“ทีเอ็มเค” ดันยอดโต 5-10% ต่อปี รุกค้าปลีก-ส่งขยายสาขาดันยอดโต

นับเป็นเวลากว่า 33 ปีแล้วที่ “ทีเอ็มเค” ได้เปิดกิจการธุรกิจรุกตลาดค้าปลีก-ค้าส่งจับกลุ่มลูกค้าชุมชนโซนตะวันตก พร้อมเตรียมรับอานิสงส์การลงทุนใหญ่ของรัฐบาลเปิดช่องทางการขนส่งกาญจนบุรีสู่เมียนมา ชี้อนาคตเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญสามารถขยายตัวได้อีกมาก

นายพิพัฒน์ สรพรม ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ทีเอ็มเค กาญจนบุรี เทรดดิ้ง จำกัด หรือ TMK Supermarket เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันภาพรวมของค้าปลีกค้าส่งระดับภูธรแข่งขันกันสูงมาก แต่ผู้ประกอบการรายใหม่มักจะสู้รายเก่าไม่ค่อยได้ ในระยะเวลา 1-2 ปีก็ล้มไปด้วยระบบข้อมูลและประสบการณ์ยังด้อยกว่า ส่วนในภาวะเงินบาทแข็งค่าและสงครามการค้าในปัจจุบันที่กระทบเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ทีเอ็มเคถือเป็นหนึ่งผู้ประกอบที่ไม่ได้รับผลกระทบเลย เรียกได้ว่าเติบโตขึ้น 5-10% ทุกปี รายได้เฉลี่ยประมาณ 2,000 ล้านบาท/ปี หลังจากขยายสาขา ตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท/ปี

กลยุทธ์ดันยอดขายโต

โดยกลยุทธ์การทำธุรกิจของทีเอ็มเค คือ ขยายสาขาทุกปี ปัจจุบันรวมแล้วมีอยู่ 9 สาขา ได้แก่ ในจังหวัดกาญจนบุรี 5 สาขา ราชบุรี 2 สาขา นครปฐม 2 สาขา และในปี 2563 นี้จะขยายสาขาไปยังสุพรรณบุรีและชัยนาท ซึ่งเป็นเมืองเกษตร มีร้านค้าขนาดเล็กในชุมชนที่ต้องการซื้อสินค้าเข้าร้าน แต่ละสาขามีจำนวนสินค้านับหมื่นรายการ ใช้เงินลงทุนประมาณ 5-10 ล้านบาท/สาขา ทั้งนี้ ทีเอ็มเคมีราคาสินค้าถูกกว่าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ กลุ่มลูกค้าเป็นร้านค้าทั่วไปประมาณ 60% เป็นร้านค้าส่งประมาณ 10% และซื้อใช้ทั่วไป 30% นอกจากนี้ ลูกค้าต่างชาติประมาณ 2% และยังสามารถพัฒนาขยายตลาดเพิ่มได้อีกมาก

“ทีเอ็มเคเดิมที่เป็นร้านโชห่วยมาตั้งแต่ปี 2525 ก่อนจะกลายมาเป็นห้างสรรพสินค้า เราพัฒนาการค้าและขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่มีแผนไปตามหัวเมืองใหญ่ เพราะลูกค้าของเราคือชาวบ้านที่ยังต้องกินต้องใช้ ไม่อยู่กับโซเชียล เราขายของถูกที่สุดจากบรรดาห้างใหญ่ ถ้าตลาดขาย 10 บาท เราจะขาย 8 บาท เราตั้งเป้าไว้ว่ายิ่งเราขยายสาขามากเท่าไหร่ รายได้ต้องเพิ่มขึ้น เช่น จากขายได้ 10 บาท พอเพิ่มเป็น 9 สาขา เราต้องขายได้ 13 บาท เงินจะเพิ่มขึ้น เราบริหารลูกค้าเก่าให้มีกำลังซื้อ ขณะเดียวกันต้องหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ต้องรู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ในแต่ละเดือนซื้อมากหรือซื้อน้อยผ่านระบบข้อมูลของสมาชิกที่มีอยู่ 45,000 คน และที่ไม่เป็นสมาชิกประมาณ 2 หมื่นคน ซึ่งข้อมูลสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อยอดธุรกิจได้ พัฒนาการซื้อของลูกค้าได้ หากการซื้อลดลงต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เราต้องวิ่งไปหาลูกค้า และยอดขายไม่ตกแน่นอนเพราะอยู่ที่การวางแผน แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี”

Advertisment

รับอานิสงส์การลงทุนรัฐ

นายพิพัฒน์เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อการค้าปลีกค้าส่งบ้าง ทั้งการซื้อขายออนไลน์มีมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว ฉะนั้นจะทำการค้าขายเพียงหน้าร้านเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ทันยุคสมัยทีเอ็มเคปรับตัวเช่นกัน ลูกค้าสามารถสั่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์และชำระเงินปลายทางได้ ซึ่งได้วิเคราะห์ผลตอบรับจากลูกค้าอยู่เป็นระยะ หากขายไม่ได้ก็เปลี่ยนสินค้าตัวใหม่เข้าไป โดยมีสินค้าประมาณ 500 รายการเท่านั้น เพราะหากทำการขายผ่านออนไลน์มากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับฆ่าตัวเองมากเท่านั้น เพราะลูกค้าจะไม่เห็นสินค้าจริง และมองเห็นสินค้าอื่นเพิ่มขึ้นแม้จะสะดวกก็ตาม

ส่วนในเชิงพื้นที่ ทีเอ็มเคยังคงเป็นห้างสรรพสินค้า 1 ใน 4 ถัดจากบิ๊กซี โลตัส แม็คโคร ที่คน จ.กาญจนบุรีนึกถึง ที่สำคัญจะได้รับอานิสงส์หลายด้าน เพราะติดด่านชายแดนถึง 2 แห่ง คือ ด่านพุน้ำร้อน และด่านเจดีย์สามองค์ สามารถส่งสินค้าไปยังประเทศเมียนมาได้

“เบื้องต้นเราต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกรมการค้าภายใน พาณิชย์จังหวัด เพราะจะทราบข้อมูลดีว่าตอนนี้ชายแดนต้องการสินค้าอะไร เราจะดูว่านักลงทุนที่เป็นชาวเมียนมาสนใจสินค้าประเภทไหน แล้วเราจะนำเสนอทั้งออนไลน์และเดินเข้ามาซื้อที่ห้าง พยายามเน้นการบริการก่อนขายและหลังการขาย หากลูกค้าเก่ายอดขายลดลงไป เราต้องหาลูกค้าใหม่มาเพิ่มเพื่อให้ได้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”