ทำไม Apple ถึงทิ้งตลาดใน “จีน” ไม่ได้ ?

apple จีน
REUTERS/Aly Song

ชวนสำรวจความสำคัญของตลาดใน “จีน” สำหรับยักษ์ “Apple” เมื่อยอดขาย iPhone ไตรมาส 1/2567 ทั่วโลกลดลง 9.6% หลังรับผลกระทบจากยอดขายในจีนซบเซาหนัก

วันที่ 16 เมษายน 2567 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลของ International Data Corporation (IDC) ผู้บริการให้คำปรึกษาด้านการตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ระบุว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนในไตรมาส 1/2567 ของ “แอปเปิล” (Apple) อยู่ที่ 50.1 ล้านเครื่อง ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 9.6% ซึ่งสวนทางกับภาพรวมการจัดส่งสมาร์ทโฟนทั่วโลกกว่า 289.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 7.8%

รายงานระบุว่า ยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของ Apple ในช่วงเวลาดังกล่าว อยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่ยังมีการระบาดของโควิด-19 และปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งยังเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการประมาณของนักวิเคราะห์ที่ 51.7 ล้านเครื่อง โดยปัจจัยหลักมาจากการที่ยอดขายใน “จีน” ลดลง

ก่อนหน้านี้ รายงานจาก Counterpoint Research บริษัทวิจัยตลาดด้านเทคโนโลยี ระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนในจีนช่วง 6 สัปดาห์แรกของปีลดลง 7% โดยยอดขายตามจำนวนเครื่องของ Apple ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 24% และเหลือส่วนแบ่งตลาดเพียง 16% จากที่ปีก่อนมีอยู่ 19%

และจากรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 2567 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ธ.ค. 2566) ของ Apple ระบุว่า ยอดขายสุทธิจากจีนแผ่นดินใหญ่ (Greater China) อยู่ที่ 20,819 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นรองแค่สหรัฐอเมริกา 50,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทวีปยุโรป 30,397 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนว่าจีนเป็นตลาดที่มีศักยภาพของ Apple คิดเป็น 17% ของรายได้รวมที่ 119,575 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ยอดขาย iPhone ในจีนชะลอตัว มาจากการแข่งขันกับแบรนด์เจ้าถิ่นที่ร้อนแรงขึ้น โดยเฉพาะการเปิดตัวซีรีส์ “Mate 60” สมาร์ทโฟนเรือธงของ “หัวเว่ย” (Huawei) ที่เข้ามาชิงส่วนแบ่งในกลุ่มพรีเมี่ยม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐ และกระแสการสั่งห้ามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐของจีนใช้ iPhone

“นาบิลา โพพาล” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IDC กล่าวว่า การแข่งขันที่สูงขึ้นในจีน ทำให้ยอดขายในไตรมาสแรกของ Apple ลดลง โดยคู่แบรนด์จีนพยายามใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการกระตุ้นยอดขาย เช่น เสียวหมี่ (Xiaomi) ลดราคาเพื่อระบายสินค้าในคลัง และ Huawei เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ Mate 60 ชูจุดเด่นด้วยชิปสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรที่ผลิตในจีน และระบบปฏิบัติการ HarmonyOS เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม Apple พยายามฟื้นความเชื่อมั่นของตลาดจีนในหลายทิศทาง ตั้งแต่จัดโปรโมชั่น ลดราคาพิเศษบนเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการในจีน เพื่อกระตุ้นยอดขายและกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงพันธมิตรค้าปลีกบางรายของ Apple ยังมอบส่วนลดจากราคาปกติมากถึง 180 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,500 บาท) ซึ่งเป็นสิ่งที่เห็นได้ไม่บ่อยนัก

นอกจากนี้ Apple ยังเปิด Apple Store แห่งใหม่ในจีน โดยใช้ชื่อว่า “Apple Jing’an” ซึ่งเป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการแห่งที่ 8 ในเซี่ยงไฮ้ หรือเมืองที่มีสาขาของ Apple Store มากที่สุดในจีน เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2567 โดย “ทิม คุก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Apple เดินทางมาเปิดสาขาแห่งนี้ด้วยตนเอง และเป็นการเยือนจีนครั้งที่สามในรอบ 12 เดือน

อีกทั้ง Apple ยังประกาศว่าจะมีการขยายห้องปฏิบัติการในเซี่ยงไฮ้ และเปิดห้องปฏิบัติการแห่งใหม่ในเสิ่นเจิ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การวิจัยและทดสอบผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น iPhone และแว่น Vision Pro สะท้อนว่าจีนไม่ได้เป็นเพียงตลาดที่สำคัญรองจากสหรัฐ แต่ยังเป็นห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญสำหรับ Apple ด้วย

ภาพบรรยากาศการเปิด Apple Store แห่งใหม่ในเซี่ยงไฮ้ – Apple Newsroom