บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมอนาคตสดใส เทรนด์กล่อง-ถุง-แก้วย่อยสลายได้มาแรง ตลาดโตต่อเนื่องรับกระแสรักษ์โลก ชี้มูลค่าตลาดรวมยังน้อยแค่ 1.7 พันล้าน โอกาสเบียดตลาดชิง 3.5 หมื่นล้าน จาก “พลาสติก-โฟม” มีอีกมาก “ทานตะวัน” เพิ่มแบรนด์ใหม่-ขนสินค้าขายในช่องทางออนไลน์ “เกรซ” เพิ่มกำลังผลิตรับดีมานด์พุ่ง-เจรจาร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ทำโคแบรนด์ ด้านถุงขยะ “ฮีโร่” เพิ่มไลน์โปรดักต์-ส่งออก
ถึงวันนี้ กระแสความใส่ใจสิ่งแวดล้อม “รักษ์โลก” ด้วยการลด เลิก ใช้ถุง กล่อง แก้ว ที่ทำมาจากพลาสติก-โฟม และหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้แทนที่เกิดขึ้น เริ่มส่งผลให้ตลาดผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกมาแรง
นายธรรศพงศ์ ฐิติหิรัญเมธี รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกและบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันกระแสความตื่นตัวของผู้บริโภคในเรื่องบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือบรรจุภัณฑ์ที่สลายตัวได้เองมีมากขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ ขณะที่ในประเทศไทยเองผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นตลาดที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมาก
ล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้ผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ แบรนด์ “SUNBIO” เข้ามาทำตลาดเพิ่ม ได้แก่ ถุงหูหิ้ว ถุงซิป ถุงขยะ หลอดกระดาษ และในอนาคตมีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่ม และมีแผนจะนำสินค้ากลุ่มนี้เข้าไปจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ ลาซาด้า ช้อปปี้ เฟซบุ๊ก ไลน์@ เพื่อรองรับเทรนด์ผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทได้ผลิตถุงใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว ถุงซิป ถุงมือ และหลอดดูด ภายใต้แบรนด์ “EcoAbsolute” ที่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพผสมกับซังข้าวโพด สามารถย่อยสลายได้ภายใน 180 วัน มีอายุการใช้งาน 1 ปี วางขายในเดอะมอลล์ แม็คโคร บิ๊กซี ฯลฯ
“ที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มนี้เติบโตค่อนข้างมาก อย่างปีที่แล้วหลอดดูดย่อยสลายได้เป็นกระแสมาแรงมาก และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวเป็นอย่างดี โดยมีออร์เดอร์เข้ามากว่า 8 ตัน และไตรมาสแรกที่ผ่านมาก็มีออร์เดอร์ที่เข้ามากว่าครึ่งปีที่แล้วอีก นอกจากนี้ บริษัทยังรับจ้างผลิตในลักษณะ B2C และช็อปปิ้งมอลใหญ่ ๆ ในต่างประเทศด้วย” นายธรรศพงศ์กล่าว
ตลาดยังเล็กโตได้อีกมาก
นายวีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายกล่องบรรจุอาหารจากพืช อาทิ ชานอ้อย ผักตบชวา เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ “เกรซ” (Grace) กล่าวในเรื่องนี้ว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมหรือที่ย่อยสลายได้บูมมาก ทำให้ตลาดรวมมีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เฉลี่ยปีละ 100% และเป็นตลาดที่โตเร็วมาก และที่สำคัญ ตลาดนี้ยังมีโอกาสที่จะเติบโตไปได้อีกมาก
หากสังเกตจะเห็นว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการกระโดดเข้ามาในตลาดนี้มากขึ้นปัจจุบันตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารซึ่งส่วนใหญ่ทำจากพลาสติก-โฟม มีมูลค่าประมาณ 35,000 ล้านบาท ขณะที่บรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้มีเพียง 5-6% ของตลาดบรรจุภัณฑ์อาหารดังกล่าว หรือมีมูลค่าตลาดเพียง 1,700-2,100 ล้านบาท ดังนั้น ตลาดบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ยังมีช่องว่าง ยังมีโอกาสที่จะเติบโตหรือจะไปทดแทนบรรจุภัณฑ์จากพลาสติกและโฟมได้อีกมาก
นายวีรฉัตรกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันสินค้าของบริษัทมีวางจำหน่ายครอบคลุมทั้งโมเดิร์นเทรด เทรดิชั่นนอลเทรด จากช่วงแรกที่เน้นไปที่สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงพยาบาล
และจากนี้ไปมีแผนมีเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดมากขึ้น นอกจากการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ของตัวเองแล้ว ยังมีการจับมือกับพันธมิตรเพื่อผลิตสินค้าในลักษณะโคแบรนด์ ซึ่งขณะนี้คุยกันอยู่หลายราย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ จากที่ผ่านมาได้ร่วมกับสตาร์บัคส์ ในสหรัฐอเมริกา ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ และจะขยายตลาดและช่องทางจำหน่ายให้มากขึ้น ด้วยการส่งทีมประชาสัมพันธ์ ทีมเซลส์ เข้าไปให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น แม่ค้า ร้านอาหาร ตลาด แหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ
“เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดในอนาคต บริษัทมีแผนจะลงทุนอีก 400-500 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต และคาดว่าจะเสร็จในช่วงปลายปีนี้ และจะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 2 ล้านชิ้น/วัน จากเดิมที่มีเพียง 1 ล้านชิ้น/วัน รวมทั้งจะมีการนำอินโนเวชั่นใหม่ ๆ เข้ามาใช้มากขึ้น เช่น แก้วเคลือบชานอ้อย ที่ทำให้แก้วแข็งแรงขึ้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดบริษัท คิงส์แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด ผู้ผลิตถุงพลาสติกแบรนด์ “ฮีโร่” ได้ขยายไลน์อัพสินค้าเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์จากกระดาษ อาทิ หลอดดูดน้ำผลิตจากกระดาษ เน้นจับตลาดต่างประเทศโดยใช้บริษัท Eximex UK เป็นผู้กระจายสินค้า จากเดิมที่มีถุงหูหิ้วแบบย่อยสลายได้หลายขนาด และเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้ผลิตถุงขยะรีไซเคิลรุ่นรักษ์โลก ที่ผลิตจากเศษขยะพลาสติกที่ได้จากบ่อขยะเข้ามาทำตลาด โดยมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับแม็คโคร
ธุรกิจตื่นตัวรับเทรนด์
นอกจากความเคลื่อนไหวของผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่ทยอยผลิตสินค้าย่อยสลายได้ออกมาจำหน่ายและมีการทำการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและรองรับดีมานด์ของผู้บริโภคที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของผู้ประกอบการในหลาย ๆ ธุรกิจก็หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น และได้ทยอยปรับเปลี่ยนการใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติกมาเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้อย่างคึกคัก
นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทมีนโยบายจะนำบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้มาใช้กับสินค้าต่าง ๆ ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม โลชั่น ครีมอาบน้ำ นํ้ายาล้างจาน นํ้ายาซักผ้า ฯลฯ ที่ผ่านมาได้ทยอยใช้วัตถุดิบที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล post-consumer-recycled (PCR) แทนวัสดุแบบ PET และตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกได้ 100% ในปี 2568 ที่ผ่านมา
บริษัทก็ได้เริ่มโครงการรักษ์โลก ด้วยการใช้พลาสติกรีไซเคิลในกลุ่มสินค้าที่ขายดี เช่น น้ำยาล้างจานซันไลต์ นํ้ายาปรับผ้านุ่มคอมฟอร์ท ที่มียอดขายปีละกว่า 100 ล้านขวดต่อแบรนด์
ด้านนายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารรร้านกาแฟอินทนิล กล่าวในเรื่องนี้ว่า นอกจากการรณรงค์ให้ลูกค้านำแก้วมาเองเพื่อช่วยลดการใช้แก้วพลาสติกแล้ว ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ร้านก็ได้นำแก้วที่ผลิตจากพืชธรรมชาติ 100% สามารถย่อยสลายได้มาใช้ ซึ่งคาดว่าจะใช้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 60 ล้านใบ
ขณะเดียวกันก็มีร้านกาแฟหลายรายที่หันมาใช้แก้วย่อยสลายได้มากขึ้น ล่าสุดอินทนิลได้ปรับแก้วร้อนแบบ take away มาเป็นแก้วกระดาษเคลือบพลาสติกที่ย่อยสลายได้ และจะให้บริการพร้อมกันทั้ง 500 กว่าสาขา
นายชัญญ์ญาณ์ ธำรงวินิจฉัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ โบว์ล กรุ้ป จำกัด กล่าวว่า เพื่อร่วมรณรงค์ลดปัญหาขยะจากโฟม พลาสติก ตั้งแต่วันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา บลูโอ ริธึม แอนด์ โบว์ล ทั้ง 9 สาขา และซับซีโร่ ไอซ์สเก็ต 4 สาขา ได้เปลี่ยนและหันมาใช้บรรจุภัณฑ์สำหรับใส่อาหารที่ผลิตจากชานอ้อย ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถย่อยสลายได้ภายใน 45 วัน ตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกกว่า 400,000 ชิ้น
