจัดการค่าใช้จ่าย
วันที่ 4 ธันวาคม 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ยักษ์แพลตฟอร์มสตรีมเพลง “สปอติฟาย” (Spotify) ตัดสินใจลดพนักงานประมาณ 1,500 คน หรือ 17% ของพนักงานทั้งหมด เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับการเติบโตที่ช้าลง ซึ่งพนักงานที่ได้รับผลกระทบจะได้รับอีเมล์แจ้งในวันนี้ (4 ธ.ค.) และเข้าพบฝ่ายทรัพยากรบุคคลเพื่อสิ้นสุดสัญญาการจ้างงานภายในวันพรุ่งนี้ (5 ธ.ค.)
- กรมอุตุฯเตือน 6-12 พ.ค.นี้ ลมเปลี่ยนทิศ-แปรปรวน ฝนตกหนัก ท่วมฉับพลัน
- เปิดราคา Trade In “iPad” ก่อนเปิดตัวรุ่นใหม่ ลดสูงสุด 23,200 บาท
- เผยยอดจดทะเบียนรถ EV เดือนเมษายน BYD Dolphin เสียแชมป์ Deepal S07
นายแดเนียล เอ็ก (Daniel Ek) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Spotify กล่าวว่า ตอนนี้บริษัทเน้นให้ความสำคัญกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียบนแพลตฟอร์มอย่างครีเอเตอร์และผู้ใช้งานก่อน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีจำนวนบุคลากรมากเกินกว่าภาระงานที่มีอยู่ การตัดสินใจดังกล่าวจึงเป็นการทำเพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์อย่างแท้จริง
“บริษัทจะมุ่งเน้นไปที่การทำงานและวางโครงสร้างองค์กรแบบลีน เพื่อช่วยให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน และนำมาซึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทสามารถนำผลกำไรกลับมาลงทุนในธุรกิจอีกครั้ง”
รายงานด้วยระบุว่า Spotify กำลังประสบปัญหาด้านการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย เนื่องจากเงื่อนไขข้อตกลงของใบอนุญาตกับผู้ถือลิขสิทธิ์เพลง และการลงทุนในธุรกิจพอดแคสต์ที่มากเกินไป
ก่อนหน้านี้ ในเดือน ม.ค. และ มิ.ย. 2566 Spotify ได้ปรับลดพนักงาน 6% และ 2% ของจำนวนพนักงานขณะนั้นตามลำดับ โดยการปลดพนักงานครั้งที่สองของปี กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือพนักงานในกลุ่มธุรกิจพอดแคสต์ราว 200 คน รวมถึงในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา Spotify ยังได้ประกาศปรับขึ้นราคาแพ็กเกจพรีเมี่ยมอีกด้วย
ทั้งนี้ รายได้ประจำไตรมาส 3/2566 ของ Spotify อยู่ที่ 3,357 ล้านยูโร (ประมาณ 120,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 11% และมีกำไรจากการดำเนินงาน 32 ล้านยูโร (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) รวมถึงมีฐานผู้ใช้งานรวม 574 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 26%
