ผลตรวจสุขภาพชาวบ้านรอบโรงงานเจ แอนด์ บีฯ จ.สมุทรสาคร มีค่าแคดเมียมในร่างกายเกินมาตรฐาน 16 คน ด้านแหล่งน้ำใกล้เคียง ยังเป็นไปตามมาตรฐาน
วันที่ 12 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สมุทรสาคร รายงานการปฎิบัติของแต่ละหน่วยงานกรณีตรวจพบกากแคดเมียมในพื้นที่ โดยจุดที่พบทั้ง 3 จุด มีคำสั่งประกาศจากทางจังหวัด ห้ามเข้าพื้นที่ ส่วนการตรวจสุขภาพประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด จำนวน 34 ราย เมื่อวันที่ 9 เมษายน 3567
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
พบว่ามีอาการผื่นคันบริเวณผิวหนัง จำนวน 4 ราย จึงรักษาเบื้องต้น และให้คำแนะนำในการปฏิบัติดูแลสุขภาพตนเอง และตรวจปัสสาวะประชาชนทั้ง 34 คน ปัจจุบันผลตรวจออกมาแล้ว 33 คน พบค่าแคดเมียมอยู่ในเกณฑ์ปกติ 17 คน มีที่เกินค่ามาตรฐาน 16 คน ในรายที่พบผลตรวจเกินค่าอ้างอิง ทีมสอบสวนโรคดำเนินการสอบสวนโรค เพื่อยืนยันว่าการปนเปื้อนสารแคดเมียมมาจากแหล่งใด
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ โดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 5 และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร ได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำในโรงงานและบริเวณโดยรอบโรงงานไปตรวจสอบหาสารปนเปื้อน ปรากฏว่าค่าสารแคดเมียมในดินและอากาศ บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด เจ้าหน้าที่ได้เก็บกากอุตสาหกรรมที่ยังไม่ได้ผ่านการหลอมมีปริมาณแคดเมียม 19% เก็บตัวอย่างดินนอกโรงหลอมมีปริมาณแคดเมียม 17% เก็บตัวอย่างดินในโรงหลอม มีปริมาณแคดเมียม 21%
ส่วนดินหน้ารั้วโรงงานมีปริมาณแคดเมียม 12% และดินบริเวณชุมชนเหนือลมและท้ายลมในระยะ 10 เมตร ไม่พบปริมาณแคดเมียม ได้ตรวจไม่พบไอระเหยสารเคมีในบรรยากาศ และเก็บตัวอย่างน้ำในแหล่งน้ำสาธารณะบริเวณใกล้เคียงโรงงานของบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ที่คลองบางหลวงเดิมบาง และคลองบางน้ำจืด รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง บริษัท ชิน หงส์ เฉิง อินเตอร์เทค (2008) จำกัด ที่คลองเทพกาญจนา พบว่า ค่าสารแคดเมียมเป็นไปตามมาตรฐานยังไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
ขณะที่การส่งกากแคดเมียมและกากสังกะสี กลับไปยังต้นทางที่ จ.ตากนั้น คณะทำงานที่ประกอบด้วยกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนการขนกากแคดเมียม และกากสังกะสีกลับแหล่งกำเนิด
โดยให้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จัดทำแผนการขนส่งขนกากแคดเมียมและกากสังกะสีทั้งหมดให้เป็นไปตามกฎหมาย ใช้วิธีการที่เหมาะสมและเกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยมีกำหนดการเบื้องต้นให้เริ่มภายในเดือนเมษายน 2567 และให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2567
ซึ่งบ่อสำหรับรองรับกากแคดเมียมและกากสังกะสีของบริษัท เบาล์ แอนด์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ที่จังหวัดตาก มีความพร้อมในการรับกลับไปฝังกลบตามเดิม แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดตากระบุว่า มีประชาชนในพื้นที่จังหวัดตาก บางส่วนไม่อยากให้นำกากแคดเมียมและกากสังกะสี กลับไปยังจังหวัดตากอีก