พลิกโพลลับเพื่อไทย การันตี 240 ส.ส. สูงสุด 280 ยังไม่ถึง 310 เสียง
วันที่ 15 เมษายน 2566 นับถอยหลัง 30 วันสุดท้ายก่อนถึงศึกเลือกตั้งใหญ่ 14 พฤษภาคม 2566 พรรคเพื่อไทย ที่มี แพทองธาร ชินวัตร เศรษฐา ทวีสิน และ ชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ยังคงมีคะแนนนำอันดับหนึ่ง แทบจะทุกโพลสำรวจคะแนนนิยม เมื่อเช็คผลโพลจากสำนักโพลใหญ่ๆ ซึ่งวัดคะแนนนิยมทั่วประเทศ ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคม ถึง กลางเดือนเมษายน
- วิธีลงทะเบียนแอป ทางรัฐ ยืนยันตัวตน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
- เปิด 20 อันดับโรงพยาบาลดีที่สุดในไทย ปี 2567
- ลุยตรวจย่านดัง กรุงเทพ-ปริมณฑล เอาผิดต่างชาติแย่งงานคนไทย
พรรคเพื่อไทย ยังครองหัวตาราง ตัวอย่างเช่น ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 1” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 2-8 มีนาคม 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับศึกเลือกตั้ง 2566
พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 49.75 ระบุว่าเลือกพรรคเพื่อไทย อันดับ 2 ร้อยละ 17.40 ระบุว่าเป็น พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 11.75 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 4 ร้อยละ 5.40 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 2.95 ระบุว่าเป็น
พรรคไทยสร้างไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.70 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 7 ร้อยละ 2.60 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย อันดับ 8 ร้อยละ 2.35 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.15 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ และร้อยละ 2.95 ระบุอื่นๆ
ขณะที่ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเฉพาะผู้ที่มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ กรณี “คนไทยนิยมพรรคการเมืองใด” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 10,614 คน (สำรวจทางภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-17 มีนาคม 2566 ก่อนที่จะประกาศยุบสภา พบว่า พรรคที่คนไทยนิยมเป็นอันดับ 1 คือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 46.16 รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล ร้อยละ 15.43 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 11.12 พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 8.73 และพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 7.71
แต่ ซูเปอร์โพล ที่เปิดเผยผลโพลล่าสุดเมื่อ 14 เมษายน เป็นการทำ โพลเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ 3:ข้อมูลใหม่แลนด์สไลด์ ? พบว่า
พรรคเพื่อไทย ชนะเลือกตั้งแต่ไม่แลนด์สไลด์ โดยกรณีศึกษาประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 400 เขต เลือกตั้ง พบว่า พรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มากที่สุด 133 ที่นั่งหรือร้อยละ 33.3 ของจำนวนที่นั่ง ส.ส.เขตเลือกตั้ง 400 ที่นั่ง และคาดว่าจะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 27 ที่นั่ง รวมทั้งสิ้น พรรคเพื่อไทยจะได้ 160 ที่นั่งโดยมีค่าต่ำสุดที่ 135 ที่นั่งและค่าสูงสุดอยู่ที่ 185 ที่นั่ง
สวนทางกับวาทกรรม 310 ที่นั่ง ที่พรรคเพื่อไทยพยายามสร้างกระแสให้ไปถึงเป้าหมาย เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ ที่ขุนพลห้องแอร์ ตั้งนิยามว่า “การเมืองคือทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้” แลนด์สไลด์ 310 เสียง จึงมาด้วยเหตุนี้
แต่ในโพลสำรวจของพรรคเพื่อไทย ที่ระดับแกนนำพรรคที่เข้าออกศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เล่าให้ฟัง ขณะนี้โพลของพรรคเพื่อไทย ประเมินไว้หลายระดับ 240 260 สูงสุด 280 ที่นั่ง ยังไม่ถึง 310 เสียง แต่เชื่อว่า ถ้ากระแสดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาท ถูกปั่นให้ดัง ฮอท ฮิต ติดหู ให้คนมีความหวัง 310 เสียง ก็อาจมีความเป็นไปได้
ด้านแหล่งข่าวอีกราย บอกว่า ขณะนี้ โพลพรรคจะได้ ส.ส.ประมาณ 240 ที่นั่ง แบ่งเป็น ส.ส.เขตราวๆ 210 ที่นั่ง ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก 30-40 ที่นั่ง แต่เชื่อว่าคะแนนนิยมในพรรคเพื่อไทยจะเพิ่มมากขึ้นไปอีก เมื่อใกล้ถึงวันเลือกตั้ง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยทำโพลอีกหนึ่งโพล คือสำรวจคะแนนนิยมของพรรคเป็นรายจังหวัด และความนิยมของแคนดิเดตนายกฯ ผลปรากฏว่า คะแนนนิยมพุ่งโดยเฉพาะภาคอีสาน
จากการประเมินดังกล่าว คาดว่า พรรคเพื่อไทยจะได้ ส.ส.เขตในอีสาน และเหนือ 130 ที่นั่ง น่าจะได้ไม่ยาก ภาคกลางบวกภาคตะวันออกอีก 50 ที่นั่ง ภาคใต้พรรคเพื่อไทย หวังสูงถึง 5 ที่นั่ง เพราะเป็นพื้นที่ที่ตัดแต้มกันหลายพรรค สุดท้ายพรรคเพื่อไทยอาจได้ส้มหล่นในบางเขต
ที่เหลือพรรคเพื่อไทยชิงพื้นที่กลุ่มสะวิงโหวต ประมาณ 20 ล้านเสียง
ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนถึงพรรคเพื่อไทย เป็นต้นตำรับในการทำโพลการเมือง และไม่ค่อยพลาดเป้า
