วิษณุ ยัน ไม่สุญญากาศ-ไม่เดดล็อก ได้รัฐบาลใหม่ช้า ไม่ปิดเสียงข้างน้อย

นายวิษณุ เครืองาม
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

วิษณุยัน หลังเลือกตั้งไม่เกิดสุญญากาศ-ไม่เดดล็อก เลือกนายกฯ-ฟอร์ม ครม.ไม่ได้ แต่อาจช้าหน่อย ไม่ปิดประตูโอกาสเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย แม่เหล็กดึงดูดแสดงฤทธิ์-กลายเป็นเสียงข้างมาก ก่อนโหวตงบประมาณปี’67

วันที่ 3 พฤษภาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมืองอย่างดุเดือดในช่วงใกล้ถึงวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 ว่า เป็นธรรมดาของการหาเสียงเลือกตั้งทุกครั้ง พองวดเข้าก็ต้องพยายามทำอะไรให้คนจำฝังใจ เพราะก่อนหน้านี้จำเบอร์ก็ไม่ได้ หมายเลขจำไม่ได้ ชื่อก็จำไม่ได้

เพราะฉะนั้นเมื่อถึงเวลาสุดท้ายเข้าก็จำเป็นต้องทำอย่างนั้น กกต.ก็รู้ กฎหมายถึงได้บอกว่า ห้ามไม่ให้มีการทำโพลในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง เพราะจะมีผล เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ได้ว่ากัน อาจจะดุเดือดรุนแรงหน่อย ส่วนโพลต่าง ๆ จะเป็นการชี้นำให้กระแสเปลี่ยนได้หรือไม่นั้น “คงมีส่วน”

เมื่อถามว่า ผลโพลขณะนี้พรรคการเมืองฝ่ายค้านมีคะแนนนำ หวั่นเกรงอะไรหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่หวั่น ไม่เกรง ไม่ใช่ของผม เป็นเรื่องของโพล เป็นเรื่องของประชาชน ซึ่งผมไม่รู้อันไหนถูก อันไหนผิด อันไหนตรง ก็แล้วแต่”

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการพูดถึงการจับขั้วทางการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งกันแล้ว นายวิษณุกล่าวว่า ปกติจะไม่พูดกันก่อนวันเลือกตั้ง แต่คืนวันเลือกตั้งที่ผลออกแล้วถึงจะเริ่มพูดกัน

“แล้วพูดแล้วก็ยังไม่แน่นอน เห็นการจัดตั้งรัฐบาลหลายครั้งมาแล้วที่บางครั้งขั้วมันอาจจะออกมาแบบนี้ แต่นั่นแปลว่ายังไม่มีการประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ก็พอรู้บ้างแล้วล่ะ อย่างปี 2562 จับขั้วกันอย่างหนึ่ง แต่พอถึงเวลาเอาเข้าจริง วันเวลาทิ้งไปเป็นเดือนสองเดือนกว่าจะประกาศผลอย่างเป็นทางการ ขั้วมันเปลี่ยนแปลงไป” นายวิษณุกล่าว

นายวิษณุกล่าวว่า หรือเมื่อครั้งรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ลาออก ตอนนั้นทำท่าว่าจะให้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ขึ้นมาเป็นนายกฯ ขั้วก็ไปจับกันอยู่ที่ พล.อ.ชาติชาย แต่ในที่สุดพอถึงเวลาเอาเข้าจริงปั๊บ พลิกนิดเดียว พรรคกิจสังคมดึงตัวออกมา แล้วก็มีกรณีงูเห่าเกิดขึ้น ขั้วมันก็เปลี่ยนแปลงไป

เพราะฉะนั้นเอาแน่ไม่ได้ แต่ว่า รู้คร่าว ๆ หรือเดาว่าน่าจะเป็น ก็จะรู้ละใน 24 ชั่วโมงหลังปิดหีบเลือกตั้ง แต่ก็ยังปักใจไม่ได้ การเมืองก็เป็นอย่างนี้ มันทำธรรมดา

เมื่อถามว่า ถ้าผลการเลือกตั้งออกมาทั้งสองขั้วมีคะแนนสูสีกันจนไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีและตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ จะเกิดสุญญากาศในการบริหารราชการแผ่นดินหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในที่สุดก็ต้องหาทางตั้งจนได้อยู่แล้ว เพราะรัฐธรรมนูญบอกเอาไว้แล้วในมาตรา 270 ให้ทำอย่างไร “ไม่เกิดสุญญากาศ แต่อาจจะช้าหน่อย”

นายวิษณุกล่าวว่า อันดับแรกที่ต้องทำกันก่อนคือ เลือกประธานสภา ซึ่งไม่ค่อยจะพลิกโผเท่าไหร่ หลังจากนั้นจะมีการหาทางจับขั้วกัน ซึ่งมีเวลาหลังจากปิดหีบเลือกตั้งแล้วก็จะประกาศผล กกต.ต้องประกาศภายใน 60 วัน ปกติจะใช้เวลาประมาณ 45 วัน ไทม์ไลน์กี่ครั้งก็เป็นอย่างนี้

ซึ่งตอบไม่ถูกว่าอย่างช้าที่สุดที่จะได้รัฐบาลใหม่เดือนไหน เพราะผลยังไม่ออก คะแนนยังไม่ได้สักพรรค แต่ในที่สุดมันก็จะต้องเลือกกันจนได้ รอบแรกไม่ได้ก็ไปรอบสอง รอบสาม เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าต้องหานายกฯให้ได้ภายในกี่วัน

เมื่อถามย้ำว่า หากตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่ได้จะเกิดสุญญากาศหรือไม่ เพราะรัฐบาลรักษาการอนุมัติแผนงานใหม่ โครงการใหม่ และงบประมาณผูกพันข้ามปีไม่ได้ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นสุญญากาศ ก็ทำงานได้ ทำเหมือนที่ทำกันอยู่ในเวลานี้ เพียงแต่เริ่มงานใหม่ไม่ได้

“สุญญากาศของคุณในความหมาย คือไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งไม่ใช่ รัฐธรรมนูญมาตรา 169 ให้ทำอะไรได้ตั้งเยอะ ใช้งบกลางยังใช้ได้เลย ไม่งั้นเมื่อวานไม่ของบกลาง (ลดค่าไฟ 10,464 ล้านบาท) ไปหรอก” นายวิษณุกล่าว

เมื่อถามว่าจะไม่เกิดเดดล็อกใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่เกิดเดดล็อก แต่อาจจะช้า”

เมื่อถามว่าคะแนนเลือกตั้งที่ออกมาในครั้งนี้จะซ้ำรอยเหมือนเมื่อปี’62 และจะวุ่นวายหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าไม่ทราบ เพราะยังไม่รู้คะแนนแม้แต่พรรคเดียว ยังไม่มีพรรคไหนได้คะแนนแม้แต่คะแนนเดียว เอาไว้วันที่ 15, 16 พฤษภาคมค่อยมาวิเคราะห์ผลกันว่าจะออกมาในสูตรไหน

เมื่อถามว่า คิดว่าจะเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ก็เห็นทุกพรรคพร้อมใจกันพูดว่าจะไม่ให้เกิด

เมื่อถามว่า ถ้าหลังเลือกตั้งเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อยขึ้นมาในสภาจะต้องเจออะไรบ้าง นายวิษณุกล่าวว่า โดยมากรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ควรจะตั้ง แต่ถ้าหนีไม่พ้น จำเป็นต้องตั้ง ก็จะเป็นเสียงข้างน้อยอยู่ไม่กี่วัน ก็จะเป็นเสียงข้างมากเอง มันไม่อยู่เรื่อยไปจนกระทั่งถึงขนาดไปเจอกฎหมายงบประมาณหรอก

“มันไม่เจอเหมือนเมื่อครั้งปี 18 ครั้งรัฐบาล ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ตรงนั้น หวังว่าเมื่อตั้งขึ้นเสร็จแล้วอีกหน่อยก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดให้พรรคเล็กตามเข้ามา ซึ่งโดยสูตรการจัดตั้งรัฐบาลมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ พรรคไหนที่บอกไม่เอา ไม่อยู่ ไม่ร่วม แต่พอทำท่าว่ามีคนอื่นเป็นแกนนำแล้ว มันก็จะดึงเข้าไป การต่อรองจะเกิดขึ้น” นายวิษณุกล่าว และว่า

“แต่ปี 18 เสียงข้างน้อยอยู่ได้ไม่นาน เพราะว่ารัฐธรรมนูญขณะนั้นกำหนดว่า รัฐบาลจะต้องแถลงนโยบาย เมื่อแถลงนโยบายเสร็จให้ลงมติว่าไว้ใจนโยบายหรือไม่ ถ้าไม่ไว้ใจคว่ำได้เลย เพราะฉะนั้นมันไม่มีเวลาเป็นแม่เหล็กไปดึงดูด แต่ถ้าผ่านการแถลงนโยบายโดยไม่มีการลงมติ ซึ่งตอนนั้นไม่มีใครคว่ำรัฐบาลได้ จะคว่ำอีกทีต้องไปเข้าชื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ กว่าจะถึงวันนั้นแม่เหล็กมันแสดงฤทธิ์” นายวิษณุกล่าว

นายวิษณุกล่าวว่า เราไม่อยากให้เหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าว เราอยากเห็นรัฐบาลเสียงข้างมากตั้งแต่ต้นมากกว่า และทุกพรรคก็พูด