Chery เผยแบรนด์ใหม่ OMODA&JAECOO มีเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าขายทั่วโลก 1.4 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2573
วันที่ 23 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเปิดตัวแบรนด์ OMODA 5 EV ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในงานเซียงไฮ้ ออโต โขว์ 2023 (Auto Shanghai 2023) Chery Group ได้จัดงาน “O&J Global Brand Launch Conference” เพื่อเปิดตัว “OMODA&JAECOO” (O&J) แบรนด์ใหม่อย่างเป็นทางการภายใต้อาณาจักรใหญ่ ที่เมืองหวู่หู (Wuhu) มณฑลอานฮุย ประเทศจีน ซึ่งเป็นฐานการผลิตใหญ่ของ Chery เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนจำหน่าย สื่อมวลช และพันธมิตรจาก 67 ประเทศทั่วโลกร่วมงาน นอกจากเปิดตัว OMODA 5 EV และ JAECOO 7 ในงานแล้ว ยังมีการนำเสนอเทคโนโลยีพลังงานใหม่ของ O&J ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ใช้ในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและคาร์บอนต่ำ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
Mr. Zhang Guibing ผู้จัดการทั่วไปของ Chery International กล่าวว่า ปัจจุบันการพัฒนายานยนต์ทั่วโลกได้เข้าสู่โอกาสครั้งใหม่ในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นยุคแห่งความก้าวหน้าอย่างเต็มรูปแบบสู่ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายว่าแบรนด์ใหม่นี้จะทำยอดขายทั่วโลกได้ถึง 1,400,000 คันต่อปีภายในปี 2573 ซึ่งอยู่ในอันดับต้น ๆ ของยานยนต์อัจฉริยะส่วนบุคคลทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น Chery มั่นใจว่า จะชนะใจผู้ใช้ด้วยพลังแห่งการปรับแต่งเฉพาะตัวและสไตล์ที่สวยงาม เพื่อนำระบบนิเวศยานยนต์ใหม่มาสู่ผู้ใช้ทั่วโลก
Chery ได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ New Elites และ New Lohas (การใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม) ซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ OMODA&JAECOO ถือกำเนิดขึ้นโดยมุ่งตอบสนองความต้องการของผู้ใช้กลุ่มต่าง ๆ โดย OMODA5 EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของแบรนด์มุ่งตอบโจทย์ชีวิตกลุ่มเป้าหมายชนชั้นกลางรุ่นใหม่ในเมือง ที่ติดตามแฟชั่น เทรนด์ ความเป็นอิสระและหวงความเป็นส่วนตัว ตลอดจนมีความคิดสร้างสรรค์ที่เต็มเปี่ยม
ด้วยความพยายามมอบประสบการณ์การเดินทางที่เป็นส่วนตัว ไดนามิก เทคโนโลยี และความทันสมัยแก่ผู้ใช้ผ่านการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ทำให้ไตรมาสแรกของปี 2566 OMODA รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายในมียอดขายถึง 13,000 คันในทางกลับกัน JAECOO ที่เป็น SUV ออฟโรดในเมืองก็พร้อมส่งมอบประสบการณ์ในการขับขี่เหนือระดับ ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับชนชั้นสูง ด้วยสไตล์ที่ไม่ธรรมดา และตอบสนองความต้องการเดินทางของผู้ใช้อย่างเต็มที่ผ่านความหรูหราสะดวกสบาย
ที่สำคัญทั้ง 2 แบรนด์ ได้สร้าง 15 เทคโนโลยีหลักและ 7 รถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างห่วงโซ่นวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับโลกาภิวัตน์และเทรนด์การใช้รถยุคใหม่
