คอลัมน์ : สามัญสำนึก ผู้เขียน : อิศรินทร์ หนูเมือง
ฉันอายุย่าง 86 ในเดือนกรกฎาคม 2565
ฉันพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ให้เรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน หรือการแต่งตัว รูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันไม่เปลี่ยนมานานหลายสิบปี
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เริ่มจากตื่นนอนตอนตี 4 ดูข่าวจากทีวี ดูข่าวสารผ่านแอปไลน์บนโทรศัพท์มือถือ เพื่อติดตามเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จากนั้นจะเดินเล่นรอบบ้านให้ได้ประมาณ 2,000-5,000 ก้าวต่อวัน
กินอาหารเพียงวันละมื้อเท่านั้น คือ อาหารมื้อเช้า ตอนราว 7 โมง ไม่ใช่เพราะหมอสั่ง เริ่มทำเองเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เพราะความดันในเลือดสูงและมีอาการเบาหวาน ถ้ากินอาหาร 3 มื้อต่อวันตัวเลขความดันและน้ำตาลจะเพิ่มขึ้นมาก เมื่อลดมื้ออาหารปริมาณการใช้ยาก็ลดลง
แต่ก็ยังมียา-อาหารเสริม ที่ต้องกินวันละราว 20 เม็ด
ในช่วงแรกที่กินอาหารวันละมื้อ เขาบอกว่ารู้สึกหิวจนทนไม่ได้ แต่ไม่นานก็ชินไปเอง ลดการกินยารักษาโรคต่าง ๆ ไปโดยปริยาย
วันหยุดประจำสัปดาห์ จะนัดเล่นกอล์ฟกับเพื่อน ๆ ที่สนิท เดินไปรอบ ๆ สนาม 9 หลุม ช่วงบ่ายทานอาหารร่วมกับคนในครอบครัว
ความสุขที่สุดของ “เจ้าสัว 8888” คือ การได้เห็นการเติบโตของหลาน 12 คน
เหล่านี้คือไลฟ์สไตล์ของ เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ราชาสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจัย 4 และปัจจัย 5 ของมนุษย์ แห่งเครือสหพัฒน์
เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ไขรหัสตัวเลข 8888 ที่เป็นความลับของชีวิต ด้วยเสียงที่แจ่มใส ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดเวลาที่สนทนากับผู้เขียน เมื่อช่วงสายของสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “ฉันขีดเส้นอายุขัยในปฏิทินไว้ว่า วันที่อายุ 88 ปี 8 เดือน 8 วัน ฉันจะก้าวสู่การเกษียณจากการทำงานด้วยความภาคภูมิ”
ตัวเลขอายุขัยชีวิตที่ เจ้าสัวบุณยสิทธิ์ ขีดเส้นไว้วันสุดท้ายคือ 8888
เจ้าสัวบุณยสิทธิ์เล่าว่า ตอนฉันอายุ 80 ปี ในปี 2560 ฉันได้ถอนตัวออกจากตำแหน่งในทุกบริษัท ที่เหลืออยู่มีเพียงตำแหน่งประธานของเครือสหพัฒน์ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียว-ตำแหน่งเฉพาะ ที่ไม่มีผลทางกฎหมาย
การงานแห่งชีวิต จะมีตามวาระ อาทิ เมื่อมีนัดหมายประชุมหรือมีแขกนัดมาเยี่ยมพบเจอ จะเดินจากบ้าน ข้ามไปที่สำนักงานใหญ่ บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ย่านถนนสาธุประดิษฐ์ ที่อยู่ใกล้บ้านมาก ๆ
“ฉันจะโผล่หน้าไปที่สำนักงานใหญ่ของสหพัฒนพิบูล ย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่ สัปดาห์ละครั้งหรือสองครั้ง เดินทางไปสวนอุตสาหกรรมที่อำเภอศรีราชาสัปดาห์ละครั้ง”
“อยากให้เครือสหพัฒน์มีความมั่นคงมากกว่าความยิ่งใหญ่ ภายใต้การบริหารของลูกหลาน ‘โชควัฒนา’ รุ่น 2 และรุ่น 3 ด้วยหลักความซื่อสัตย์ สืบทอดต่อรุ่นถัดไป”
“ลูก ๆ ของฉันได้เข้ามารับผิดชอบกิจการในรุ่นต่อไป อาทิ ธรรมรัตน์ โชควัฒนา ลูกชายคนโตของฉัน เขาจะเป็นหัวเรือใหญ่ในการบริหารจัดการแล้ว เขาเป็นคนพูดน้อย ถนัดการตั้งรับ เติบโตมากับธุรกิจสิ่งทอ เป็นกรรมการผู้อำนวยการของบริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)”
ลูกสาวคนโต ธีรดา อำพันวงษ์ (โชควัฒนา) เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทเครื่องสำอาง คือ บริษัท โอซีซี จำกัด (มหาชน) มีวิธีการบริหารที่รัดกุม
วิชัย กุลสมภพ สามีของลูกสาวคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI คือ เขามีบุคลิกที่สดใสและประสบความสำเร็จในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทร่วมทุนจากญี่ปุ่น
ลูกชายคนที่ 2 ของบุณย์เอก พี่ชายคนโตของฉันชื่อ เวทิต โชควัฒนา เรียนจบจากสหรัฐอเมริกา และสร้างผลงานในฐานะกรรมการผู้อำนวยการของบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ที่เป็นกิจการรากเหง้าของเรา
พิภพ โชควัฒนา ซึ่งเป็นลูกชายคนที่ 2 ของพี่ชายคนที่ 2 บุญปกรณ์ โชควัฒนา เขาเป็นคนกว้างขวางในการติดต่อกับหน่วยงานราชการ เป็นกรรมการบริษัท SPI คอยช่วยเหลือวิชัย กุลสมภพ ที่เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่
“เครือสหพัฒน์ในอนาคตอาจไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งประธานเครือที่ฉันเป็นอยู่ก็ได้ ฉันยังไม่จำเป็นต้องเสนอชื่อใคร ค่อย ๆ ฟังเสียงของพนักงานว่าผู้บริหารจากตระกูลโชควัฒนา รุ่นที่ 3 ใครทำได้ดีที่สุด แล้วหลังจากที่ฉันจากไปค่อยให้ทุกคนตัดสินใจก็ได้”
ถ้าถามว่าคุณสมบัติที่จำเป็นในการเป็นผู้นำของเครือสหพัฒน์คืออะไร คำตอบเจ้าสัว คือ “ความซื่อสัตย์ และที่พ่อสั่งสอนเสมอว่า ความจริงใจ และความเชื่อใจต้องมาก่อน และมีคำ 4 คำภาษาจีน คือ แหม่ หมั่ง คิง ตั่ง แปลเป็นไทยคือ เร็ว ช้า เบา หนัก ฉันเองก็พยายามทำเช่นเดียวกัน”
“เวลาที่ฉันนึกภาพเครือสหพัฒน์ในอีก 50 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้า ฉันอยากให้เราเป็นบริษัทที่มั่นคง ยั่งยืน มากกว่าเป็นบริษัทใหญ่”
เครือสหพัฒน์มี 300 บริษัท ต่อจากนี้ไป จะไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 500 หรือ 1,000 บริษัท แต่จะถูกรวมเข้าด้วยกันเหลือ 200 หรือ 100 บริษัทเท่านั้น
น่าจับตาว่า ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ที่จะจัดขึ้น 30 มิถุนายน 2565-3 กรกฎาคม 2565 เพื่อระลึกถึงนายห้างเทียม โชควัฒนา เจ้าสัวบุณยสิทธิ์-เครือสหพัฒน์ จะเปิดตัวพันธมิตรธุรกิจใหญ่-กับใครอีกครั้ง
