เศรษฐกิจภูมิภาค

SPRC ประกาศภาวะฉุกเฉิน น้ำมันดิบรั่วอีก 5,000 ลิตร

น้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วอีก 5,000 ลิตร บรษัทฯส่งหนังสือแจ้งผู้ว่าฯ พร้อมส่งทีมงานและขอกำลังจากกองทัพเรือ เข้าระงับเหตุ 

น้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) รั่วอีก 5,000 ลิตร ซ้ำจุดเดิม หลังเคลื่อนย้ายท่อ เผยประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่งหนังสือแจ้งผู้ว่าฯ พร้อมส่งทีมงานและขอกำลังจากกองทัพเรือ เข้าระงับเหตุแล้ว

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 09.20 น. ตัวแทนจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC แจ้งให้นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รับทราบว่าเกิดการรั่วไหลของน้ำมันดิบจากท่อใต้ทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ในจุดเดิม ณ บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึก หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จังหวัดระยองอีกครั้ง

เบื้องต้นคาดว่ามีปริมาณ 5,000 ลิตร ทำชาวบ้านจังหวัดระยองผวาอีกครั้ง ขณะนี้กำลังรอนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และทางบริษัท SPRC ชี้แจงอีกครั้ง

ทั้งนี้ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ได้ทำหนังสือแจ้ง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองว่า จากเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้น พบฟิล์มน้ำมันดิบ (สีน้ำเงิน) บริเวณทิศเหนือ ห่างจากทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล ประมาณ 3 ไมล์

จากนั้นบริษัทได้ประกาศภาวะฉุกเฉินน้ำมันรั่วไหล Tier 1 น้ำมันรั่วไหลขนาดเล็กไม่เกิน 20 ตัน พร้อมได้ส่งทีมผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ และร้องขอกำลังทางเรือและอากาศสยาน จากกองทัพเรือ ภาค 1 เข้าไประงับเหตุอย่างรวดเร็ว

หากมีความคืบหน้า บริษัทจะรายงานให้ทราบต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ระบว่า เมื่อเวลา 09.20 น. บริษัท พบฟิล์มน้ำมันประมาณ 5,000 ลิตร ระหว่างการเตรียมการเคลื่อนย้ายท่ออ่อนที่อยู่ใต้ทะเล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง

ในทันทีที่เกิดเหตุ บริษัทได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน อีกทั้งหยุดกิจกรรมบริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล ตามขั้นตอนความปลอดภัย บริษัทได้ดำเนินการโดยได้นำทุ่นกักน้ำมัน (boom) กักคราบฟิล์มน้ำมันไว้ และมีการฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบฟิล์มน้ำมัน ในขณะนี้บริษัทสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว

บริษัทได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทัพเรือ ภาค 1, ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล), ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม (EMCC), กรมควบคุมมลพิษ, กรมเจ้าท่าระยอง, ศูนย์บัญชาการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว (EIC), และสำนักงานท่าเรือมาบตาพุด ในการให้ความร่วมมือเพื่อช่วยแก้ไขสถานการณ์ ทั้งนี้หากมีความคืบหน้า บริษัทจะรายงานสถานการณ์ให้ทราบโดยเร็วที่สุด