“บุ๋ม บุณย์ญานุช” มือการตลาด “บาบีก้อน” ลาออก

“บุ๋ม บุณย์ญานุช” มือการตลาด “บาบีก้อน” เปิดใจถึงกรณีการตัดสินใจลาออก ก่อนเริ่มบทบาทใหม่ที่อาจท้าทายกว่าเดิม

วันที่ 1 เมษายน 2565 นางสาวบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการสร้างโอกาสทางการตลาด กลุ่มธุรกิจอาหารฟู้ดแพชชั่น บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด ได้เปิดใจถึงกรณีการตัดสินใจลาออกจากบริษัท โดยเขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า

จดหมายขอลาพักร้อนถึง GON เพื่อนรัก
อี GON เพื่อน Love แกจำได้ไหมว่าวันนี้ 1 เมษายน
เมื่อ 10 ปีก่อนเป็นวันที่ฉันเข้ามาทำงานกับแก ฉันจำความรู้สึกตอนนั้นได้แม่นยำว่า
โคตรดีใจเลยที่ได้มาทำกับร้านอาหารที่ตัวเองชอบกินมาก
โอโห้ โคตรเท่เลยได้เป็น marketing director ผู้กำหนดแนวทางของแกเลยนะ
จริง ๆ ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดว่าฉันจะตกหลุมรักแกมากขนาดนี้ว่ะ
ก็แค่คิดว่าได้ทำงานใกล้บ้าน ได้ทำร้านอาหารที่ตนเองชอบกิน

แถมได้หาคำตอบที่สงสัยมาหลายอย่างว่าร้านอาหารเค้าทำกันยังไงวะ ฉันคิดแค่นั้นเอง
แต่พอเวลาผ่านไป ในทุก ๆ วันทุก ๆ ปีของฉัน
ทำให้ฉันได้เข้าใจความหมายของคำว่าการที่เราได้ทำงานที่เรารัก มันมีค่าไม่แพ้กับเงินที่เราได้ในแต่ละเดือน
สิ่งที่เราได้ทำร่วมกันมา มันโคตรแจ๋วเลยว่ะ GON
หลายคนอาจชื่นชมเราว่า สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการร้านอาหาร
แต่เอาจริง ๆ เลย มันมีความลับที่ซ่อนอยู่ในสิ่งที่ฉันทำนะ

แกรู้เปล่า ?
ไอ้คำชื่นชมเหล่านั้นมันก็ทำให้เรารู้สึกมีความสุขดีกับสิ่งที่เราทำนะ
สิ่งที่มีความหมายมากกว่าก็คือ การที่ทำให้ฉันรู้ว่างานที่ฉันทำมันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับคนรอบตัว
น้อง ๆ พี่ ๆ ที่บริษัท พนักงานตัวเล็ก ๆ ที่สาขา
ในวันนั้นฉันรู้สึกเหมือนว่างานที่ฉันทำมันมีความหมายว่ะ นอกจากนั้น..แกจำได้เปล่าวะ
เวลาที่เราไปสาขาเราด้วยกัน เราได้เห็นรอยยิ้มของลูกค้าที่เขามากินอาหารร้านเรา
เขามีความสุข เขาพาครอบครัวหรือคนที่เขารักมานั่งที่ร้านเรา
เวลามองไปเหมือนคนมีความสุขเลยว่ะ นอกเหนือจากนั้น

เราก็ได้ร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ผู้คน หันมามองร้านของเรา
ร้านที่เคยอาจอยู่นอกสายตาของคนหลายคน วันแรกที่ฉันเข้ามาทำงานที่นี่
ฉันบอกว่าวันนึงฉันจะทำให้ “แบรนด์เราเป็นแบรนด์ที่คนรักมากที่สุด”
วันนี้แกว่า เรามาถึงยังวะ GON มีความลับอยู่เรื่องหนึ่ง
ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยรู้ รวมถึงแกด้วย… จริง ๆ ในปีแรกฉันเคยพูดด้วยซ้ำว่า
ฉันอาจจะอยู่ที่นี่ไม่นานเพราะฉันมีความฝันของตัวเองที่อยากทำให้ได้

แต่…โคตรตลก..บอกว่าอยู่ไม่นาน นี่มัน 10 ปีแล้วนะเว้ยยย
อีกอย่างรู้มั้ย? ในช่วงปีที่ 5-6 ของการทำงานที่นี่ ตอนนั้นฉันโคตรเบื่อเลยว่ะ
ฉันเคยจะไปขอใบลาออกมาเซ็นรอไว้แล้วรอลงวันที่ด้วยนะ
แกว่า ฉันบ้าบอม่ะ แต่เอาว่ะ อีกสักฮึด
ฉันเป็นคนขื้เบื่อ ชอบความท้าทาย

รู้หรือเปล่า ? ที่ฉันทำอะไรใหม่ ๆ มาตลอดก็เพราะว่าจริง ๆ มันเป็นการแก้ความเบื่อที่มีนั่นเองแหละ
ฉันพยายามเปลี่ยนความเบื่อของตัวเองให้มีประโยชน์กับแก
เพราะฉันยังรับเงินเดือนแกอยู่ ฉันอยากทำให้มันเต็มที่…
อีกอย่าง…ฉันอยากให้พื้นที่นี้ เป็นที่ให้โอกาสเด็ก ๆ ว่ะ…
เพราะฉันเชื่อว่า ยังมีเด็กที่มีความสามารถมากมายแต่ไม่มีโอกาส
และเมื่อฉันอยู่ในสถานะที่สามารถให้โอกาสเขาได้

ฉันจึงอยากทำเหมือนเป็นช่วงสุดท้ายของการทำงานอยู่กับแก
เวลาผ่านมาเข้าปีที่ 8 ไอ้ความรู้สึกนั้น มันวนมาทักทายฉันอีกแล้วว่ะ
ไอ้ความคิดที่ อยากจะเดินไปตามหาความฝันของตัวเอง ฉันจึงเตรียมวางแผนทุกอย่าง
เพื่อให้วันที่ฉันเดินออกจากที่นี่มันเป็นวันที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับแกและลูกน้องในทีม
ฉันพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้

มาถึงบรรทัด
แกกับคงงงว่า นี่ขนาดฉันเบื่อแล้ว ทำไมฉันบ้าพลังเบอร์นี้ คำตอบคือ
ฉันอยากบอกแกไว้ว่าตราบใดที่เรายังอยู่ที่ใด อยู่ที่ไหน
รับเงินเดือนเขาอยู่ในบทบาทใด ๆ จงตั้งใจทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุด
แกต้องรักในอาชีพและศักดิ์ศรีของความเป็นตัวเอง
เข้าสู่ปีที่ 9

ฉันมีความฝันที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในสิ่งที่อยากทำ
สิ่งที่ฉันต้องตัดสินใจเลือกว่าฉันจะอยู่กับแกต่อผ่านไปเป็นปีที่ 11
หรือออกเดินทางจากพื้นที่แห่งความปลอดภัยไปสู่โลกใหม่
GON แกรู้เปล่า ? มันเริ่มมีความคิดบ้า ๆ มาในหัว

อีกว่าถ้าวันนึงอยู่ดี ๆ “กูเป็นคนว่างงานมันจะมีโอกาสอะไรใหม่ใหม่เข้ามาในชีวิตบ้างวะ”
ความคิดนี้มันโคตรบ้าเลยเนอะ การที่จะคิดว่างออกมาว่างานเฉย ๆ

ซึ่งจะบอกว่าบรรทัดนี้ขอเตือนเด็ก ๆ ทุกคนว่าอย่าทำตามนะ เพราะก่อนจะมาถึงตรงนี้ฉันคิดแล้วคิดอีกว่า
จะมีผลกระทบใดใดบ้าง แต่เมื่อเราก้าวมาถึงในวัยที่อายุ 44 แล้ว

เฮ้ยนี่มันครึ่งชีวิตแล้วนี่หว่า เมื่อเสียงในหัวนั้นมันดันไม่หยุดไม่ยอมฉัน กล้าตัดสินใจที่จะเดินมาบอกแกว่า
“ฉันขอลาพักร้อนนะ แต่มันเป็นการลาพักร้อนครั้งสุดท้ายในบทบาทของบุ๋ม บาร์บีคิวพลาซ่า”