“สมุดปกขาว” หอการค้า 5 ภาค ฟื้นเศรษฐกิจหลังโควิด เปิดด่าน-ท่องเที่ยว-บริการ

การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 38 ระหว่างวันที่ 26-27 นี้ จะจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยหอการค้า 5 ภาคจะยื่น “สมุดปกขาว” เพื่อยื่นข้อเสนอและข้อเรียกร้องต่าง ๆ ให้กับรัฐบาลผ่าน นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน

โดย นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งนี้จะมุ่งเน้นการเตรียมภาคธุรกิจให้พร้อมต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจในปี 2564 แม้จะมีการค้นพบวัคซีนและกระจายวัคซีนโควิด-19 แต่ธุรกิจก็ต้องปรับรับวิถี new normal โดยการเชิญ CEO หลายท่านมาให้แนวทางการปรับตัวคู่ขนานกับการจัดทำสมุดปกขาวเพื่อส่งให้รัฐบาล

Happy Model ต่อยอดไทยเท่

ส่วนสมุดปกขาวจะมุ่งเน้นแนวทางการฟื้นฟูและเยียวยาภาคธุรกิจหลังจากวิกฤตโควิด เทรนด์การทำธุรกิจและการพัฒนาโมเดลใหม่ที่มีชื่อว่า “Happy Model” ที่ต่อยอดมาจากนโยบาย โครงการไทยช่วยไทย คือไทยเท่ มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าและบริการในท้องถิ่น การสร้างจุดแข็งและ story สำหรับทำการตลาดสินค้าและบริการที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ การปฏิรูปสิ่งเหล่านี้จะเชื่อมโยงกับนโยบายการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG)

“ปีหน้าหอการค้ายังมองว่า รายได้การท่องเที่ยวจะยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ดังนั้น จะต้องมีแผนงานที่ชัดเจน ถ้าสามารถทำให้เห็นเป็นรูปธรรมว่าทำอะไรบ้าง จากนั้นค่อยวางงบประมาณว่าต้องใช้เท่าไรอย่างไรและเชื่อมต่อไปที่หอการค้าจังหวัด ซึ่งขณะนี้หอการค้าทุกจังหวัดได้ร่วมกันทำ mapping จะเป็นแพลตฟอร์มออกมาให้เห็น” นายกลินท์กล่าว

ตะวันออก ขอแรงงานเขมร

นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกกล่าวว่า ได้เตรียม 6 ประเด็นหลักที่จะนำเสนอให้รัฐบาลโดยเฉพาะผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ได้แก่ 1) จังหวัดภาคตะวันออก (จันทบุรี-ตราด-สระแก้ว) มีปัญหาขาดแคลนแรงงานด้านการเกษตร เนื่องจากการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาส่งผลให้แรงงานต่างด้าวไม่สามารถเข้ามาทำงานในพื้นที่ได้

2) การกระจายรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยในภาคตะวันออกยังไม่ดีพอ

3) การผ่อนปรนวีซ่าโดยมีเงื่อนไขพิเศษเพื่อดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากต่างชาติที่มีความเชี่ยวชาญใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) ใน EEC ยังไม่ตอบสนองกับผู้เชี่ยวชาญต่างชาติที่ต้องการเข้ามาในประเทศ

4) การส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานสินค้าสมุนไพรไทยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มแต่ราคาที่เกษตรกรขายได้ยังต่ำอยู่

5) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (cross border e-Commerce) จากข้อตกลงการเปิดเสรีด้านการค้า e-Commerce ระหว่างไทยกับจีนปัจจุบันมีสินค้าจีนนำเข้าผ่านช่องทางนี้ถึง 95% แต่สินค้าที่ไทยส่งออกผ่านช่องทางนี้แทบไม่มีเลย จึงอยากให้รัฐบาลส่งเสริมความรู้ให้คำแนะนำแก้ปัญหาเรื่องแพลตฟอร์มทางการค้าที่ใช้ภาษาจีน

และ 6) การเปิดให้ผู้ค้าอัญมณีต่างชาติเข้ามาซื้อพลอยที่จังหวัดจันทบุรี

จี้รัฐส่งเสริมนวัตกรรมเกษตร

ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง หอการค้าไทย กล่าวถึงประเด็นที่หอฯภาคกลางจะนำเสนอประกอบด้วย 1) ด้านเศรษฐกิจการเกษตร ควรส่งเสริมการใช้นวัตกรรมด้านไบโอเทคโนโลยีมาสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อกระจายรายได้และความรู้ให้ SMEs

2) ด้านการท่องเที่ยวต้องมีการปรับตัวหลังจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่สามารถเข้ามาในประเทศได้ รัฐบาลต้องมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาช่วย 3) ด้านการค้าและบริการ เศรษฐกิจการค้ายังซบเซา รัฐบาลต้องมีนโยบายมากระตุ้น

ใต้ขอซอฟต์โลน-กองทุนฟื้นธุรกิจ

ส่วนหอการค้าภาคใต้ นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคใต้ หอการค้าไทยกล่าวว่า เรื่องหลักที่จะมีการนำเสนอให้รัฐบาลก็คือ การพัฒนาเศรษฐกิจทั้งด้านการท่องเที่ยวและการช่วยเหลือภาคธุรกิจท่องเที่ยวในเมืองหลัก เช่น ภูเก็ต-กระบี่-พังงา-เกาะสมุย ซึ่งเคยมีรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 80-90% แต่ปัจจุบันไม่มี จึงต้องการให้รัฐบาลกระตุ้นให้คนไทยเที่ยวไทยโดยจะเน้นกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชน

ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการอยากจะให้รัฐบาลสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) หรือการจัดตั้งกองทุนที่หอฯภาคใต้เคยนำเสนอระหว่างการประชุม ครม.สัญจรที่ภูเก็ต แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจึงต้องมีการผลักดันต่อ

เหนือดันแก้ฝุ่นหมอกควัน

นายอนุวัตร ภูวเศรษฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจหอการค้าไทยพื้นที่ภาคเหนือกล่าวว่า ข้อเสนอของภาคเหนือที่จะระบุลงไปในสมุดปกขาว ได้แก่ 1) การแก้ไขปัญหาฝุ่นควันภาคเหนือ 2) การเพิ่มแหล่งกักเก็บน้ำ ฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำ โดยเรื่องนี้จะสอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาลเรื่อง “ขุดดินแลกน้ำ” เป็นโครงการที่เอกชนสามารถดำเนินการได้ตามที่ภาครัฐกำหนด 3) ประเด็นรวมที่เกี่ยวพันกับภาคส่วนอื่น เช่น เรื่องฟื้นฟูการท่องเที่ยว โดยกระตุ้นให้ประชาชนใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวมากขึ้น

“ภาพรวมภาวะเศรษฐกิจภาคเหนือยังคงเป็นไปตามที่แบงก์ชาติและสภาพัฒน์คาดการณ์ไว้ ตัวเลขอาจจะติดลบมากกว่าภาพรวมของประเทศอยู่บ้างเพราะพึ่งพาการท่องเที่ยวจากต่างชาติค่อนข้างมาก แต่หากไตรมาสสุดท้ายการท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้นจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันตัวเลขก็น่าจะดีขึ้นบ้าง”

อีสานดันเปิดด่านชายแดน

ด้าน นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี และประธานกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย กล่าวว่า ประเด็นแรกคือ การเปิดด่านชายแดนให้เกิดการคล่องตัวในการส่งสินค้ามากขึ้น เรื่องภาคการเกษตรจะต้องส่งเสริมการเกษตรให้มีรายได้สูงขึ้น เพิ่มปริมาณการผลิตมากขึ้นเพื่อรองรับแรงงานที่กลับบ้านและได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และไม่ได้กลับไปทำงานอีก

ภาคบริการ การรักษาพยาบาลและสาธารณสุขต้องปรับให้ประชาชนได้รับบริการที่ดีขึ้นและทั่วถึงมากขึ้น

“ทั้งหมดเป็นเรื่องเดิมที่เราได้นำเสนอไปแล้ว พอเจอวิกฤตโควิดเราก็ทบทวนในข้อเสนอต่าง ๆ และยกระดับเพิ่มขึ้นอีกหลายเรื่อง แม้ว่าอีสานจะไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดมากนัก เพราะภาคการท่องเที่ยวไม่ได้อาศัยนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ส่วนใหญ่มาจากคนในประเทศและตัวเลขกำลังดีขึ้นในช่วงหน้าหนาว แต่หากจะดันให้กลับมาถึง 100% ต้องเปิดด่านชายแดน”