สิทธิพล แนะรัฐปราบใหญ่ ‘ทุนจีนเทา’ สอบวัสดุก่อสร้างตลาดทุกประเภท 

ตึกสูง - กทม.
แฟ้มภาพ

สส.พรรคประชาชน แนะรัฐลุยเข้มปราบทุนจีนเทา ชี้ตึก สตง.ถล่มเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งปัญหานอมินี ธุรกิจศูนย์เหรียญ การก่อสร้าง-วัสดุไม่มีคุณภาพ

นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร แสดงทรรศนะผ่านเฟซบุ๊ก sittiphol viboonthanakul ระบุ รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังในการปราบปรามทุนจีนเทาที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในไทย

เนื้อหาทั้งหมดดังนี้

จากกรณีตึก สตง.ถล่ม ยิ่งตอกย้ำประเด็นทุนจีนเทา กิจการ 0 เหรียญ โรงงาน 0 เหรียญ ที่ผมอภิปรายไม่ไว้วางใจไป

กิจการเหล่านี้มีพฤติกรรมเหมือนกัน คือ

1.ใช้นอมินีคนไทยถือหุ้นแทน ให้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นบริษัทไทย แต่อำนาจตัดสินใจทั้งหมดอยู่ที่ผู้ถือหุ้นตัวจริงคือคนจีน หลายกรณีให้คนไทยทำหนังสือมอบอำนาจตั้งแต่ตอนตั้งบริษัท ทั้งอำนาจเพิ่มทุน ลดทุน จ่ายปันผล เปลี่ยนแปลงกรรมการบริษัท เซ็นเอกสารสำคัญ กระทั่งบางครั้งให้ทำสัญญาเงินกู้ไว้ ให้คนไทยไม่กล้าเบี้ยว

ADVERTISMENT

2.มีพฤติกรรมศูนย์เหรียญ คือนำเข้าวัสดุอุปกรณ์จากจีนทั้งหมด ใช้ของในประเทศไทยน้อยมาก เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยน้อยมาก นอตตัวเดียว เค้ายังเอาเข้ามาเอง

3.ร่วมมือกับไทยเทา ทั้งทุนไทยเทา ราชการไทยเทา ผ่านการคอร์รัปชั่น ฮั้ว เอื้อประโยชน์ นำไปสู่การทำผิดกฎหมายอื่น ๆ เช่น จ่ายใต้โต๊ะ ฮั้วประมูล นำเข้าและใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน ไม่ต้องสนใจสิ่งแวดล้อม ขยะ แรงงาน

ADVERTISMENT

ในระยะสั้น ต่อกรณีอาคาร สตง.ที่ถล่ม สิ่งที่รัฐบาลควรทำคือ

1.รัฐต้องรีบเข้าควบคุมหลักฐาน ตรวจสอบผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร ของไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 รวมทั้งบริษัทที่ปรึกษา ผู้รับเหมา ผู้ควบคุมงาน ซัพพลายเออร์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิด ..เอาจริง ตอนนี้ควรควบคุมตัวได้แล้ว

2.ตรวจสอบวัสดุก่อสร้างที่ใช้ เช่น เหล็กว่าได้มาตรฐานหรือไม่

3.ตรวจสอบโครงการอื่นที่ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 กำลังดำเนินการว่ามีหรือไม่ รวมถึงถ้ามีที่เสร็จไปแล้วว่าปลอดภัย ได้มาตรฐาน มีความเสี่ยงหรือไม่ในระยะยาว

1.รัฐบาลต้องเอาจริงกับการตรวจสอบ แก้ไขเรื่องบริษัทนอมินี และธุรกิจ 0 เหรียญ ย้ำอีกครั้งว่า กิจการเหล่านี้นอกจากเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจชาติต่ำ เอาเปรียบคนไทย ..เมื่อบริษัทเหล่านี้มีเจตนาทำผิด เลี่ยงกฎหมายแต่ต้น ใช้นอมินี ซิกแซ็ก ก็มีแนวโน้มทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ต่อไป เช่น จ่ายใต้โต๊ะ ฮั้วประมูล นำเข้าของผิดกฎหมาย ผลิตแบบไม่มีมาตรฐาน

ทั้งนี้ เฉพาะปีที่แล้วปีเดียว มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีคนจีนถือหุ้นจดทะเบียนใหม่มากถึง 299 บริษัท และเมื่อรวม 5 ปีย้อนหลัง มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีคนจีนถือหุ้นจัดตั้งใหม่รวมเยอะถึง 586 บริษัท

.. เฉพาะปีนี้ เอาแค่ 2 เดือนแรก (ม.ค. และ ก.พ.) ก็จดเพิ่มอีก 54 บริษัท

รัฐบาลต้องเข้าไปดูบริษัทและโครงการของบริษัทเหล่านี้

2.รัฐบาลต้องตรวจสอบวัสดุก่อสร้างจากจีนที่อยู่ในตลาดทุกประเภท เช่น เหล็ก ว่าตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนบ้าง ใช้ในโครงการใด ..จากข่าวระยะหลังที่โครงการก่อสร้างหลายแห่งเกิดอุบัติเหตุบ่อย หรือแม้กระทั่งความสูญเสียจากแผ่นดินไหวที่เมียนมาที่รุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เหล็กคุณภาพต่ำเหล่านี้ก็มีส่วน

ทั้งนี้ ปีที่แล้วปีเดียว เรานำเข้าเหล็กจากจีน เอาแค่ 3 กลุ่ม (3 พิกัด)

– เหล็กและเหล็กกล้า 4.8 ล้านตัน

– ของทำด้วยเหล็ก 1.9 ล้านตัน

– เหล็กโครงสร้าง 6.2 แสนตัน

โดยทั้ง 3 กลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากสุด ๆ ช่วง 2 ปีนี้ (2566-2567)

เหล็กเหล่านี้ตอนนี้ไปอยู่ไหน

3.ตรวจสอบทุกโครงการที่เกี่ยวพันกับการก่อสร้าง การใช้วัสดุก่อสร้างทั้งระบบ ไม่ว่าจะโรงงาน อาคารสำนักงาน อสังหาฯ บ้าน คอนโดฯ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจขายวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะที่สัมพันธ์กับกิจการนอมินี กิจการ 0 เหรียญ ว่าใช้หรือขายของมีมาตรฐานหรือไม่

การใช้วัสดุก่อสร้างคุณภาพต่ำ กระทบคุณภาพชีวิตประชาชนโดยตรง ในทางร้ายสุด เสี่ยงเกิดโศกนาฏกรรมเหมือนอาคาร สตง. ทำผู้คนเสียชีวิต แต่แม้ไม่ถล่ม ก็กระทบคุณภาพที่อยู่อาศัย บ้านเรือน แทนที่บ้าน 1 หลังจะอยู่ได้นาน ก็คุณภาพแย่ ..เอาเปรียบผู้บริโภค ต้องซ่อมบ่อย เสียรายได้ เสียสุขภาพจิต เสียคุณภาพชีวิต

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากกรณีอาคาร สตง. เป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของปัญหานอมินี ธุรกิจศูนย์เหรียญ ปัญหาการก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้างไม่มีคุณภาพ ปัญหาจีนเทาที่ร่วมมือกับไทยเทากัดกินประเทศนี้

ถ้าไม่แก้ปัญหาอย่างจริงจังอนาคตจะยิ่งแย่กว่านี้