อีเวนต์ Q4 เด้งรับคลายล็อก เงินสะพัด 2 พันล้าน “อินเด็กซ์” ลุย 5 งานยักษ์

“อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ” เผยธุรกิจอีเวนต์ 1.4 หมื่นล้าน ปลายปีเริ่มฟื้น หลังเห็นสัญญาณบวกภาครัฐทยอยปลดล็อก-พร้อมเปิดประเทศ

ชี้ยักษ์เอกชนเตรียมจัดอีเวนต์เคานต์ดาวน์ปลายปี แม้ยังหวั่นสถานการณ์โควิด ด้านบริษัทเดินหน้าจัดงานต่อเนื่อง คาดสิ้นปีอีเวนต์ทำเงินสะพัดกว่า 2,000 ล้าน

นายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประเมินว่าภาพรวมธุรกิจอีเวนต์ที่มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีจะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

เนื่องจากหลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ทำให้ธุรกิจเอกชนเตรียมแผนจัดงานอีเวนต์ปลายปี แต่รูปแบบการจัดงานคงไม่ใช่สเกลขนาดใหญ่

โดยหลาย ๆ บริษัทยังมีความกังวลกับสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปลายปีคาดว่าจะได้เห็นงานเคานต์ดาวน์อยู่หลายงาน

ที่ผ่านมา บริษัทปรับตัวมาต่อเนื่อง และไม่ได้รองบฯจากสปอนเซอร์เพียงอย่างเดียว เพราะตั้งแต่เจอกับวิกฤตโควิด หลาย ๆ บริษัทยังไม่กล้าใช้งบฯ เนื่องจากความเสี่ยงสูง

จึงหันมาหารายได้จากการจับมือกับเจ้าของสถานที่จัดงานอีเวนต์ในรูปแบบเอาต์ดอร์ ที่ผ่านมาอินเด็กซ์ฯได้ผ่านการจัดงาน Immersive Digital Art มาหลายรูปแบบ อาทิ

การจัดไฮบริดคอนเสิร์ตของเครสเชนโดและบุรินทร์ ผู้ร่วมงานครั้งละ 882 คน ตามด้วยงานเทศกาลประดับไฟฤดูหนาว VILLAGE OF ILLUMINATION ที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย จำนวนผู้เข้าชมกว่า 35,000 คน

และเมืองโบราณ ไลท์ เฟส สมุทรปราการ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 25,000 คน ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

ล่าสุด เตรียมเปิดตัวงาน “Forest of Illumination at Kirimaya” เทศกาลประดับไฟ แสง สี เสียง พร้อมรับชมการแสดงข้อความจากดวงดาวผ่านโดรนภายใต้แนวคิด “Witness the dazzling light of an enchanted forest”

ซึ่งเป็นการร่วมมือกับเจ้าของพื้นที่ บริษัท คีรีมายา จำกัด เพื่อกระตุ้นธุรกิจในช่วงโควิดเริ่มคลี่คลาย ตลอดจนการสร้างสรรค์กิจกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของลูกค้าในปัจจุบันมากขึ้น

งานจัดขึ้นที่คีรีมายา เขาใหญ่จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 5 พ.ย.-29 ม.ค. 2565 ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19อย่างเข้มงวด บัตรราคา 300 บาท จำกัดผู้เข้าชม 40 คนต่อรอบ ตั้งเป้าจำนวนคนเข้าชมงาน 60,000 คน

สเต็ปถัดไป ยังเตรียมจัดงานอีเวนต์อีกประมาณ 3-5 งาน ในรูปแบบ SPORT AND LIFESTYLE ประกอบด้วย3 ส่วนหลัก คือ ACTIVITY PARK, SKATE PARK ในชื่อสเก็ตนคร

และ SPORT EVENT ทั้งหมดจัดขึ้นที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ ตามด้วยงานเทศกาลโคมไฟและอาหารนานาชาติ ที่เมืองโบราณ สมุทรปราการ และงานเมืองโบราณ ไลท์ เฟส

รวมแล้วใช้งบฯลงทุนไปกว่า 40 ล้านบาท ทุกงานจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

ทั้งนี้ การจัดงานช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี เป็นการวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นปี และเป็นงานอีเวนต์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงคลายล็อกดาวน์ รวมถึงการเปิดประเทศ ที่จะส่งผลต่อธุรกิจท่องเที่ยวและภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้ฟื้นกลับมาเร็วขึ้น

หากสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายมากขึ้นก็จะมีการจัดงานรูปแบบดังกล่าวในสถานที่อื่น ๆ ตามมา โดยหลังจากนี้จะเน้น own project มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการสิ้นสุดปี 2564 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ราว ๆ 700 ล้านบาท หรือตามแผนที่วางไว้ ถือว่าเติบโตขึ้น 64% ซึ่งมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย marketing service 248 ล้านบาท, creative business development 343 ล้านบาท


และ own project รวมประมาณ 78 ล้านบาท และปี 2565 คาดว่าจะเริ่มมีรายได้เพิ่มขึ้น และขยับขึ้นมาแตะที่ 1,000 ล้านบาท และใน ปี 2566 เชื่อว่าจะได้เห็นตัวเลขรายได้ถึง 2,000 ล้านบาทอีกครั้ง