“กระทิงแดง” เพิ่มดีกรีบุก AEC ตั้งทีมใหม่เจาะรายประเทศ

“กระทิงแดง” ทุ่มงบฯ 3 พันล้าน ย้ำผู้นำเครื่องดื่มชูกำลังอาเซียน ตั้งทีม global marketing เจาะตลาดแบบลงลึกรายประเทศ พัฒนาโปรดักต์ใหม่ตอบอินไซต์ผู้บริโภค พร้อมเดินหน้าสื่อสารออฟไลน์-ออนไลน์ หวังดับเบิลยอดขายเป็น 6 หมื่นล้านใน 2 ปี ส่วนตลาดในประเทศเดินหน้าเปิดตัวสูตรใหม่ “กระทิงแดง เอ็กซ์ตร้า” ปรับภาพทันสมัย ขยายฐานวัยรุ่น

นายศุภชัย จุนเกียรติ ผู้อำนวยการสายงานการตลาดโกลบอลกลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวว่า หลังจากกระทิงแดงหรือเรดบูลได้เปิดตัวและเข้าไปทำตลาดในประเทศต่าง ๆ มาแล้วกว่า 40 ปี ปัจจุบันกระทิงแดงถือเป็นเครื่องดื่มให้พลังงานจากประเทศไทยที่เป็นผู้นำตลาดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ที่ประมาณ 40% ซึ่งทุกประเทศที่กระทิงแดงเข้าไปจำหน่ายจะมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ในอันดับ top 3 เพื่อรักษาความเป็นผู้นำและสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มธุรกิจต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีแผนที่จะใช้งบฯลงทุน 3,000 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพในการขาย การสื่อสารกับผู้บริโภค โดยแบ่งเป็น 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1.การตั้งทีม global marketing และทีมการตลาดประจำประเทศต่าง ๆ รวมกว่า 100 คน เพื่อดูแลการตลาดทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทีมงานในแต่ละประเทศต้องศึกษาพฤติกรรมการบริโภค วัฒนธรรม และไลฟ์สไตล์ ความเป็นอยู่ของผู้บริโภค และบริบทในประเทศนั้น ๆ เพื่อนำมาปรับเป็นแนวทางในการทำตลาดร่วมกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็นบริษัทไทยที่ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก

2.การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ทุกความต้องการ โดยปัจจุบันสินค้าในพอร์ตโฟลิโอของกระทิงแดงมีมากกว่า 10 รายการ ซึ่งถูกพัฒนามาจากการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัว “เรดบูล พลัส” เครื่องดื่มให้พลังงานสูตรพรีเมี่ยม ปราศจากน้ำตาล ผสมวิตามินบี 3 บี 5 บี 6 และบี 12 ในบรรจุภัณฑ์แบบสลิมแคน (slim can) เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและภาพลักษณ์ โดยจะเริ่มนำร่องจัดจำหน่ายในปลายเดือนมิถุนายนที่ประเทศสิงคโปร์ และตั้งเป้าจะขยายสู่ตลาดในประเทศอื่น ๆ ต่อไป

และ 3.การสร้างนวัตกรรมการสื่อสารในแต่ละประเทศ ตามพฤติกรรมและความต้องการที่แตกต่างกันไป เนื่องจากการใช้ชีวิตในแต่ละวัน พฤติกรรมการบริโภค ไลฟ์สไตล์ ตลอดจนวัฒนธรรมและสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าทั้งสิ้น ปัจจุบันบริษัทมีทั้งช่องทางการสื่อสารออฟไลน์และออนไลน์ผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ไลน์ แอปพลิเคชั่น (ในตลาดเมืองไทย) สื่อโซเชียลมีเดีย และวอตส์แอป (ในตลาดต่างประเทศ) ที่จะปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับบริบทและความนิยมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ

นายศุภชัยยังระบุต่อไปอีกว่า สำหรับตลาดในประเทศไทยบริษัทได้เปิดตัว “กระทิงแดง เอ็กซ์ตร้า” สูตรใหม่ และปรับรูปแบบบรรจุภัณฑ์เพื่อให้แบรนด์ดูทันสมัยมากขึ้น สำหรับเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งแต่นักศึกษาจนถึงคนทำงานทั่วไป อายุระหว่าง 18-35 ปี ควบคู่กันกับแคมเปญ “ลองเลย อร่อยจริง !”

ที่เน้นสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งภาพยนตร์โฆษณา สื่อออนไลน์ สื่อ out-of-home สื่อ ณ จุดขาย และในร้านค้า กิจกรรมคอนเสิร์ตรวมกว่า 300 สนามทั่วประเทศ การแจกผลิตภัณฑ์ตัวอย่าง 1 ล้านขวดทั่วประเทศ ต่อยอดจากแคมเปญ “กระทิงแดงพ้อยท์ แลก ลุ้น รวย” ที่ให้ผู้บริโภคส่งรหัสใต้ฝาแลกของรางวัลพรีเมี่ยม ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 เม.ย.-31 ธ.ค. 62

ทั้งนี้ คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลให้บริษัทมียอดขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เติบโตขึ้น 2 เท่า หรือจาก 30,000 ล้านบาท เป็น 60,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปี และสร้างยอดขายโดยรวมของบริษัทให้เติบโตขึ้น 15%