เกมเชนจ์ “วอลโว่” ปีหน้าจะขายแต่รถ EV

คอลัมน์ : สัมภาษณ์

หลังจากประกาศความชัดเจนถึงเป้าหมายและความมุ่งมั่นของวอลโว่ประเทศไทย ว่าภายในปี 2025 จะขายแต่รถอีวี

ถือเป็นความท้าทาย ทั้งยังเป็นแผนงานที่เร็วกว่าบริษัทแม่ถึง 5 ปี

อะไรคือความมั่นใจที่วอลโว่เดินเข้าไปใกล้เป้าหมายดังกล่าว วันนี้นายใหญ่ “คริส เวลส์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด จะมาฉายภาพความท้าทาย

Q : ความสำเร็จในปีที่ผ่านมา

หากมองในเเง่ของยอดขายจะเห็นว่ามีการเติบโตถึง 24% หรือมียอดขายมากกว่า 4,000 คัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของวอลโว่ประเทศไทย

ปีที่แล้วยอดขายรถยนต์โดยรวมลดลง แต่สำหรับวอลโว่เรามีการเติบโต และถือว่าเป็นผลงานที่ดีมาก

สำหรับยอดขายในปีที่ผ่านมานั้น แบ่งเป็นรถอีวี 56% และรถปลั๊ก-อินไฮบริด 44%

เราพอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับการทำตลาดในไทย ปี 2566 เราโต 24% ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดขึ้นบนตลาดที่ท้าทาย หากย้อนไปในปี 2559 วอลโว่มียอดขายแค่หลักร้อยเท่านั้น

ส่วนสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของวอลโว่ในปีนี้จะเพิ่มเป็นมากกว่า 80%

Q : วอลโว่เน้นการเติบโตแบบยั่งยืน

แน่นอนเราจริงจัง วอลโว่เน้นการทำตลาดและการเติบโตแบบยั่งยืน อย่างรถยนต์

EX30 ถือเป็นพันธกิจของเรา ที่อยากจะใช้วัสดุที่รีไซเคิลให้ได้ 30% ในรถอีวีของเรา

ผมอยากบอกว่าทุกคนสร้างรถอีวีได้ แต่จะสร้างอย่างไรให้ตอบโจทย์ในเรื่องของความยั่งยืนทั้งระบบ “วอลโว่” ทำได้

สำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้า วอลโว่ประกาศภายในปี 2568 วอลโว่ประเทศไทยจะขายแต่รถยนต์ไฟฟ้า 100% เท่านั้น และสิ่งที่เราประกาศไปถือว่าประสบความสำเร็จมาก ๆ และเร็วกว่าบริษัทแม่ถึง 5 ปี

เพื่อตอบโจทย์ เราได้ส่งรถอีวี เข้ามา C40 และ XC40 เพื่อเติมเต็มตลาดด้วยตัวมอเตอร์เดี่ยว และเดือนกันยายนเปิด EX30 อีกรุ่น จะเริ่มทยอยส่งมอบได้ภายในไตรมาสแรกของปี 2566

Q : แผนขับเคลื่อนเพื่อไปสู่ความยั่งยืน

ปีหน้าจะใช้พลังงานทางเลือก 100% ในการบริหารจัดการ และมีการใช้รถโมบายเซอร์วิส 100% ที่จะลดไอเสียให้ได้ และตรงนี้จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น และกลายเป็นเกมเชนเจอร์สำคัญ เนื่องจากส่วนใหญ่รถอีวีต้องรอให้ลูกค้าเข้ามาหา แต่สำหรับวอลโว่จะวิ่งออกไปหา ไปให้บริการลูกค้า ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกนี้เราอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมและทดลอง “โมบายเซอร์วิส” และคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในครึ่งปีหลัง และจะทยอยให้บริการที่ดีลเลอร์ต่าง ๆ ครบทุกแห่งทั่วประเทศ

Q : เป้าหมายในปีนี้

ปีนี้เราตั้งเป้าการเติบโตไว้ในระดับเดียวกัน คือ 24% จากปี 2566

Q : แผนขับเคลื่อนพลังงานอย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมลงทุนคลังสินค้า Volvo Car Thailand Central Distribution & Training Center ที่บางนา-ตราด เพื่อใช้พลังงานไฟฟ้า 100% จากโครงการติดตั้งหลังคาโซลาร์ และมีการลงทุนศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์แห่งที่ 3 เพื่อกระจายความหนาแน่นในการให้บริการกับลูกค้า

และที่เป็นอีกหนึ่งโครงการสำคัญคือ วอลโว่เตรียมลงทุนมูลค่ากว่าร้อยล้านบาท สำหรับทำโรงงานรีไซเคิลแบตเตอรี่สำหรับภูมิภาคด้วย

โดยศูนย์ซ่อมแบตเตอรี่แห่งนี้จะเป็นแห่งที่ 4 ของวอลโว่ จากปัจจุบันมี 3 แห่งกระจายอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

Q : มองนโยบายภาครัฐเรื่อง EV อย่างไรบ้าง

สำหรับมาตรการอีวี 3.5 ของรัฐบาลไทยนั้น ต้องบอกว่าเหมาะสำหรับคนที่มีโรงงานประกอบในไทย ซึ่งวอลโว่ไม่มีตรงนี้

แต่อุตสาหกรรมยานยนต์อีวีถูกขับเคลื่อนโดยผู้บริโภค เราเองค่อนข้างประหลาดใจกับตัวเลขยอดขายในช่วง 2-3 ปี

แต่สำหรับวันนี้ เราอยากให้หันมามองสถานีชาร์จที่มี 2,200 แห่งในปัจจุบัน ว่าเพียงพอไหม และโดยหลัก ๆ จะเป็นการลงทุนโดยเอกชน ไม่ใช่รัฐ

ดังนั้น วอลโว่มองว่าตรงนี้ควรให้ภาครัฐเข้ามาช่วยขับเคลื่อนเช่นเดียวกัน

ตอนนี้หลายคนออกมาพูดว่า ซื้อรถแล้วผลิต แต่ไม่มีใครมองว่าแบตเตอรี่ในอนาคตที่จะเสื่อมสภาพไป กลับไม่มีใครพูดถึง วอลโว่เรามองตรงนี้ และเราต้องมองไปอนาคตเพื่อความยั่งยืน