เศรษฐกิจภูมิภาค

อีสาน-ใต้ฝนต่ำกว่าเกณฑ์พืช-ปศุสัตว์เสียหาย

แฟ้มภาพ

ภัยแล้งกระหน่ำอีสาน-ใต้ เหตุปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าเกณฑ์ กระทบต่อพืชผลทางการเกษตร-ภาคปศุสัตว์ ลุยขุดบ่อบาดาล พร้อมเร่งประเมินสถานการณ์น้ำต่อเนื่อง ตรังหนุนทำ “บ่อจิ๋ว” ขับเคลื่อนโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน

นายจรูญศักดิ์ สุขขุม เกษตรและสหกรณ์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า จากภาวะฝนทิ้งช่วงที่เกิดขึ้น และปริมาณน้ำฝนในปีนี้ที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ส่งผลให้เกิดภัยแล้งในบางพื้นที่ของจังหวัดตรัง

และส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตร จำนวน 1,080 ไร่ แบ่งเป็น ไม้ผล 138 ไร่ ไม้ยืนต้น 835 ไร่ และพืชผัก 108 ไร่ ทั้งนี้ ทางจังหวัดตรังได้ขอรับการสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงไป 11 ครั้ง มีชุดปฏิบัติการจากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้มาดำเนินการปฏิบัติการฝนหลวง 12 ครั้ง ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวทำให้มีฝนตก 11 วัน ในพื้นที่อำเภอปะเหลียน อำเภอเมือง อำเภอห้วยยอด อำเภอย่านตาขาว อำเภอสิเกา โดยฝนที่ตกลงมาไม่ได้ครอบคลุมทั้ง 10 อำเภอ เนื่องจากปัญหาสภาพอากาศไม่เอื้อทำให้ฝนตกเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางในพื้นที่ริมฝั่งทะเล ทำให้ขณะนี้ภาคปศุสัตว์เริ่มได้รับผลกระทบ มีการมาติดต่อขอเสบียงอาหารสัตว์จากทางสำนักงานปศุสัตว์อย่างต่อเนื่อง

นายมณเฑียร จงจินากูล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 จังหวัดตรัง ดูแลพื้นที่ลุ่มน้ำฝั่งตะวันตก จำนวน 5 จังหวัด และลุ่มน้ำฝั่งตะวันออก 3 จังหวัด รวม 8 จังหวัด โดยในพื้นที่จังหวัดตรัง ปริมาณน้ำกักเก็บที่อยู่ในชั้นน้ำบาดาล 18,510 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถนำมาใช้โดยไม่กระทบต่อระบบนิเวศ จำนวน 597 ล้านลูกบาศก์เมตร ปัจจุบันสามารถนำน้ำมาใช้ได้เพียงร้อยละ 10 เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดตรัง เป็นพื้นที่ดินแข็งถึงร้อยละ 76 และพื้นที่ดินร่วนซึ่งจะให้ปริมาณน้ำจำนวนมากเพียงร้อยละ 24 เท่านั้น ทั้งนี้ได้ดำเนินการช่วยเหลือโดยมีรถบรรทุกน้ำมารับน้ำที่สำนักงานไปแล้ว 323,600 ลิตร นอกจากนี้ได้ดำเนินการเจาะบ่อบาดาล จำนวน 9 บ่อ

นายประเสริฐ วงศ์นราทิพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานตรัง เปิดเผยว่า โครงการชลประทานตรังได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังมีปริมาณน้ำฝนต่ำกว่าเกณฑ์ ในขณะที่ปริมาณน้ำท่าในแม่น้ำลำคลองสายสำคัญอย่างแม่น้ำตรัง มีปริมาณความจุอยู่ที่ 2.2 เปอร์เซ็นต์ (จาก 100 เปอร์เซ็นต์) คาดว่าแนวโน้มปริมาณน้ำจะลดลงจากเดิม ส่วนคลองปะเหลียนมีปริมาณความจุอยู่ที่ 2.24 เปอร์เซ็นต์ (จาก 100 เปอร์เซ็นต์) คาดว่าแนวโน้มปริมาณน้ำจะลดลงจากเดิมเช่นกัน โดยหากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักลดลงกว่าร้อยละ 50

“อ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปริมาณน้ำเพียงร้อยละ 45.96 ของความจุอ่าง ส่วนอ่างเก็บน้ำบ้านพรุเตย ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา ปริมาณน้ำมีเพียงร้อยละ 20.50 อ่างเก็บน้ำบ้านทุ่งหลวง ตำบลวังมะปรางเหนือ อำเภอวังวิเศษ ปริมาณน้ำมีเพียงร้อยละ 20.47 ของความจุอ่าง ถือว่ามีปริมาณน้อยมาก”

ด้านนายบุญช่วย ช่วยระดม ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินตรัง เปิดเผยว่า สถานีพัฒนาที่ดินตรังขับเคลื่อนโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน หรือ “บ่อจิ๋ว” อย่างต่อเนื่อง ในปี 2563 มีเป้าหมายการดำเนินงานโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน จำนวน 113 บ่อ โดยปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้ว 71 บ่อ อย่างไรก็ตาม สถานีพัฒนาที่ดินตรังได้ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชผสมผสาน และพืชที่ใช้น้ำน้อย เพื่อการบริหารจัดการน้ำให้มีน้ำเพียงพอ

หนองคายอ่างน้ำแห้งขอด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง และสภาพอากาศในจังหวัดหนองคายที่ร้อนจัดต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ได้ส่งผลให้สถานการณ์ภัยแล้งในจังหวัดหนองคายเริ่มรุนแรงและขยายวงกว้างขึ้น อ่างเก็บน้ำขนาดเล็กหลายแห่งที่อยู่ห่างและไม่มีลำห้วยเชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง ปริมาณน้ำในอ่างได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนเริ่มแห้งขอด โดยเฉพาะที่อ่างเก็บน้ำบ้านเบิดใหญ่ ต.วัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย สภาพขณะนี้น้ำแห้งขอด เหลือน้ำติดก้นอ่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เพียงพอให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งปกติอ่างเก็บน้ำแห่งนี้จะเชื่อมต่อกับบึงหนองคายที่เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ เมื่อน้ำในอ่างมีปริมาณลดลงก็จะระบายน้ำจากบึงหนองคายเข้ามาในอ่าง แต่ช่วงนี้ปริมาณน้ำในบึงหนองคายก็มีปริมาณน้ำลดน้อยลงเช่นกัน จึงไม่สามารถระบายน้ำมาใส่ในอ่างเก็บน้ำบ้านเบิดใหญ่ได้

สำหรับอ่างเก็บน้ำบ้านเบิดใหญ่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งน้ำที่ชาวบ้านเบิดใหญ่และใกล้เคียงได้ใช้อุปโภค ทำการเกษตร และประมงน้ำจืด โดยจะมีการปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำไปตามลำห้วยโซ่ เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ในการเกษตร แต่นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา น้ำในอ่างเก็บน้ำเริ่มลดลงเรื่อย ๆ จนแห้งขอด สัตว์ที่อาศัยอยู่ในอ่างเก็บน้ำได้รับผลกระทบ ต้องรอให้ถึงฤดูฝนที่จะมาถึงเพื่อให้มีน้ำมาเติมในอ่างเก็บน้ำรอบใหม่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาพิจารณาให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป