เพื่อไทยคิกออฟนโยบายการศึกษา ลดเวลาเรียน จบปริญญาตรีอายุ 18 ปี

เพื่อไทย คิกออฟนโยบายการศึกษา

เพื่อไทยเปิดนโยบายการศึกษา สร้างระบบเรียนรู้ดิจิทัลแบบครบวงจร ลดเวลาเรียน สามารถจบปริญญาตรีตั้งแต่อายุ 18 สร้างเงิน-รายได้เลี้ยงครอบครัวให้เร็วที่สุด

วันที่ 21 เมษายน 2566 ที่ห้องประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พรรคเพื่อไทย เปิดนโยบายการศึกษา ในหัวข้อ “ตัวตึงถาม เพื่อไทยตอบเรื่องการศึกษา : ตอน ถึงจะเรียนอยู่ ก็หาตังค์ได้นะ รู้ยัง” นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม.

นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์, นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย, นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์, นางสาวลีลาวดี วัชโรบล, นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ 3 ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นายชานันท์ ยอดหงส์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โดยมีคณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และนิสิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมรับฟังนโยบาย

นางสาวณหทัยกล่าวว่า ขอบคุณทางคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ที่เปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองเข้ามานำเสนอนโยบาย พรรคเพื่อไทยจึงขอนำนโยบายสร้างระบบการเรียนรู้ดิจิทัลแบบครบวงจร “แพลตฟอร์ม Learn to Earn” เพื่อขจัดปัญหาการเรียนรู้ อยากให้ทุกคนเรียนไปทำงานไป สร้างรายได้ใหม่ให้เกิดขึ้นได้จริง

โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มการเรียนที่เกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ รวมถึงที่เกาหลีใต้ ที่เป็นแพลตฟอร์ม Life Long Learning ซึ่งนโยบายนี้ไม่ขายฝัน และการที่มีแพลตฟอร์มนี้ จะทำให้ 1.ลดความเหลื่อมล้ำ ใครอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน เนื้อหาหลากหลายทันสมัย เรียนสนุก

Advertisment

2.ขจัดปัญหาคนตกงานจะต้องหมดไป เพราะงานจะวิ่งเข้าผู้เรียน ผู้เรียนเห็นงานเห็นอาชีพ เห็นรายได้ตอบแทนตั้งแต่ก่อนเรียน ระบบยังออกแบบช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด เพราะบางงานผู้จ้างงานไม่สนวุฒิ สนแค่เราทำงานได้หรือไม่มากกว่า

นางสาวณหทัยยังกล่าวอีกว่า 3.ระบบยังมีตัวช่วยทดสอบสมรรถนะของผู้เรียน เพื่อเข้ากับเรื่องที่เรียนและหางานที่เหมาะสมกับสมรรถนะ เราจะไม่เอาลิงไปว่ายน้ำ เอาปลามาปีนต้นไม้ ยิ่งค้นหาตัวเองเจอไว้เท่าไร ยิ่งฉายแววศักยภาพได้ไวขึ้น

4.ออกแบบการเรียนเองได้ ตั้งแต่เวลาเรียน ถ้าขยันก็สามารถจบไว แข่งกับตัวเอง หรือถ้าเรียนไปทำงานไปก็ค่อย ๆ สะสมหน่วยกิต ไปเรื่อย ๆ ได้ เทียบโอน หรือย้ายสาขาวิชาเรียนได้หากไม่ชอบ หมดยุคของเรียนจนจบแล้วเพิ่งค้นพบตัวเองว่าไม่ชอบแต่ต้องทนเรียน

5.สร้างรายได้ใหม่ รายได้เสริม หรือเปลี่ยนอาชีพ ถ้ารู้สึกเบื่องานที่ทำอยู่ หรือเงินเดือนไม่เพียงพอ ผู้เรียนสามารถเข้ามาเรียนเพิ่มเพื่อหางานใหม่ หรือรับงานเสริมหลังเรียนเสร็จได้เลย

Advertisment

“ต้องขอบคุณคณะวิศวะ จุฬาฯ ที่เปิดหลักสูตร Life Long Learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเปิดโอกาสให้ยืนหยุ่นการเรียน และเก็บสะสมหน่วยกิต โดยไม่มีวันหมดอายุ พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้เกิดธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ที่ไม่ได้เชื่อมแค่มหาวิทยาลัย แต่เชื่อมไปยังระดับการศึกษามัธยมปลาย น้องคนไหนอยากเริ่มเรียนเก็บหน่วยกิตก็สามารถทำได้เลย โดยหน่วยกิตจะถูกเก็บไว้บน Cloud และไม่มีวันหมดอายุ และพรรคเพื่อไทยจะให้ทางเลือกใหม่ในการศึกษา ที่ให้น้อง ๆ ทุกคนออกแบบด้วยตัวเองค่ะ”

ด้าน น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย เราจะเริ่มตั้งแต่ก่อนการเรียนรู้ จนถึงประถม มัธยม และอุดมศึกษา ซึ่งอายุ 18 ปี เด็กอายุ 18 ปีสามารถเรียนจบปริญญาตรีได้ ข้อแรก ลดเรื่องของเวลาได้ ถ้าเราเดินช้าจะถดถอยกว่าคนอื่น 5 ปีแรกในระดับประถมศึกษา เราจะใช้ระบบการเรียนรู้ของเด็กให้มีประสิทธิภาพ ลดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป

เอาเวลาเรียนจากเดิมทั้งประถมและมัธยม จากเดิมรวม 12 ปี เหลือเพียง 10 ปี และ+ปริญญาตรี ที่แต่เดิมเรียนจบต้องใช้เวลาถึง 4 ปี โดยเราจะลดเวลาเหลือเพียง 3 ปี ตามหลักสูตรที่รัฐกำหนด เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวโดยเร็วที่สุด ถ้าทุกคนเริ่มได้เร็ว ถ้าค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้น โอกาสได้ทำในสิ่งที่รักและได้เงินด้วย มีคอร์สต่าง ๆ ที่ยกระดับศักยภาพของตัวเองได้ด้วย ซึ่งเราต้องยกระดับการศึกษาครั้งใหญ่ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่พูด ๆ แต่ไม่ได้ทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เพื่อไทยคิดใหม่ คิดใหญ่ และคิดไกล

นายดนุพรกล่าวว่า เราไม่ได้บังคับให้จบปริญญาตรีอายุ 18 แต่จบปริญญาตรีอายุ 12 ก็ทำได้ เหมือนสมัยก่อนที่มีการสอบเทียบ ถ้าใครอยากจบพร้อมกับคนอื่นก็เรียนตามหลักสูตรปกติได้ แต่ถ้าสอบเทียบก็สามารถสอบเอนทรานซ์ได้มากกว่าคนอื่น เราสามารถออกแบบการเรียนของเราได้ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยมีนโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารจากการบังคับ ให้เป็นไปโดยสมัครใจทันที

ขณะที่นายเผ่าภูมิกล่าวว่า รายได้ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการศึกษา พรรคเพื่อไทยได้เสนอเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 2 ขยัก ดูแลค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเจาะไปยังรายได้ของคนจบปริญญาตรี เงินเดือน 2.5 หมื่นบาท เราจะยกระดับรายได้จากภาครัฐและเอกชนไปพร้อมก้น ค่าแรงทั้งสองตัวจะค่อย ๆ ขึ้นจากสภาพเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ จีดีพีในอนาคต ขณะเดียวกัน เราเพิ่มทักษะ 4 ก้อน อัพสกิล รีสกิล จับคู่สกิล และค้นหาสกิลใหม่ ๆ ของคน 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์

ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเลต 1 หมื่นบาทนั้น วิธีคิดของโครงการนี้เราต้องการ 2 เป้าหมาย โดยกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ในหมู่บ้าน ชุมชน ทั้งประเทศ โดยมีเงื่อนไข 6 เดือน และ 4 กิโลเมตร ปรับได้แต่ละพื้นที่ เงินจะหมุนทุก 4 ตารางกิโลเมตรทั่วประเทศ กระตุ้นนโยบายเศรษฐกิจ อีก 70 นโยบายของเรา

และเราต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้กับประเทศ สร้างระบบชำระเงินด้วยระบบบล็อกเชน ด้วยเศรษฐกิจดิจิทัล ประเทศไทยต้องเดินตามให้ทัน เพราะโลกกำลังไปทางนั้น และนโยบายดังกล่าวสามารถเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์ม Learn to Earn ด้วย