ดีแทคผนึกอาซีฟา ดึงเทคโนโลยี 5G หนุนสมาร์ทแฟคทอรี่

ดีแทคผนึกอาซีฟา เปิดมิติใหม่เครือข่าย 5G นำแว่น VR นำชมโรงงานอาซีฟาครั้งแรก พร้อมเป็นต้นแบบโรงงานขนาดกลาง นำเทรนด์โรงงานอัจฉริยะ ต่อยอดเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วย IOT ลดความยุ่งยาก เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน

วันที่ 28 ธันวาคม 2564 นายกฤษณ์ ประพัทธศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ บริษัท โทเทิ่ลแอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า โควิด-19 ทำให้อุตสาหกรรมการผลิตไทยได้เริ่มขยายมุมมองการลงทุนโรงงานอัจฉริยะผ่านเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น IOT และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้การผลิตดำเนินไปได้ย่างต่อเนื่องและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาการดำเนินธุรกิจแบบเดิม ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไวรัส และยังสร้างความยืดหยุ่นให้แก่สายธุรกิจและการผลิตมากขึ้น

ล่าสุดดีแทคได้นำเทคโนโลยี 5G เข้ามาปรับสภาพแวดล้อม (Environment) ของอาซีฟา ทั้งการทำระบบเฝ้าระวังและการบริหารจัดการพลังงาน (Smart Surveillance and Energy management) เพื่อมาขับเคลื่อนสู่โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) และยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันภาคอุตสาหกรรมการผลิตไทย รวมถึงเป้าหมายการดึงดูดการลงทุนใหม่ ๆ หลังไทยเปิดประเทศ

“ดีแทค บิสิเนสมุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นสู่พันธมิตรและองค์กรธุรกิจ และมองว่า หัวใจสำคัญสู่การเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) ประกอบด้วย เครือข่ายการเชื่อมต่อ (Connectivity) การจัดเก็บ บูรณาการ และการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Collection, Data Integration and Analytics) ซึ่งเครือข่ายดีแทค 5G บนคลื่น 26GHz รองรับการใช้งานระบบกล้องอัจฉริยะในจุดต่าง ๆ ที่สามารถส่งข้อมูลเรียลไทม์ไปยังห้องควบคุม และใช้รองรับการควบคุมคนเข้าออกในโรงงานที่มีความอัจฉริยะในการรู้และจดจำใบหน้า เป็นส่วนหนึ่งของโรงงานอัจฉริยะ”

นายวิชัย สุนทรวุฒิกุล กรรมการบริหาร บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตสวิตช์บอร์ดไฟฟ้าชั้นนำ กล่าวว่า บริษัทพร้อมยกระดับสู่โรงงานอัจฉริยะ และการบริหารจัดการพลังงาน โดยนำเทคโนโลยี 5G ที่มาพร้อมกับ Virtual Reality (VR) เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการเยี่ยมชมโรงงานให้สะดวกสบายขึ้น โดยให้ลูกค้าสวมใส่แว่น VR ได้เข้าเยี่ยมชมโรงงาน สามารถสัมผัสผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในมิติที่มากขึ้น พร้อมข้อมูลผลิตภัณฑ์ ทั้งช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ลดการเดินทางและเพิ่มความปลอดภัยจากมาตรการระยะห่างทางสังคม

“อาซีฟาได้นำทั้งเทคโนโลยี 5G VR เพื่อให้ลูกค้าได้เยี่ยมชมโรงงานเสมือนจริง และสามารถจะเข้ารับชมผ่านเว็บไซต์ของบริษัท โดยจะเป็นเครื่องมือทางการตลาดด้านดิจิทัลให้ลูกค้าได้เข้าถึงข้อมูลของบริษัท และรองรับลูกค้าเยี่ยมชมโรงงานที่มีเฉลี่ย 60 องค์กรต่อปี โดยหวังว่าจะเห็นผู้ให้ความสนใจ เพิ่มขึ้น 10% ของผู้เข้าชมเว็บไซต์และผู้มาเยี่ยมชมโรงงานโดยปกติ ทั้งยังขยายผลเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ทั้งเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ และวิศวกรรุ่นใหม่ที่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี”

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ลงทุน 5G Surveillance เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้อาซีฟาเป็นโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) มากขึ้น โดยจะเสริมระบบเดิมที่ติดตั้งอยู่ ให้ทันสมัยมากขึ้น มีความคมชัดของภาพมากขึ้น และใช้การส่งถ่ายข้อมูลปริมาณมากแบบไร้สาย เพื่อสะดวกติดตั้งโดยไม่ต้องเดินสายสัญญาณเพิ่มเติม ผสมผสานการจดจำใบหน้า (face recognition) เพื่อใช้การควบคุมการเข้าออก (access control) ทั้งส่วนของพนักงานและบุคคลภายนอก และหลีกเลี่ยงการสัมผัส (contactless) ซึ่งระบบจะแจ้งเตือนความผิดปกติได้ทันที ทำให้การรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนั้นบริษัทได้แตกแผนกธุรกิจใหม่ “กลุ่มนวัตกรรม” ที่มีการวิจัยและพัฒนา รองรับการขยายโซลูชั่นใหม่ ที่เพิ่มขีดความสามารถการใช้งาน “ตู้สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า” ที่ตอบรับการใช้งานแห่งอนาคตให้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ทั้งการรองรับการติดตั้งและใช้งานโซลาร์เซลล์ และ การใช้ Internet of Things (IOT) พร้อมระบบติดตามและควบคุมการใช้พลังงานได้อย่างอัจฉริยะ

“อาซีฟาจะเป็นต้นแบบการใช้ประโยชน์หรือ Use case จากเทคโนโลยีที่นำ 5G และ IOT มาประยุกต์ในการสร้าง Modern Factory Environment ผ่านความร่วมมือพันธมิตรกับดีแทค เพื่อให้ลูกค้าเป้าหมายโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตระดับกลางได้เห็นถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการปรับเปลี่ยนเข้าสู่ดิจิทัล”