ไฮเออร์ ขนทัพ 90 สินค้าใหม่ โหมกิจกรรมทั่วปท. หวังยอดแตะหมื่นล้าน

ไฮเออร์ ขนทัพ 90 สินค้าใหม่ พร้อมโหมกิจกรรมทั่ว ปท. หวังยอดขายแตะหมื่นล้าน  พร้อมทุ่มงบฯ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายกำลังผลิตโรงงานแอร์ในไทยรองรับการส่งออก

วันที่ 8 เมษายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไฮเออร์ เผยแนวทางธุรกิจและแผนลงทุนในปี 2565 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 20 ปีของการเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ด้วยการขนทัพสินค้าใหม่จำนวนกว่า 90 รายการ พร้อมทุ่มงบฯ การตลาดอีก 850 ล้านบาท เดินสายจัดกิจกรรมทั่วประเทศตลอดปี หวังดันยอดขายปี 2565 นี้ ให้แตะ 1 หมื่นล้านบาทตามเป้าที่วางไว้ รวมถึงลงทุน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มกำลังผลิตของโรงงานแอร์ในไทยอีกด้วย

คาดไตรมาส 2-4 ตลาดฟื้นตัว

นายธเนศร์ บินอาซัน รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วงไตรมาส 2-4 มีโอกาสฟื้นตัวและจะทำให้ภาพรวมตลาดปี 2565 นี้ดีกว่า 2564 โดยอาจเติบโตได้ประมาณ 10% เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจและผู้บริโภคเริ่มฟื้นตัวและจับจ่ายสินค้า

“อย่างไรก็ตาม ตลาดคงยังไม่กลับมาเท่าปกติ ส่วนหนึ่งเพราะภาคธุรกิจยังชะลอการลงทุนขนาดใหญ่ระหว่างรอความชัดเจนของมาตรการรับมือการระบาดในช่วงครึ่งปีหลัง”

มุ่งยอดขายหมื่นล้านบาท

สำหรับบริษัทตั้งเป้าเติบโต 30% หรือมีรายได้แตะ 10,000 ล้านบาทในปีนี้ จึงเดินหน้าเปิดตัวทัพสินค้าใหม่กว่า 90 รายการได้แก่ เครื่องปรับอากาศ 4 รุ่น ชูเทคโนโลยีแสงอัลตราไวโอเลตที่ยับยั้งไวรัสได้ 99.99% ตู้เย็น 25 รุ่นทั้งมัลติดอร์และ 2 ประตู เครื่องซักผ้าเพิ่มรุ่นฝาหน้า 4 รุ่น และฝาบน 3 รุ่นพร้อมเทคโนโลยี Self-Cleaning และเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น i-Refresh, Hygienic program, ABT & Dual Spray เพิ่มตู้แช่ไลน์ตู้แช่ไวน์ขนาดเล็ก

ด้านกลุ่มไฮเอนด์จะเปิดตัวทีวี OLED และ HQLED 4K รวม 17 รุ่น เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอีก 34 รุ่น เช่น เครื่องชงกาแฟ เครื่องดูดควัน เครื่องทำน้ำอุ่นระบบสัมผัส และเครื่องครัวที่เน้นดีไซน์เรียบหรู รวมถึงสินค้าสมาร์ทโฮมที่สามารถสั่งงานผ่าน Google assistant หรือ Amazon alexa อาทิ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น, หลอดไฟ, เครื่องฟอกอากาศ และอื่นๆ

ส่วนแบรนด์ แคนดี้ (Candy) ที่มุ่งเจาะผู้บริโภครุ่นใหม่ นักศึกษา วัยทำงาน เจนวายและเจนซีจะมีสินค้าโมเดลใหม่ๆ เข้าทำตลาดมากขึ้นเช่นกัน มีไฮไลต์เป็น ตู้แช่และเครื่องทำน้ำอุ่น โดยปีนี้จะขยายช่องทางจำหน่ายเข้าสู่โมเดิร์นเทรด เช่น โกลบอลเฮาส์ จากเดิมที่เน้นจำหน่ายผ่านออนไลน์

นอกจากนี้ยังเตรียมนำแบรนด์สินค้าระดับไฮเอนด์เข้ามาทำตลาดอีกด้วย คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

วาระครบรอบ 20 ปีจัดใหญ่ทั้งการตลาด-ลงทุน

พร้อมใช้วาระครบรอบ 20 ปีของการเข้ามาทำธุรกิจในไทย ทุ่มงบฯ การตลาด 850 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนถึง 200 ล้านบาท เพื่อเดินนสายผนึกร้านค้าทั่วประเทศจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายลากยาวต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจับมือ “บอย” ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 เพื่อสร้างการรับรู้ในทุกช่องทาง

รวมถึงไตรมาสที่ 3 นี้จะเปิด Haier Flagship Store ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ซึ่งมีพื้นที่กว่า 344 ตารางเมตรเพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์จริงจากผลิตภัณฑ์และบริการ

อีกทั้งเตรียมลงทุน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มกำลังผลิตของโรงงานแอร์ในไทยจากระดับแสนยูนิตต่อปีขึ้นเป็น 1.2-1.5 ล้านยูนิตต่อปี เพื่อรองรับการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและเวียดนามอีกด้วย

ลุยธุรกิจขายสินค้าเงินผ่อน

ขณะเดียวกันยังเปิดตัว “อยู่ดี” ธุรกิจจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าเงินผ่อน ซึ่งมีจุดเด่นด้านการผ่อน 0% เริ่มต้น 800 บาท โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ไม่มีการเช็คเครดิตบูโร ฟรีค่าติดตั้ง และสินค้าทุกตัวยังมีฟังก์ชั่นควบคุมการทำงานผ่านอินเตอร์เน็ต รวมถึงสามารถชำระค่างวดผ่านทางแอปฯ ได้ อย่างเป็นทางการ โดยปีนี้จะเพิ่มไลน์อัพสินค้าใหม่ๆ ทั้งเครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ จากเดิมที่มีแอร์และทีวี หลังทดลองทำตลาดด้วยการเปิดให้ผ่อนแอร์ในโครงการ Smart Sharing AC เมื่อปี 2563

ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ด้านกำลังซื้อของทั้งผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็ก อย่าง หอพัก อพาร์ทเมนต์ ร้านอาหาร ออฟฟิศ ฯลฯ ให้สามารถซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใช้งาน หรือเพิ่มมูลค่าให้กิจการโดยไม่ต้องลงทุนเงินก้อนใหญ่

โดยวางเป้าหมายยอดของธุรกิจอยู่ดีวางไว้ตั้งแต่ 2565 – 2567 โดยปี 2565 คาดว่าจะมีผู้ใช้แอปพลิเคชันแตะ 58,000 ราย สร้างรายได้ 338 ล้านบาท เติบโต 338 % จากปีก่อน ปี 2566ผู้ใช้งาน 120,000 ราย รายได้แตะ 700 ล้านบาท และปี 2567 ผู้ใช้งาน 200,000 ราย รายได้แตะ 1,200 ล้านบาท

ส่วนยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ไฮเออร์ซึ่งวางไว้ 10,000 ล้านบาทนั้น จะแบ่งเป็น

-เครื่องปรับอากาศไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขายรวม 4,337 ล้านบาท (คาดเติบโต 39%) โดยแบ่งเป็น เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ไฮเออร์ 450 ล้านบาท (คาดเติบโต 50%)

-ตู้เย็นไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 2,040 ล้านบาท (คาดเติบโต 22%)

-เครื่องซักผ้าไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 1,514 ล้านบาท (คาดเติบโต 30%)

-ตู้แช่ไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 972 ล้านบาท (คาดเติบโต 23%)

-ทีวีไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 673 ล้านบาท (คาดเติบโต 64%)

-เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 233 ล้านบาท (คาดเติบโต 31%)

-เครื่องทำน้ำอุ่นไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 298 ล้านบาท (คาดเติบโต75%)

-เครื่องครัวไฮเออร์ คาดการณ์เป้าหมายยอดขาย 66.9 ล้านบาท (คาดเติบโต 102%)

“ปีนี้ไฮเออร์ (ประเทศไทย) มุ่งผลักดันยอดขายสู่ 1 หมื่นล้านบาท โดยทิศทางธุรกิจใน 1-3 ปีข้างหน้า ยังคงมุ่งเน้น Ecosystem Brand Strategy ที่ทำให้ผู้บริโภคสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น และช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ และบริการของไฮเออร์ได้ง่ายที่สุด รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมให้เหมาะสมตามความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง” มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวทิ้งท้าย