กลยุทธ์เปิดตัว Galaxy AI ต้นปีเห็นผล ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟน Samsung พุ่งกลับมาครองแชมป์เหนือ Apple อีกครั้ง คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1/2024 สดใสโต 930% อานิสงส์เอไอบูม
วันที่ 19 เมษายน 2567 รายงานจาก IDC บริษัทวิจัยตลาดสินค้าไอที เปิดเผยว่า ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ไตรมาส 1 ปี 2567 ขยายตัวร้อยละ 7.8 ขณะยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Samsung ได้กลับมาครองส่วนแบ่ง 20.8% อันดับหนึ่งของตลาดสมาร์ทโฟน และมีการจัดส่งกว่า 60.1 ล้านยูนิต เฉือนคู่แข่งอย่าง Apple inc. ที่ครองส่วนแบ่งอันดับหนึ่งในไตรมาสก่อนหน้า โดยในไตรมาส 1/2024 นี้ Apple จัดส่งมือถือ 50.1 ล้านยูนิต และมีส่วนแบ่ง 17.3% ของตลาด
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดังประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 2 พ.ค. ย้อนหลัง 10 ปี
รายงานระบุด้วยว่ายอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 7.8% หรือกว่า 289.4 ล้านเครื่องในไตรมาสแรกของปี 2024 แม้ยังมีความท้าทายทางเศรษฐกิจมหภาคยังคงอยู่ในหลายตลาด การขยายตัวของตลาดสมาร์ทโฟนนี้นับเป็นไตรมาสที่สามติดต่อกัน เป็นตัวบ่งชี้ที่แข็งแกร่งว่าการฟื้นตัวกำลังดำเนินไปอย่างดี
นายไรอัน ไรธ รองประธานฝ่ายการติดตามอุปกรณ์คอนซูมเมอร์และโทรศัพท์มือถือของ IDC ระบุว่า ขณะที่ Apple สามารถครองแชมป์จัดส่งมือถือสูงสุดได้ในช่วงปลายปี 2023 แต่ Samsung ก็ประสบความสำเร็จในกลยุทธ์การทำตลาดและนำเสนออุปกรณ์ในไตรมาสแรกของปีนี้
“IDC คาดว่าทั้ง 2 บริษัท นี้จะยังคงถือแย่งแชมป์ในตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ แต่การฟื้นคืนชีพของ Huawei ในจีนรวมถึงผลกำไรที่โดดเด่นจาก Xiaomi ก็ยังน่าสนใจ ทั้ง OPPO/OnePlus และ Vivo มีแนวโน้มที่จะมี OEM ทั้งต่างกำลังมองหาพื้นที่เพื่อขยายและกระจายความเสี่ยง เมื่อการฟื้นตัวดำเนินไป เราจะเห็นบริษัทชั้นนำได้รับส่วนแบ่งการตลาดสูงอยู่ เนื่องจากแบรนด์ขนาดเล็กต่อสู้เพื่อวางตำแหน่งแบรนด์ของตัวเองในแต่ละดับ”
รายงานนี้ยังสอดคล้องกับการคาดการณ์รายได้ของ Samsung Electronics ซึ่งรับผิดชอบผลิตชิปความจำ และล่าสุดเริ่มผลิตชิปเอไอแล้ว ได้เผยประมาณการผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2024 ว่ากำไรจากการดำเนินงาน (operating profit) อาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า (YOY) ด้วยการคาดการณ์ว่าหน่วยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป จะทำกำไรได้ครั้งแรกในรอบปีกว่า และยอดขายสมาร์ทโฟนก็ดีขึ้น
ส่วนกำไรคาดว่าในไตรมาส 1 ปีนี้ จะสูงถึง 6.6 ล้านล้านวอน (ประมาณ 180,000 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 931.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันก็ระบุว่า รายรับเพิ่มขึ้น 11.4% เป็น 71 ล้านล้านวอน (ประมาณ 1.93 ล้านล้านบาท)
ด้านนายทอม คัง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ เคาน์เตอร์พอยต์ รีเสิร์ช (Counterpoint Research) บอกกับนิกเคอิ เอเชียว่า ผลกำไรของซัมซุงส่วนใหญ่มาจากแผนกชิปหน่วยความจำ เนื่องจากทั้งราคาและดีมานด์เพิ่มขึ้นจากการเติบโตของ AI
โดยชิปความจำของ Samsung มีการยกระดับผลิตเป็นชิ้นส่วน high-bandwidth memory ซึ่งมีความสำคัญต่อการใช้งาน AI ในยุคปัจจุบัน
นอกจากนั้น สมาร์ทโฟนก็ฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ดีมานด์สมาร์ทโฟนรุ่น Galaxy S24 Series ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S23 กว่า 10%
นอกจากนี้ การเปิดตัวฟีเจอร์ Galaxy AI ในสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ตั้งแต่ช่วงต้นปี ถือเป็นการเร่งให้แบรนด์อื่น ๆ ที่มีกำหนดการเปิดตัวหลังจากนั้น ต้องเร่งนำเอไอมาใส่ในอุปกรณ์เรือธงของตน เป็นการกดดันตลาดและจุดกระแส AI Phone ซึ่ง Galaxy AI ยังมีการอัพเดตและถูกใส่เข้าไปในอุปกรณ์ของ Samsung อีกหลายรุ่น ขณะที่คู่แข่งอย่าง Apple ยังไม่สามารถ integrate ให้อยู่บนเครื่องได้
อย่างไรก็ตาม การที่ Apple มียอดขาย-จัดส่งเครื่องต่ำลง 10% จนเสียแชมป์ อาจไม่ได้มาจากการแข่งขันด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเดียว แต่ Apple กำลังเผชิญปัญหาถูกกีดกันในตลาดจีน กับแรงกดดันในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากข้อพิพาทคดีการผูกขาดตลาดของบริการต่าง ๆ เช่น การส่งข้อความและ App Store เป็นต้น
ยอดการขายสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy S24 และเรือธงรุ่นอื่น ๆ ที่จะมีฟีเจอร์ Galaxy AI ที่จะประกาศเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 30 เมษายน 2567 จึงน่าจับตามองอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เห็นว่าผู้คนเริ่มมองหาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนโฉมโทรศัพท์มือถือแล้วหรือยัง
