นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม แถลงข่าวถึงการเตรียมพร้อมการแถลงนโยบายรัฐบาลว่า ไม่แน่ใจว่าเอกสารแถลงนโยบายของรัฐบาล เป็นเพียงโบรชัวร์หาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ เพราะเหมือนโบรชัวร์หาเสียงของแต่ละพรรคแล้วนำมาเย็บรวมกัน และเย็บแบบเห็นรอยต่อ เช่น นโยบายสินค้าราคาเกษตร ช่วงหนึ่งประกันราคา อีกตอนหนึ่งจะมีการแบ่งส่วนแบ่งรายได้ ซึ่งเป็นนโยบายอีกพรรคหนึ่ง หรือนโยบายจัดสรรที่ทำกิน จัดสรรให้เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย อีกข้อเพิ่มพื้นที่ป่าซึ่งย้อนแย้งกันชัดเจน
“แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มองว่าการแถลงนโยบายเป็นพิธีกรรม แต่เพื่อไทยไม่ได้มองพิธีกรรม แต่เป็นสัญญาประชาคม ขณะที่รัฐมนตรี 9 คน ใน 36 คนเป็นรัฐมนตรีหน้าเดิม แต่คนชุดเดิมมาในไม่มีอำนาจพิเศษจะมั่นใจได้อย่างไรขับเคลื่อนนโยบายได้ อีกทั้งเขียนนโยบายกว้างๆ ไม่ลงรายละเอียด ไม่แน่ใจว่าคิดได้แค่นี้หรือเตรียมหมัดเด็ดไว้ในสภา เพื่อไทยมีสิทธิชอบธรรมอภิปรายนโยบายหรือคุณสมบัติของคนมาเป็นรัฐมนตรี เชิญชวนให้ทุกคนแสดงศักยภาพให้ประชาชนได้เห็น ความกลัวทำให้เสื่อม ไม่ต้องกลัวถ้าตั้งอยู่ในความซื่อสัตย์” นายอนุสรณ์กล่าว
นายอนุสรณ์กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐจัดองครักษ์ดูแลแค่ 2 ป. ขนาดบอกใบ้ให้แล้วว่า 3 ป. ก็ขอเตือนด้วยความห่วงใยว่า อีก ป. หนึ่งก็ต้องระวังให้ดี ใบ้ให้ว่าเป็นเรื่องขยะ และรัฐมนตรีจากรัฐบาลชุดที่แล้วที่กลับมาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อีก ก็เตรียมตัวไว้ให้ดีๆ
นายสุทินกล่าวว่า ขณะนี้การจัดผู้อภิปราย เดินทาง 80 เปอร์เซ็นต์ และตัดตัววันพุธ เรื่องหลักๆ กลุ่มที่ต้องตรวจสอบคุณสมบัติบุคคลและทุจริต มี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน นายยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย ด้านเศรษฐกิจ นายไชชยา พรหมมา ส.ส.หนองบัวลำพู นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคเศรษฐกิจใหม่ น.ส.จิราภร สิทธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ต่อมาการเอื้อกลุ่มทุนใหญ่ ความเหลื่อมล้ำ ผู้อภิปรายมี นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม ขณะที่นโยบายปฏิรูปประเทศนั้น มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา อภิปราย ส่วนนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค จะเป็นผู้เปิดการอภิปราย
“เพื่อไทยตั้งประเด็นไว้ทั้งสิ้น 6 ด้าน ส.ส.ที่อภิปรายมี 55 คน หากรวมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีประมาณ 70 คน ทราบมาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมาฟังนายสมพงษ์พูดจบแล้วก็กลับ กำลังหาภารกิจมารองรับภารกิจที่จะไปต่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นถือว่าเสียดายโอกาสมาก ขณะเดียวกันก็เป็นห่วง ส.ว.ลืมสถานภาพตัวเองที่ต้องตั้งองครักษ์พิทักษ์รัฐบาล” นายสุทินกล่าว