
“ดีอี” โชว์ผลงานปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เดือนเมษายน 2567 พบจับกุม 6,400 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่ 2,600 คดี ความเสียหายเฉลี่ยต่อวัน 110 ล้านบาท เดินหน้าบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงานต่อเนื่อง พร้อมหารือ “Microsoft” อัพเกรดเทคโนโลยีสกัดมิจฉาชีพ
วันที่ 2 พฤษภาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผย หลังการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 4/2567 เพื่อดำเนินงานตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ว่า ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการ ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2567 มีรายละเอียดดังนี้
- จับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ 6,400 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่ 2,600 คดี
- จับกุมคดีพนันออนไลน์ 3,757 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่เฉลี่ยเดือนละ 1,200 คดี
- จับกุมคดีเกี่ยวกับบัญชีม้า 361 คดี เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/2567 ที่เฉลี่ยเดือนละ 120 คดี
- เกิดคดีเฉลี่ย 992 เรื่อง/วัน คิดเป็นความเสียหาย 110 ล้านบาท/วัน (ไตรมาส 1/2567 เกิดคดีเฉลี่ย 855 เรื่อง/วัน คิดเป็นความเสียหาย 149 ล้านบาท/วัน)
“แม้ว่าการดำเนินการเชิงรุกจะทำให้ตัวเลขความเสียหายลดลงประมาณ 20% จากเฉลี่ยวันละ 149 ล้านบาท เป็น 110 ล้านบาท แต่สำหรับผมก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่น่าพอใจ ตอนนี้อยากให้มูลค่าความเสียหายลดลงไปมากกว่า 50% ภายในเดือนหน้า ซึ่งคณะทำงานก็เร่งทำงานเพื่อปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ นายประเสริฐยังได้เปิดเผยผลการดำเนินงานในการระหว่างกระทรวงดีอีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน 2567 ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
- ปิดกั้นเว็บไซต์ผิดกฎหมายทุกประเภท 16,158 รายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 625 รายการ
- ปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวงผิดกฎหมาย 4,357 รายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 268 รายการ
- ปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ 6,515 รายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 168 รายการ
และการจับกุมครั้งสำคัญในเดือนเมษายน 2567 เช่น
1.ปฏิบัติการ “OPERATION CYBER STRIKE” ทลาย 9 เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ “huayland.net” พบยอดเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในเครือข่าย รวม 29 ราย
2.จับกุมขบวนการหลอกลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีเชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ ฟอกเงินและแปลงเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 23 คน ยึดทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 125 ล้านบาท
และ 3.การบุกทลายบริษัทบัญชีม้า โดยแปลงรูปแบบการใช้บัญชีธนาคารในชื่อนิติบุคคลทั้งบริษัท และห้างหุ้นส่วนจำกัด พบมีผู้เสียหายจำนวนทั้งสิ้น 153 ราย (เคสไอดี) รวมมูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 12 ราย เป็นต้น
นอกจากนี้ ในวันที่ 30 เมษายน 2567 DSI ได้ดำเนินการทลายเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ พบบัญชีผู้เล่นมากกว่า 100,000 คน เงินทุนหมุนเวียนกว่า 2,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการถึงกระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน นับตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ในการเร่งรัดปราบภัยคุกคาม และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เนื่องจากสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนไทยจำนวนมาก
โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องใน 8 มาตรการ ได้แก่
1.ตัวเลขอาชญากรรมใน 30 วัน ต้องลดลงชัดเจน
2.กวาดล้างบัญชีม้า
3.ปราบซิมม้า
4.บูรณาการหน่วยงานกวาดล้างเสาสัญญาณเถื่อนตามแนวชายแดน
5.ประสานกระทรวงมหาดไทย ตรวจสอบบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในไทย ที่มีพฤติการณ์ตั้งแก๊ง ไม่ว่าจะอาศัยในบ้านเช่าหรือโรงแรม
6.ประสานกระทรวงการต่างประเทศติดต่อรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านสร้างความร่วมมือหากขยายผลขอให้ส่งตัวผู้ต้องหากลับ
7.ประสานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แก้ไขระเบียบคุมการซื้อขายคริปโต
8.ประสานสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกระเบียบชะลอชำระเงินเมื่อซื้อของออนไลน์กรณีผิดปกติให้ยืดการจ่ายไป 5 วัน
นายประเสริฐกล่าวด้วยว่า นอกจากกระทรวงดีอีจะบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น เพื่อลดความเสียหายและปิดช่องโหว่การก่ออาชญากรรมของมิจฉาชีพ ยังมีการหารือกับภาคเอกชนในการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการตรวจสอบพฤติการณ์ และปิดช่องโหว่การทำงานของมิจฉาชีพ เช่น ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เป็นต้น
“เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) มีโอกาสพูดคุยกับทีมไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในการนำเทคโนโลยีของบริษัทมาพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับป้องกันและปราบปรามมิจฉาชีพ ซึ่งบริษัทพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยมีกรณีศึกษาการใช้งานในหน่วยงานภาครัฐแล้ว เช่น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้พัฒนาแพลตฟอร์มด้านสุขภาพจากเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์”