หลังนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ขีดเส้นให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการปราบปรามภัยคุกคาม และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้แล้วเสร็จใน 30 วัน (ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2567)
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี เปิดเผยผลการดำเนินงานเดือนเมษายนดังนี้
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- กระทรวงเกษตรฯ ปลดล็อกการนำเข้าโคเนื้อ-กระบือจากประเทศเมียนมา
- อธิบดีราชทัณฑ์ เปิดไทม์ไลน์ บุ้ง ทะลุวัง ก่อนเสียชีวิต
-จับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ 6,400 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่ 2,600 คดี
-จับกุมคดีพนันออนไลน์ 3,757 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่เฉลี่ยเดือนละ 1,200 คดี
-จับกุมคดีเกี่ยวกับบัญชีม้า 361 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่เฉลี่ยเดือนละ 120 คดี
-เกิดคดีเฉลี่ย 992 เรื่อง/วัน คิดเป็นความเสียหาย 110 ล้านบาท/วัน (ไตรมาส 1/2567 เกิดคดีเฉลี่ย 855 เรื่อง/วัน คิดเป็นความเสียหาย 149 ล้านบาท/วัน)
“แม้การดำเนินการเชิงรุกจะทำให้ตัวเลขความเสียหายลดลง 20% จากเฉลี่ยวันละ 149 ล้านบาท เป็น 110 ล้านบาท แต่ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจ อยากให้มูลค่าความเสียหายลดลงไปมากกว่า 50% ภายในเดือนหน้า”
สำหรับผลการปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายของกระทรวงดีอี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตั้งแต่ 1-30 เม.ย. 2567 พบว่า ดีอีปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายทุกประเภท 16,158 รายการ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 625 รายการ, ปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวงผิดกฎหมาย 4,357 รายการ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 268 รายการ และปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ 6,515 รายการ เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 168 รายการ ส่วน สตช. ปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวงผิดกฎหมาย 2,828 รายการ
นอกจากนี้ ดีอียังทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละมาตรการอย่างใกล้ชิด เช่น กรณีหลอกลงทุนและซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผิดกฎหมายที่มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ใน 3 แนวทาง
1.ปิดกั้นแพลตฟอร์มที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง 2.บังคับใช้กฎหมายกับผู้ให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 3.สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ผ่านแอปพลิเคชั่น “SEC Check First”
ด้าน พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่าปัจจุบันคนไทยเปิดบัญชีธนาคารได้ง่ายมาก แค่มีบัตรประชาชนใบเดียว ก็เปิดได้ไม่จำกัด ถือเป็นช่องโหว่ให้มิจฉาชีพสร้างบัญชีม้าได้เป็นจำนวนมาก
“ต่างประเทศเข้มงวดกว่าของไทยมาก บางประเทศจำกัดแค่ 3 บัญชี ถ้าเปิดมากกว่าต้องระบุเหตุผลที่ชัดเจน ซึ่งเรากำลังหารือร่วมกับ ธปท. และสมาคมธนาคารไทย เพื่อออกเงื่อนไขการเปิดบัญชีธนาคารที่จะช่วยลดจำนวนบัญชีม้าได้ คาดว่า พ.ค.-มิ.ย.นี้จะเห็นความชัดเจนมากขึ้น”
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า การดำเนินงานในระยะต่อไปจะให้ความสำคัญกับ 7 แนวทาง คือ 1.การปราบปรามจับกุมอาชญากรรมออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ 2.การป้องกันการเปิดบัญชีม้า ซิมม้า และกวาดล้างจับกุมผู้เกี่ยวข้อง 3.การแก้ปัญหาหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ โดยเฉพาะกรณี COD
4.การเร่งรัดคืนเงินและเยียวยาให้ผู้เสียหาย 5.การเพิ่มความรับผิดชอบของภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง 6.รณรงค์ประชาสัมพันธ์และสร้างภูมิคุ้มกันอาชญากรรมออนไลน์ 7. การเร่งรัดการแก้ กฎหมาย
“ดีอีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยังทำงานเชิงรุกในการจัดการปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยมุ่งหวังว่าความเสียหายจะลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือศูนย์”
นายประเสริฐทิ้งท้ายด้วยว่า กระทรวงดีอีได้หารือกับภาคเอกชน เช่น ไมโครซอฟท์ เกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ตรวจสอบพฤติการณ์ของมิจฉาชีพ
