ส.อ.ท. โชว์ยอด “อีวี” เดือนสิงหาคม โตเฉียด 400%

ยอดจดทะเบียนอีวี

ผลิตรถในประเทศ 8 เดือน ทะลุ 1.18 แสนคัน โตเพิ่ม 10% เผยยังต้องจับตาชิปขาดต่อเนื่อง ปลื้ม “อีวี” หลังได้รับมาตรการส่งเสริมจากรัฐโตพรวด 391%

วันที่ 22 กันยายน 2565 นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยยอดผลิตรถยนต์ในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 1,184,800 คัน เพิ่มขึ้น 10.53% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 355,673 คัน รถยนต์โดยสารมากกว่า 10 ตัน 2 คัน รถกระบะ 1 ตัน 801,847 คัน และรถบรรทุก 5-10 ตัน 27,278 คัน ส่วนรถจักรยานยนต์ 8 เดือนผลิตได้ทั้งสิ้น 1,701,704 คัน โต 12.49% แบ่งเป็นการผลิตทั้งคัน (CBU) 1,277,332 คัน และชิ้นส่วนประกอบ (CKD) 424,408 คัน

“ขณะที่ยอดส่งออกทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 8 เดือนที่ผ่านมามีมูลค่า 600,626.60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.96%”

ส่วนยอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้า (ป้ายแดง) พบว่า 8 เดือนที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 4,765 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 4,792 คัน รถกระบะ 15 คัน รถจักรยานยนต์ 6,010 คัน รถสามล้อ 152 คัน รถโดยสาร 101 คัน รถบรรทุก 18 คัน

สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์

เฉพาะเดือนสิงหาคมมียอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า 2,304 คัน โต 391.26% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 1,185 คัน รถกระบะ 4 คัน รถจักรยานยนต์ 1,047 คัน รถสามล้อ 16 คัน รถโดยสาร 52 คัน รถบรรทุก 3 คัน

“ปัจจัยที่ทำให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโต มาจากมาตรการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินใจซื้อ”

นายสุรพงษ์กล่าวถึงสถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมนั้น ยังต้องจับตาปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อตลาดรถยนต์ ทั้งการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่จากค่ายรถยนต์ต่าง ๆ สถานการณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่อาจจะเป็นข่าวดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาจะเห็นว่าในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น ไอทีและไฟฟ้ามีปริมาณการผลิตรถยนต์ ก็มีความเป็นไปได้ว่าบริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์อาจจะมีการจัดสรรปันส่วนการผลิตมาเพื่อตอบสนองความต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

“เรื่องชิปยังต้องดูความตึงเครียดต่าง ๆ ของรัสเซีย-ยูเครน และไต้หวัน อัตราดอกเบี้ยที่อาจจะฉุดกำลังซื้อของผู้บริโภคได้ แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่ายอดผลิตรถยนต์จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือ 1.75 ล้านคัน แบ่งเป็นในประเทศ 850,000 คัน และส่งออก 900,000 คัน”