สตีเบล เล็งผุดโรงงานใหม่-โฟกัสรุ่นไฟติ้งชิงน้ำอุ่นโค้งท้าย

เครื่องทำน้ำอุ่นสตีเบล

“สตีเบล เอลทรอน” เตรียมทุ่ม 50-100 ล้าน ผุดโรงงานใหม่ ผลิตฮีตปั๊มป้อนออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ส่วนโค้งท้ายโฟกัสน้ำอุ่นรุ่นไฟท์ติ้ง DE ซีรีส์ตอบโจทย์กำลังซื้อ พร้อมทัพเครื่องกรองน้ำเน้นสุขภาพ ความงาม ประหยัดพลังงาน เจาะทั้งครัวเรือน-งานโครงการ มั่นใจปีนี้รายได้แตะ 1 พันล้าน

นายโรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด กล่าวว่า ช่วงโค้งท้ายปี 2565 นี้ และปี 2566 จะเดินหน้าเต็มที่ทั้งด้านการทำตลาดสินค้าเครื่องทำน้ำอุ่น น้ำร้อน เครื่องกรองน้ำ และตู้กดน้ำ ซึ่งจะมีสินค้ารุ่นใหม่และแคมเปญสร้างการรับรู้ เช่นเดียวกับการลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่ในไทย เพื่อรองรับดีมานด์ในตลาดส่งออก ไปจนถึงการเพิ่มดีกรีรุกตลาดเวียดนาม

สำหรับการลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่นั้น จะเป็นโรงงานผลิตฮีตปั๊มหรือชุดอุปกรณ์ทำความร้อนที่ดึงความร้อนจากอากาศภายนอกแล้วถ่ายเทความร้อนให้แก่น้ำหรือลมร้อน เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นหลัก รองรับดีมานด์ฮีตปั๊มที่พุ่งสูงขึ้น หลังวิกฤตราคาพลังงานพุ่งสูงทำให้ประเทศที่มีภูมิอากาศหนาวเย็นต้องการโซลูชั่นเพื่อทำความร้อนในครัวเรือนแทนแก๊สหรือน้ำมัน ซึ่งฮีตปั๊มตอบโจทย์เพราะอาศัยไฟฟ้าและใช้พลังงานน้อยจึงเป็นที่ต้องการ ขณะนี้เริ่มเห็นดีมานด์ในยุโรปที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว และเชื่อว่าจะมีดีมานด์ต่อเนื่องไปในอนาคต

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด คาดว่าจะใช้งบประมาณ 50-100 ล้านบาท และจะพร้อมเดินเครื่องการผลิตในอีก 3 ปี

ปัจจุบันบริษัทมีโรงงานในประเทศไทย 1 แห่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผลิตเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องทำน้ำร้อน และเครื่องทำน้ำร้อนแบบหม้อต้ม ส่งออกในตลาดเอเชียและทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2549

สำหรับตลาดในประเทศไทย ช่วงโค้งท้ายนี้จะมีสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอีก 1 ตัวคือ เครื่องทำน้ำร้อนไซซ์เล็กพิเศษ ขนาด 20.3 x 17.7 ซม. รับเทรนด์การติดตั้งแบบซ่อนซึ่งนิยมในไทยมุ่งจำหน่ายเข้างานโครงการอสังหาฯ เป็นหลัก

ด้านตลาดครัวเรือน หมวดเครื่องทำน้ำอุ่นจะโฟกัสทำตลาด DE ซีรีส์ ที่เป็นโมเดลระดับไฟติ้ง ราคาจับต้องง่ายในระดับ 2.5-3.5 พันบาท ซึ่งประสบความสำเร็จในการเจาะผู้บริโภคระดับซีและตลาดต่างจังหวัดในช่วงที่ผ่านมา จนสร้างเม็ดเงินในสัดส่วน 65-70% ของกลุ่มสินค้าเครื่องทำน้ำอุ่น และมีส่วนหนุนให้ยอดขายปี 2564 เติบโต ปีนี้มีไฮไลต์เป็นรุ่นสีดำด้านพร้อมของแถมครบชุด ทั้งฝักบัวและราวแขวน สายน้ำเข้า-ออกสีดำ ย้ำความคุ้มค่า รวมถึงเตรียมจัดแคมเปญ Safe Save Series 2 สื่อสารสร้างการรับรู้

ทั้งนี้ เชื่อว่าโค้งท้ายนี้จะยังคงมีดีมานด์เครื่องทำน้ำอุ่นราคาจับต้องได้อยู่ เนื่องจากต้องการความสะดวกสบายจากเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย แต่สภาพเศรษฐกิจกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับราคาเป็นพิเศษ สะท้อนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่รอซื้อสินค้าช่วงมหกรรมลดราคาต่าง ๆ อาทิ 10/10, 11/11 จึงคาดว่าช่วงไตรมาส 4 ปี 2565 นี้ DE ซีรีส์จะผลักดันยอดขายหมวดเครื่องทำน้ำอุ่นได้อีก 25%

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องทำน้ำร้อนรุ่น DCE-M 10/12T พร้อมจุดเด่นกำลังไฟแรงพิเศษถึง 1.2 หมื่นวัตต์ ซึ่งแรงที่สุดในตลาดประเทศไทย เหมาะสำหรับใช้กับอ่างน้ำอย่างจากุซซี่

ในส่วนเครื่องกรองน้ำมุ่งตอบโจทย์ด้านสุขภาพ-ความงาม และความสะดวก ด้วยเครื่องกรองน้ำรุ่น STIEBEL FACE สำหรับล้างหน้า-แปรงฟัน โดยนอกจากการกรอง 4 ขั้นตอน ยังมีแร่เซรามิกทัวร์มาลีนช่วยปรับรสชาติ-คุณสมบัติของน้ำ ในขณะที่รุ่น STIEBEL SNOW ซึ่งเป็นระบบ RO มีจุดเด่นที่ดีไซน์มินิมอลเข้ากับการแต่งบ้านทุกสไตล์ และสามารถเปลี่ยนไส้กรองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

นอกจากนี้ ยังมีเครื่องกรองและกดน้ำร้อน-เย็น ที่มีจุดเด่นด้านความคุ้มค่าและประหยัดพลังงาน จากอายุการใช้งานไส้กรอง 2.5 หมื่นลิตร และระบบปิดตัวเองอัตโนมัติเมื่ออยู่ในที่มืด ตอบโจทย์การใช้งานในออฟฟิศขนาดเล็ก

ส่วนการทำตลาดต่างประเทศนั้น เพิ่มความเข้มข้นของการทำตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นในเวียดนาม ด้วยการเข้าไปตั้งบริษัทย่อยเพื่อทำตลาดโดยตรง หลังก่อนหน้านี้อาศัยดีลเลอร์ โดยจะรุกผู้บริโภคระดับบนก่อน ทั้งนี้ เนื่องจากเวียดนามเป็นตลาดที่มีศักยภาพจากภูมิอากาศที่ใกล้เคียงกับไทย การแข่งขันยังไม่ดุเดือดนัก และชนชั้นกลางกำลังเติบโต รวมถึงสามารถส่งสินค้าจากโรงงานในไทยเข้าไปได้

โดยในอนาคตอาจขยายฐานเข้าไปยังมาเลเซีย ซึ่งเป็นอีกตลาดที่มีศักยภาพด้วยเช่นกัน แต่มีการแข่งขันสูง เพราะเป็นแหล่งผลิตของหลายแบรนด์ จึงต้องอาศัยเวลาเตรียมการ

นายโรลันด์กล่าวอีกว่า จากทัพสินค้าใหม่ในหลากหลายกลุ่มจะช่วยให้บริษัทมีรายได้แตะ 1 พันล้านบาท เติบโต 12% จากปีที่แล้ว หรือ 1.4 พันล้านบาท เติบโต 11% หากรวมการส่งออก รวมถึงมีส่วนแบ่ง 25% ในตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นมูลค่า 3 พันล้านบาท หรือ 8.5 แสนเครื่อง ส่วนปี 2566 จะเปิดตัวสินค้าใหม่ 6 รายการ พร้อมกับขยายไลน์สินค้าโซลูชั่นเกี่ยวกับน้ำให้หลากหลายขึ้นอีก เพื่อสร้างการเติบโต 15%