8 พรรคการเมืองร่วมดีเบต ยกเหตุผลที่ประชาชนต้องเข้าคูหากาบัตรให้ ชูแก้ศก.นำ “เสี่ยหนู”ยันใช้ประสบการณ์จากรบ.ทรงอำนาจที่สุดหาทางออกให้ปท. ด้าน”มิ่งขวัญ” อ้อนถอดหัวใจช่วยแก้จน ขณะที่ฝั่งปชต. อนค.-พท.ย้ำพรรคไม่สัญญาแบบลุงๆ ยันต้องทำให้ทุกคนมีอำนาจเท่ากัน
เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่ Thailand E-Sports Arena เดอะ สตรีท รัชดา ชั้น 5 น. THE STANDARD DEBATE จัดดีเบตมิติใหม่ ใช้เทคโนโลยีถ่ายทอดสด E-Sport โดยมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.), คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเพื่อไทย(พท.), นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรคอนาคตใหม่(อนค.), นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ พรรคชาติพัฒนา(ชพน.), นายวราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.), พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย, นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย(ภท.) และ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พรรคเศรษฐกิจใหม่ เข้าร่วม
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
นายสุวัจน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ประชาชนต้องเลือกพรรคชพน.ว่า พรรคชพน. มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งเราพบว่าขณะนี้พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาความขัดแย้ง พรรคชพน.มีประสบการณ์มาในยุคที่พล.อ.ชาติชายเป็นนายกฯ หรือที่เรียกว่า เศรษฐกิจยุคทอง เราได้จัดทำนโยบายในการแก้ไขปัญหา ซึ่งวันนี้นโยบายที่เราจะนำกลับมาคือนโยบายในเรื่องของการศึกษา เราต้องให้ทุกคนได้เรียนรู้ 2 ภาษา เพื่อการลงทุน การท่องเที่ยว และการเข้าหาเทคโนโลยี และยังมีนโยบายที่ต้องปรับปรุงราคาพืชผลทางการเกษตร โดยให้เกษตรกรใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีกองทุนเพื่อสร้างธุรกิจเอสเอ็มอี และแนวคิดของคนรุ่นใหม่ จะมีการพัฒนาระบบคมนาคมทั้งรถไฟ ทางด่วย ขนส่งมวลชน เชื่อทุกภูมิภาคในประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงเหตุผลที่ประชาชนต้องเลือกพรรคพท. ว่า เศรษฐกิจแย่คนแก้ต้องเพื่อไทย 4-5 ปีมานี้เศรษฐกิจหนักมาก คนตัวเล็กๆไปไม่รอด เราจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มพลังให้กับคนตัวเล็ก วันนี้ต้องเพิ่มกำลังซื้อ และเราสามารถว่าเราจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กระเตื้องได้ภายใน 6 เดือน และเราสัญญาเป็นสัญญา เราจะไม่ให้คำสัญญาอะไรแบบลุงๆแน่นอน และทุกครั้งที่เราได้กลับมา เราทำได้ทุกครั้ง เราจะเริ่มจากการปรับหนี้ จากนั้นเติมเงิน เราต้องลดภาษี และปรับฐานเศรษฐกิจ ดังนั้น วันนี้ต้องเอาลุงคืนไป และเอาเงินในกระเป๋าของเราคืนมา การแสวงหาพลังงานทดแทน และสิ่งแวดล้อม ต่อมาคือการเน้นนโยบายเรื่องการท่องเที่ยว 5 ปีข้างหน้า นักท่องเที่ยวต้อง 65 ล้านคน มีรายได้จาการท่องเที่ยว 25% ของจีดีพี นอกจากนี้ เรายังมีนโยบายที่ต้องการกระจายอำนาจ และสร้างการกีฬาเพื่อให้รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รวมถึงสามัคคีในการแก้ไขปัญหาประเทศด้วย
นายธนาธร กล่าวถึงเหตุผลที่ประชาชนต้องเลือกอนค. ว่า อนค.คือพรรคที่รวมคนที่ฝันอยากเห็นประเทศดีกว่านี้ ไม่ทนกับความอยุติธรรม นี่คือเวลาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมในสังคม ผู้นำกองทัพที่เป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตย วันนี้ประเทศไทยต้องเปลี่ยน 24 มีนาคมนี้ใช้โอกาสของเรา ไม่ว่าลุงคนไหนก็มีอำนาจเท่าเราใช้อำนาจที่มีแล้วเดินหน้าไปด้วยกัน
นายอนุทิน กล่าวถึงเหตุผลที่ประชาชนต้องเลือกภท. ว่า ตนเคยทำงานในรัฐบาลที่มีอำนาจมากที่สุด โดยใช้ประสบการณ์ มองโลกในแง่ดี ซึ่งตนเขียนหนังสือ ชื่อ มีรูมีหนู ทำให้ไม่เคยเห็นทางตันรู้ว่า มีทางออกเสมอ รู้ว่าจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งตนไม่มีศัตรู และเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีความไม่ชอบ แต่จะไม่เอาเรื่องส่วนตัวมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของประเทศ เราย่ำอยู่กับที่ 10 กว่าปีที่ผ่านซึ่งใครทนได้ก็บ้าแล้ว ทั้งนี้ยืนยันเราไม่มีผลประโยชน์มีแต่การเชื่อมประสาน นำพาประเทศไทยก้าวหน้าต่อไป สอดคล้องกับคลิปวีดิโอการขึ้นบินที่ประกอบการบรรยาย ว่า อย่าหัวทิ่ม ขึ้นไปได้เรื่อยๆ ทุกอย่างมีทางออก
นายมิ่งขวัญ กล่าวถึงเหตุผลที่ประชาชนต้องเลือกพรรคเศรษฐกิจใหม่ ว่า คนจนมากขึ้น ก็ต้องหาเงินเข้าประเทศ วันนี้ตนถอดหัวใจออกมาพูด ซึ่งแฮชแท็ก #ลุงมิ่ง ที่ดังข้ามคืน ขอยืนยันว่าลุงมิ่งใจดีแน่นอน โดยวันนี้จะมาเสนอนโยบายทำให้ประเทศไทยเป็นสินค้าปลอดภาษี ให้กรุงเทพเป็นสตรีทฟู้ด ให้ความคึกคักปากคลองตลาดคืนกลับมา เพิ่มรายได้ขายออนไลน์ ส่งเสริมการลงทุนเข้าประเทศ เปิดเสรีทางการค้า แก้ไขการประมง ทำให้อุตสาหรรมบันเทิงไทยสามารถแข่งขันได้ทั่วโลก เพิ่มจีดีพีจาก 15 ล้านล้าน เป็น 30 ล้านล้านต่อปี
เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน คิดว่าพลังของคนรุ่นใหม่มีความสำคัญอย่างไรกับการเมืองไทย และพรรคการเมืองมีนโยบายเพื่อคนกลุ่มนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนพบว่า คนรุ่นใหม่ตื่นตัวกับการเมือง ซึ่งพรรคให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ และมั่นใจว่าจากนี้ไปต้องให้คนรุ่นใหม่กำหนดอนาคต ทำให้เราสามารถต่อรองกับประชาคมโลกได้อย่างภาคภูมิ โดยพรรคได้ออกนโยบายมารองรับคนรุ่นใหม่ พยายามที่จะแก้กฎหมายต่างๆ เพื่อทลายข้อจำกัดและเตรียมไว้สำหรับคนรุ่นใหม่
ด้าน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคสนับสนุนคนรุ่นใหม่มาทุกยุคสมัย ถ้าไม่อย่างนั้นพรรคคงไม่อยู่มาถึงวันนี้ เราต้องหาคนใหม่มาสืบสานอุดมการณ์ วันนี้เรามีนิวเดมาช่วยขับเคลื่อนในช่วงที่เราเป็นรัฐบาล ได้สนับสนุนเราเคยสนับสนุนเด็ก นักศึกษา ให้มีส่วนร่วมโดยตั้งสภาเด็ก ซึ่งคนเหล่านี้กำลังเติบโตมาเพื่อพัฒนาสังคม ขณะเดียวกันพรรคก็ได้ผลักดันนโยบายที่คนรุ่นใหม่สนใจ เช่น LGBT การเกณฑ์ทหาร กัญชา ที่มีความก้าวหน้าแต่ทำให้คนรุ่นก่อนๆยอมรับได้ ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ต้องการเสรีภาพ ที่มากับระบอบประชาธิปไตย ยืนยันการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของประเทศโดยไม่ถูกจำกัดต้องมีเสรีภาพ ที่ต้องไม่โดนจำกัด ด้วย อาทิ พ.ร.บ.ไซเบอร์ ต้องมีการแก้ไข นำเทคโนโลยีมาส่งเสริมการทำมาหากินของประชาชน
นายวราวุธ ตอบคำถามในหมวดเกษตกรรม ซึ่งมีคำถามว่า “จะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาผลผลิตเกษตรกรตกต่ำ” ว่า เวลาเราผลิตก็ต่างคนต่างผลิต ไม่เคยสนใจเลือกตลาดในตลาดโลกนั้นเป็นอย่างไร วันนี้เราต้องมาดูแล้วว่าตลาดต้องการอะไรและเท่าไหร่ วันนี้เราพูดถึงเพียงการผลิต แต่เราไม่พูดถึงเทคโนโลยีแบบชาวบ้าน ปราชญ์ชาวบ้าน ถ้าเรามาดูเรื่องนี้ก็ต้องไม่มีปัญหาเรื่องการผลิต ทั้งนี้หลัง 24 มีนาคมแล้ว เราอย่าเพิ่งมาตั้งเงื่อนไขอะไร พรรคเราเป็นมาหมดแล้วทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน แค่เรามาเอานโยบายของเราไปบริหารในรัฐสภา แต่ถ้าเมื่อเขาเสียงครบแล้วเราก็สามารถเป็นฝ่ายค้านได้
ด้าน นายอนุทิน ซึ่งเป็นคู่ดีเบต กล่าวว่า ภท.ให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่มาก มั่นใจว่าประเทศไทยต้องให้คนรุ่นใหม่มีความสำคัญในการเลือกตั้ง คนรุ่นใหม่อาจจะเข้าใจมาว่า ประชาธิปไตยแบบไทยๆเขารับไม่ได้ แต่เข้าสามารถค้นหาจากอินเตอร์เน็ตได้ ตนได้พูดคุยกันคนรุ่มใหม่แล้วเห็นถึงความตื่นตัวของเขา พรรคเราจึงมีนโยบายที่มารองรับคนรุ่นใหม่ได้มีอาชีพ พรรคเราเตรียมให้คนรุ่นใหม่ที่จะทลายข้อจำกัดของรัฐ
“พรรคเราเห็นว่าการที่จะใช้งบฯของรัฐมาอุ้มประชาชนมันเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว การทำวงจรผลิต คือ ผู้ผลิต ผู้ค้า ต้องได้กำไรไปด้วยกัน เพราะที่ผ่านมาเราเห็นแต่ผู้ที่ได้กำไรเป็นผู้ค้ามากว่าผู้ผลิต เราจึงมีนโยบายแบ่งปันผลผลิตให้มาพูดคุยและกำหนดทิศทางร่วมกันทั้งผู้ผลิตและผู้ค้า อย่างไรก็ตามเราต้องให้ผู้ซื้อและผู้ขายอยู่ร่วมกันได้ อย่าให้ประชาคมโลกต่างๆมากดดันไทยเรา ทำให้ไทยไม่สามารถส่งออกได้ ตนเอาอาหารทะเลมาเลี้ยงอาหารกลางวันนักเรียน” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทินยังกล่าวถึงจุดยืนหลังการเลือกตั้งว่า การที่พรรคอย่างตนมีสภาวะเป็นพรรคแบบกลางคนจะมองว่าเป็นพรรคตัวแปร นั่นเป็นแค่คำกล่าวหาที่เขามีกับพรรคเรา แต่จุดยืนเรามันชันเจนอยู่แล้วว่า ที่มาของนายกฯจะต้องเป็นคนที่เป็นส.ส. ตัวแทนของปวงชนชาวไทยเท่านั้นที่จะเป็นนายกฯ
จากนั้น นายมิ่งขวัญ แสดงทัศนะในหมวดเศรษฐกิจ ว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า 5 ปีกว่าที่ผ่านมา เราได้รัฐบาลในรูปแบบใหม่ที่แก้ปัญหาเศราฐกิจไม่ได้ วันนี้จึงจำเป็นต้องบอกว่า พอแล้ว หมดเวลาแล้ว เพราะให้เวลามานานแล้ว วันนี้เราต้องทำประเทศไทยให้เป็นประเทศปลอดภาษี และต้องเปิดตลาดการเงินเสรีเป็นครั้งแรกในประสัติศาสตร์ เราต้องทำบันเทิงไทยให้เป็นบันเทิงโลก และดอกเบี้ยเงินกู้ เงินฝากต้อง 3% ทั้งระบบด้วย ทั้งนี้ พรรคตนยืนอยู่ข้างประชาธิปไตยแน่นอน
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ แสดงทัศนะในหมวดความมั่นคง ว่า ส่วนตัวคิดว่าทหารอาชีพที่มาช่วยเหลือเป็นรั้วของชาติเราชื่นชม แต่เรารังเกียจทหารที่เกษียณแล้วมายึดอำนาจประชาชน วันนี้เรื่องปฏิรูปกองทัพเป็นเรื่องที่ต้องมองถึงศักยภาพของกองทัพ เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนแล้ว ถ้ามีสงคราม ไม่มีการเข็นรถถังออกมาแล้ว แต่เรากลับเสียงบประมาณซื้อรถถังจำนวนมาก เรามองว่าต้องเป็นสมาร์ทกองทัพ ส่งเสริมให้คนในกองทัพเก่งในเรื่องของเทคโนโลยี และต้องเพิ่มราได้ให้ทหารที่ออกไปสู้รบเป็นแนวหน้า ส่วนการเกณฑ์ทหาร เราควรให้เขาเข้าไปเป็นทหารอย่างเต็มใจ และขอชวนให้ทหารมาจับมือกับพวกเรา ของบ 10% เปลี่ยนค่ายเป็นแคมป์สร้างคนรุ่นใหม่ สร้างผู้ประกอบการณ์รุ่นใหม่ดีกว่าไหม เราชวนกันดีๆ ชวนกันมาช่วยคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ จุดในการร่วมรัฐบาลของตนชัดเจนคือ เอาลุงคืนไป เอาเงินในกระเป๋าของเราคืนมา
ที่มา : มติชนออนไลน์