
นายกฯ รับรู้กระบวนการส่งกลับ ‘อุยกูร์’ เชื่อไม่ได้ทำผิดหลักสหประชาชาติ ยันไม่มีประเทศที่สามรับ หลังไทยถูกประณาม บอกเมื่อพิสูจน์เป็นพลเมืองต้องส่งกลับจีน ย้ำทุกคนสมัครใจกลับ ไร้โซ่ตรวน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกา และประเทศในแถบยุโรป ออกแถลงการณ์ประณามไทย กรณีส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยตรวจสอบแล้วว่าทำอะไรได้บ้าง เพราะเรื่องอุยกูร์เป็นการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และติดคุกในไทยมา 10 กว่าปีแล้ว ถือว่าได้รับการลงโทษเป็นเวลานาน 11 ปีที่ผ่านมา เราจึงได้ตรวจสอบข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ายังไม่มีประเทศที่สามขอรับชาวอุยกูร์กลับประเทศนั้น ๆ เลย ซึ่งเรื่องนี้จีนได้ติดต่อมาและมีหลักฐานชัดเจนว่าเป็นคนจีน
ฉะนั้นยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดกฎหลักสหประชาชาติหรือสิทธิมนุษยชน เพราะการที่ถูกกักขังมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ได้คุยกับทางการจีน และได้รับการยืนยันแล้วว่า หากเราส่งตัวอุยกูร์กลับไป พวกเขาจะไม่ถูกดำเนินคดีและไม่มีการสอบสวนใด ๆ รวมทั้งสามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวและสังคมได้ทันที
ซึ่งเรื่องนี้ทั้งสองรัฐบาลก็ได้คุยกันมาสักพักแล้ว และการพบปะของผู้นำในหลาย ๆ ระดับ ก็ได้มีการยืนยันแล้ว ว่าทุกคนที่กลับไปจะปลอดภัย ซึ่งเราพยายามทำทุกอย่างให้ราบรื่นที่สุด และการที่พวกเขากลับไปสู่ครอบครัวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี นอกจากนี้ ทางการจีนยังได้อนุญาตให้ทางการไทยเดินทางไปเยี่ยมหรือถามไถ่ได้ว่าอุยกูร์ที่กลับไปแล้ว มีความเป็นอยู่อย่างไรและมีชีวิตที่ดีหรือไม่ ซึ่งทางการจีนไม่ได้ปิดกั้นเรื่องนี้กับเราเลย
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า การส่งตัวอุยกูร์กลับไปไม่ใช่การแลกเปลี่ยนทางการค้าแต่อย่างใด เพราะการที่จะคุยเรื่องการค้า ก็เป็นเรื่องเฉพาะการค้า แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของคน ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสินค้า คนไม่ใช่สินค้า ไม่แลกกันแน่นอน
ส่วนจะมีการชี้แจงสหรัฐอย่างไรบ้าง เพราะมีการออกแถลงการณ์ประณามไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราได้มีการอัพเดตข้อมูล ซึ่งทราบว่าหลายประเทศได้มีการติดตามข้อมูลมา ซึ่งข้อมูลที่อัพเดตล่าสุดก็ได้มีการประสานงานกันอย่างจริงจัง เราไม่ได้พูดกันเล่น ๆ
พร้อมยอมรับว่าเรื่องนี้ในตอนแรกไม่ได้พูดในที่สาธารณะ เพราะเกี่ยวข้องกับเรื่องความมั่นคงและรัฐบาล แต่ได้นำข้อความนี้ไปพูดคุยเพื่อยืนยันและรับรองถึงความปลอดภัย ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลรับทราบและต้องการให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุ หรือข้อขัดข้องระหว่างดำเนินการ ทำอะไรที่ไม่เคารพสิทธิของเขา เช่น การใช้ความรุนแรง เป็นต้น ก่อนยกตัวอย่างภาพที่ปรากฏว่า เมื่อเดินทางไปถึงประเทศจีนก็ได้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัว โดยไม่มีกุญแจมือและโซ่ตรวน ฉะนั้นยืนยันว่าอุยกูร์ทั้งหมดเดินทางกลับประเทศจีนโดยสมัครใจแน่นอน
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรียังไม่ยืนยันการส่งตัวเมื่อวานนี้ เพราะต้องรอยืนยันความชัดเจนก่อนใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จริง ๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของ protocal ว่าใครจะออกมาแถลง และทางจีนจะพูดก่อนหรือไม่ ซึ่งต้องดูด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะพูดในตอนนั้น ไม่เช่นนั้น ข้อความอาจจะถูกบิดเบือนและส่งผลกระทบต่อความมั่นคง วันนี้จึงได้ออกมาให้สัมภาษณ์แบบนี้ ส่วนขั้นตอนทั้งหมด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงถึงขั้นตอนไปแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้ติดต่อกับความมั่นคงของจีน
ส่วนที่มีการกล่าวอ้างว่าทางตุรกี จะรับชาวอุยกูร์กลับไป แต่สุดท้ายมีเหตุขัดข้องอะไรหรือไม่ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไม่มีประเทศที่สามมาเสนอตัวขอรับชาวอุยกูร์เลย ซึ่งไม่มีใครเสนอมาเลยสักคน ฉะนั้นทางการจีนยืนยันว่าเป็นคนจีน ประเทศไทยก็ต้องส่งกลับจีน นี่คือหลักการปฏิบัติปกติ
ส่วนในเรื่องดังกล่าวกังวลว่า จะกระทบความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศมุสลิมหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า จริง ๆ แล้วต้องอาศัยเวลาในการอธิบาย และต้องดูด้วยว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ พวกเขากลับไปแล้วปลอดภัยจริงหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าเมื่อความปลอดภัยเกิดขึ้นแล้ว ก็จะเป็นเครื่องหมายที่สามารถอธิบายได้ ซึ่งได้ทำงานหลังบ้านแล้วว่าถ้าไม่มั่นใจก็จะไม่ส่งกลับไป
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อว่า สื่อมวลชนของไทย สามารถเดินทางไปติดตามภายหลังที่ส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนได้ และในช่วงกลางเดือนมีนาคม พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะเดินทางไปติดตามความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่ไทยได้ส่งกลับไปที่จีน