กรณ์ เอาใจมนุษย์เงินเดือน ชูนโยบายรายได้ต่ำ 4 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี

กรณ์ จาติกวณิช
ภาพจากพรรคชาติพัฒนากล้า - ChartpattanaKLA Party

กรณ์ เอาใจ มนุษย์เงินเดือน 4 ล้านคน ชูนโยบายเงินเดือนไม่ถึง 4 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษี 2 ล้านคน ชี้รัฐสามารถเจียดรายได้จากการท่องเที่ยว 3 แสนล้านบาท กลับมาช่วยหมุนเศรษฐกิจอีกรอบได้ จ่อโชว์กึ๋นแถลงนโยบายชุดใหญ่ หาเงิน-สร้างรายได้ใหม่เข้ารัฐ 5 ล้านล้านบาท ภายใน 5 ปี

วันที่ 21 มกราคม 2566 ที่พรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงนโยบายเศรษฐกิจลำดับที่ 2 “ภาษีบุคคล-มนุษย์เงินเดือน” และเตรียมเปิดตัวนโยบายชุดอื่นๆ

นายกรณ์แถลงว่า พรรคชาติพัฒนากล้าพูดมาแต่แรก ช่วงนี้ที่สำคัญที่สุดในเชิงนโยบาย คือ เรื่องปากท้องและเศรษฐกิจ ถ้าประชาชนท้องอิ่ม เศรษฐกิจดี เราจะแก้ปัญหาอื่น ๆ เช่น สังคม กำหนดทิศทางอนาคตประเทศได้

โดยเฉพาะหลังช่วงโควิด-19 กลุ่มที่แบกรับภาระภาษีเต็ม ๆ มายาวนานที่สุด เป็นกลุ่มที่ถูกมองข้ามทางการเมืองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจครั้งไหน ไม่เคยมีเสียงดังพอที่จะเรียกร้องความช่วยเหลือจากภาครัฐได้ คือ กลุ่มมนุษย์เงินเดือน กลุ่มฟรีแลนซ์ กลุ่มที่มีรายได้ประจำ

“ดังนั้นข้อเสนอของพรรคชาติพัฒนากล้าให้กับมนุษย์เงินเดือน คนทำงาน คือ รายได้เงินเดือน 40,000 บาทแรก ไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งวันนี้มีประชาชนที่เสียภาษีรายได้บุคคลประมาณ 4 ล้านกว่าชีวิต แบกรับภาระภาษีเต็ม ๆ มาโดยตลอด”นายกรณ์กล่าว

นโยบาย ชาติพัฒนากล้า

นายกรณ์กล่าววว่า ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่ได้รับการลดภาษีนิติบุคคล จาก 30 % เหลือ 20 % ยาวนานมากว่า 10 ปีแล้ว แต่มนุษย์เงินเดือนไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ ถึงเวลาแล้ว จากเดิมต่ำกว่า 26,000 บาทไม่ต้องเสียภาษี ไม่ได้เปลี่ยนมายาวนาน แต่ค่าครองชีพสูงขึ้น ดังนั้น เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เราจะให้ความช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำที่มีรายได้ประจำ คือ มนุษย์เงินเดือน

และ เหตุผลที่สอง รายได้ของรัฐฟื้นตัว ในการจัดทำงบประมาณปี 2567 ประมาณการว่า รายได้ของรัฐจะเพิ่มเงินเกือบ 3 แสนล้านบาท จากแนวโน้มรายได้เพิ่มขึ้นจากภาคท่องเที่ยวมากขึ้น เจียดบางส่วนมาลดภาระให้กับมนุษย์เงินเดือน 4 ล้านชีวิต เมื่อมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น เงินกลับมาหมุนเศรษฐกิจแน่นอน และส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวม กลับมาเป็นรายได้ของรัฐในรูปภาษีมูลค่าเพิ่ม

ยกเว้นภาษี คนเงินเดือนต่ำ 4 หมื่นบาท รัฐสูญรายได้ไม่ถึง 5%

นายกรณ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ได้รับอานิสงส์จากนโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดา 4 ล้านคน โดยที่ 2 ล้านคนที่มีรายได้ต่ำกว่า 4 หมื่นบาท ไม่ต้องเสียภาษีเลย เป็นสัดส่วนรายได้ของรัฐไม่ถึง 5 % ของรายได้รวม หรือ 6,000 กว่าล้านบาทเท่านั้น รายได้ยิ่งต่ำจะมีสัดส่วนการลดภาษีที่สูงกว่า ยิ่งมีรายได้สูงก็ยังได้ประโยชน์จากรายได้นี้ แต่สัดส่วนการลดภาษีลดลงเป็นขั้นบันได

นายอรรถวิชช์กล่าวเสริมว่า สำหรับคนที่มีรายได้เกิน 4 หมื่นบาท ส่วนที่เกินเสียภาษีเป็นขั้นบันไดเดิม ซึ่งขั้นแรกรายได้ 0 บาท ถึง 150,000 บาท ไม่เสียภาษี (0 %) ขั้นที่สอง 150,001 บาท ถึง 300,000 บาท เสียภาษี 5 % ซึ่งขั้นที่สองนี้จะภาษีจะลดลงเหลือ 0 % หรือ ไม่ต้องเสียภาษี โดยออกเป็นกฎหมายระดับพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ถ้าพรรคชาติพัฒนากล้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาลออกกฎหมายและใช้กับการเสียภาษีในปีแรกได้เลย

นายกรณ์กล่าวว่า ปัญหนี้สิน หนี้ครัวเรือน หนี้สินของประชาชน ข้อเสนอการปฏิรูประบบสินเชื่อด้วยการรื้อระบบแบล็กลิสต์บูโร เรามั่นใจว่า ถ้าเรามีโอกาส เราทำได้แน่นอน ประชาชนทุกคนสามารถกู้ยืมในระบบการเงินได้ อัตราดอกเบี้ยต่างกันตามระดับความน่าเชื่อถือทางเครดิตของประชาชนแต่ละคน เป้าหมายสำคัญของการยกเลิกระบบแบล็กลิสตต์เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสกู้เงินในระบบการเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 24 มกราคม 2566 เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ พรรคชาติพัฒนากล้า เตรียมนำเสนอนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง โดย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค จะนำทีม พร้อมด้วยนายกรณ์

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ในวันนั้น นายกรณ์จะอธิบายว่ารายได้จะมาจากไหน ทำอย่างไรที่ประเทศจะมีรายได้ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านล้าบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี

กรณ์ อรรถวิชช์

ชาติพัฒนากล้า ภาษี