
สัมภาษณ์พิเศษ
WildBrain CPLG บริษัทด้านความบันเทิง กีฬา และแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 50 ปีในการสร้างคอนเทนต์ แคแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนชื่อดัง อย่าง Peanuts (Snoopy), Teletubbies, Strawberry Shortcake ฯลฯ รวมถึงการผลิตคอนเทนต์ผ่านช่องทางสตรีมมิ่ง อย่าง Apple TV และการขายลิขสิทธิ์แบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานมากกว่า 25 แห่งทั่วโลก
ล่าสุด ได้เข้ามารุกตลาดเอเชีย ปัจจุบันมีสำนักงานอยู่ในเอเชียประมาณ 9 แห่ง เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน จีน เกาหลีใต้ สำหรับประเทศไทย WildBrain เข้ามาตั้งสำนักงานเมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “WildBrain Thailand”
บุก “ตลาดไทย” เต็มรูปแบบ
“ประชาชาติธุรกิจ” ได้สัมภาษณ์ “มาร์เทน เว็ค” รองประธานบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท WildBrain CPLG จำกัด ถึงแนวทางการทำตลาดในประเทศไทย ไว้ดังนี้
“มาร์เทน” กล่าวว่า WildBrain มีความเชี่ยวชาญในด้านการทำตลาดคอนเทนต์แคแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนชื่อดัง อาทิ ชาร์ลี บราวน์, สนูปปี้, เทเลทับบี้ ฯลฯ มายาวนานจนมีเครือข่ายในการทำตลาดครอบคลุมทั่วโลก การเข้ามาตั้งสำนักงาน WildBrain ประเทศไทย เมื่อปีที่ผ่านมาถือเป็นหนึ่งในแผนของบริษัทที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการสร้างการเติบโต
เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ในเอเชีย และมีศักยภาพการเติบโตสูง รวมถึงแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ในประเทศไทยก็มักจะหันมาใช้แคแร็กเตอร์ตัวการ์ตูน หรือดาราที่เป็นที่รู้จัก เพื่อมาช่วยผลักดันแบรนด์ให้กลายเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น
“ก่อนหน้าเราดำเนินงานผ่านเอเยนซี่บริษัทตัวแทน การเข้ามาบุกตลาดไทยอย่างเต็มตัวนี้ เรามีความมุ่งมั่นที่อยากจะผลักดันให้แบรนด์ไทยที่เป็นพาร์ตเนอร์กับเราได้มีโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศได้ง่ายขึ้น”
บูมแคแร็กเตอร์ Peanuts
“มาร์เทน” บอกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในตลาดประเทศไทยหลังจากนี้ บริษัทมีแผนจะนำตัวการ์ตูนแคแร็กเตอร์ต่าง ๆ เข้ามาทำตลาดในไทยผ่านการขายลิขสิทธิ์ให้กับบริษัท หรือแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ว่าบริษัทมีแบรนด์ที่หลากหลาย
โดยในส่วนของกลุ่มธุรกิจที่จะโฟกัสในการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย หลัก ๆ จะเป็นธุรกิจขายลิขสิทธิ์ เนื่องจากมองว่าตลาดประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีศักยภาพในการเติบโตสูง
ส่วนกลุ่มธุรกิจสร้างคอนเทนต์ หรือการกระจายเนื้อหาคอนเทนต์ไปในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ อย่างคอนเทนต์การ์ตูน Teletubbies ที่ปัจจุบันมีสตรีมผ่านช่องทาง Youtube และ Netflix อยู่แล้ว บริษัทก็กำลังมองหาโอกาสที่จะขยายช่องทางในการรับชมให้กว้างขึ้น ผ่านฟรีทีวีในประเทศไทย อาทิ True ID และช่อง 7 เป็นต้น
รวมถึงกำลังหาโอกาสที่จะนำเสนอคอนเทนต์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเช่นเดียวกัน ซึ่งคอนเทนต์ที่จะนำเสนอบนช่องทางโซเชียลมีเดียสำหรับประเทศไทย จะใช้แอปพลิเคชั่น Line ในการยิงคอนเทนต์ เช่น การสร้างสติ๊กเกอร์ตัวการ์ตูนแคแร็กเตอร์ของบริษัท เป็นต้น
“โดยเราเชื่อว่าช่องทางโซเชียลมีเดียจะเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนที่ดีให้กับธุรกิจ และแบรนด์ต่าง ๆ ในเครือของเรา ให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายและเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดเมืองไทย”
ส่วนตัวการ์ตูนแคแร็กเตอร์ที่จะเน้นในช่วงเริ่มต้น 1-3 ปีแรกสำหรับตลาดในประเทศไทย ก็จะมีทั้ง Peanuts (Snoopy), Teletubbies, Strawberry Shortcake ฯลฯ รวมถึงแบรนด์ Yale University ที่เป็นพันธมิตรกับบริษัท ก็จะนำเข้ามาขยายตลาดในเมืองไทยด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันในไทยก็จะมีขายอยู่ที่ร้าน Cotton Club ที่เป็นแฟชั่นของสนูปปี้
หนุน “แบรนด์ไทย” สู่ตลาดโลก
“มาร์เทน” ยังบอกด้วยว่า ขณะเดียวกันบริษัทก็มีความมุ่งมั่นที่อยากจะผลักดันให้แบรนด์ไทยได้มีโอกาสเติบโตในตลาดต่างประเทศ ด้วยการใช้ความแข็งแกร่งของบริษัทที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วโลกในการเป็นตัวแทนที่จะเข้ามาช่วยขยายตลาดและกระจายสินค้า
โดยหวังว่าภายใน 1-2 ปี จะสามารถช่วยให้แบรนด์ไทยออกสู่ระดับโลกได้สำเร็จ
พร้อมให้ข้อมูลว่า หลังจากที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยอย่างจริงจังเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีพาร์ตเนอร์แล้วมากกว่า 20 ราย ทั้งกลุ่มเสื้อผ้า ร้านกาแฟ รองเท้า และสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำ ฯลฯ จึงคาดว่าจากแผนการดำเนินงานดังกล่าวนี้จะช่วยสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้ถึง 300% ภายใน 3-5 ปี
ย้ำ “เฟรช-ใหม่” ตลอดกาล
รองประธานบริหาร WildBrain CPLG ยังเพิ่มเติมอีกว่า ปัจจุบันตลาดคอนเทนต์แคแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนทั่วโลกมีมูลค่าตลาดอยู่ที่กว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ โดยตัวการ์ตูนแคแร็กเตอร์อย่าง Snoopy (Peanuts) มีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 3,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
“ปัจจุบันถึงแม้จะไม่มีหนัง ไม่มีทีวีซีรีส์ ไม่มีเกม แต่ตัวการ์ตูน Snoopy ก็ยังคงได้รับความสนใจและมีชื่อเสียงโด่งดังมาโดยตลอด เนื่องจากลูกชายของ Charles M. Schulz นักวาดการ์ตูนชื่อดังที่ออกแบบตัวการ์ตูนเหล่านี้ให้ยังคงมีอยู่ตลอด”
“มาร์เทน” ย้ำว่า นอกจากความเฟรชของแบรนด์แล้ว อีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ตัวการ์ตูนแคแร็กเตอร์ Snoopy (Peanuts) ยังสามารถทำการตลาดและสามารถแข่งขันได้ คือ บริษัท Peanuts Worldwide จำกัด ได้มีการออกแบบให้ตัวการ์ตูน Snoopy มีแคแร็กเตอร์ในรูปแบบใหม่อยู่ตลอด
อย่างเช่น เทศกาลคริสต์มาสก็จะมีธีมใหม่ ๆ ออกมา รวมถึงมีการทำ Collaborations ด้วยการขายลิขสิทธิ์ให้บริษัทหรือแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ Gucci, Coach, Levi’s ฯลฯ เพื่อที่จะให้ลูกค้าเห็นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นนั่นเอง