“ประยุทธ์” ประกาศหนุนแก้ รธน. สั่งสภาพัฒน์ เปิดเวทีรับฟังม็อบ

วันที่ 4 สิงหาคม 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐนมตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงจุดยืนต่อข้อเสนอของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ว่า ตนให้การสนับสนุนในเรื่องการทำงาน ขณะนี้เป็นเรื่องการพิจารณาในระดับ กมธ.คาดว่าจะมีการเสนอญัตติของฝ่ายค้าน แต่ฝ่ายรัฐบาลพร้อมร่วมมือในกลไกสภา เพราะเป็นเรื่องนิติบัญญัติ รัฐบาลก็ต้องมีส่วนร่วมในฐานะฝ่ายบริหาร หากมีการเสนอร่างเข้ามาก็จะมีร่างของรัฐบาลเสนอควบคู่ไปด้วย แต่ประเด็นสำคัญวาระเปิดสภาเหลือเพียงจำกัดต้องหารือเรื่องนี้ต่อไป ว่าควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญตรงไหนอย่างไร ต้องรอฟัง กมธ. เสนอมา เพราะรัฐบาลเตรียมเสนอร่างของรัฐบาลอยู่แล้ว เชื่อว่าการเปิดประชุมสภาสมัยหน้า รัฐสภาจะได้พิจารณาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รัฐบาลยืนยันให้ความร่วมมือทุกประการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการชุมนุมไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องการทำงาน ทุกคนก็ต้องรู้ว่ากลไกการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอย่างไร แต่ขณะเดียวกันตนก็สนับสนุนในส่วนที่สมควรจะแก้ไข ไม่ได้ขัดแย้งอะไร แต่ กมธ.จะหารือร่วมกันแล้วก็รับฟังเขาว่าอย่างไร ต่อมาให้พรรคร่วมมาหารือกับรัฐบาล ในการที่จะร่างรัฐธรรมนูญเสนอควบคู่กันไป นี่คือกลไกที่ถูกต้อง ขอร้องอย่าให้เกิดความวุ่นวายมากขึ้นนักเลยในเวลานี้ เรากำลังแก้ปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงชุมนุมของนักศึกษาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ห่วงนะ ห่วงเด็กๆ ผมให้แนวทางแล้วว่าเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ว่าเขาอยากมีอนาคตอย่างไรก็ต้องฟังเขา ภายในเดือนนี้ก็จะเปิดเวทีให้มากขึ้น เป็นเวทีการพบปะ หารือพูดคุยกัน โดยให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ร่วมมือกับกระทรวงต่างๆ เป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามว่า ม็อบอยากให้ให้นายกฯ รับฟัง พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจ ก่อนตอบว่า “ก็ดู..ดูก่อน” เมื่อถามว่าจะมีการปราบทางสถาบันการศึกษาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่ปราม เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่

เมื่อถามว่ามีความกังวลเรื่อง การชุมนุมของนักศึกษาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนกังวลเรื่องเศรษฐกิจ โควิด-19 กังวลเรื่องพวกนี้ เรื่องอื่นคิดว่าทุกคนที่เป็นคนไทย ต้องร่วมมือกันทำให้ประเทศมีเสถียรภาพก่อนตอนนี้ เพราะเศรษฐกิจจะลดการเจริญเติบโตไปนานพอสมควร เรื่องนี้มันสำคัญด้วยไหม ไม่ได้บอกว่าอะไรสำคัญกว่าใคร ต้องให้ควบคู่ไปได้ไหม ทำให้สมดุลได้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลทำอะไรไม่ได้ไปหมด แล้วคนที่เขาเดือดร้อนจะทำอย่างไรกับเขา ตอบคำถามด้วย จะชุมนุมตามสิทธิตามกฎหมายก็ว่าไป ต่างคนต่างเคารพตามกิตกาซึ่งกันและกัน ไม่ได้ขู่ใครทั้งสิ้น แต่ก็เป็นห่วง หลายคนที่พูดจาเลยเถิดอาจไม่ใช่เรื่องบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริงแล้ว เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาดำเนินการ

“ที่ผ่านมาไม่ใช่รัฐบาลไม่ทำอะไรเลย ก็ไปเชิญ มาคุยให้เลิกพฤติกรรมเหล่านี้ บางคนก็เลิก บางคนก็ไม่เลิก บางคนก็หนักกว่าเดิม เป็นเรื่องกฎหมายว่ากันไป” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว