ทยา เตือน เหรียญมี 2 ด้าน เสนอ ชวน เป็นคนกลางเจรจา

ทยา ทีปสุวรรณ ภริยารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โพสต์ “เหรียญมี 2 ด้านเสมอ” ให้เสพข่าวอย่างมีสติ

วันที่ 17 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางทยา ทีปสุวรรณ  ภริยาของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงการเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ว่า “เหรียญมี 2 ด้านเสมอ” พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้เห็นด้วยกับมาตรการทุกอย่างที่รัฐบาลทำ แต่เมื่อมองลึกลงไป และไม่เสพข่าวแบบผิวเผิน ไม่ดูแค่ภาพในมุมเดียว ก็จะเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมด

ภรรยา รมว.ศึกษาธิการเผยต่อว่า การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 เป็นการเรียกร้องนอกเหนือจากประเด็นทางการเมือง เป็นการปลุกระดมด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย สร้างความเกลียดชัง และความแตกแยกในสังคมไทย คนที่ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้ จะรู้ดีว่าเป้าหมายหลักของการชุมนุม คือ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับขบวนเสด็จ ไม่ว่าจะเป็นการชูสามนิ้ว หรือ ชูอย่างอื่น ด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย ต่อหน้าพระราชินีและพระองค์ที เป็นสิ่งที่คนไทยยากจะยอมรับได้และไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ชาติไทยมาก่อน

เราต่างก็รู้ดีว่าใครอยู่เบื้องหลังการปลุกระดมตลอดเวลาที่ผ่านมา เริ่มจากการแทรกซึมไปตามสถานศึกษา สอดแทรกชุดความคิด ความเกลียดชังต่อระบบการปกครองและสถาบันมาโดยตลอด

เมื่อเหตุการณ์ชุมนุมบานปลาย ก้าวล่วงสถาบันสูงสุด และอยู่ในช่วงมาตราการป้องกันโควิด19 รัฐบาลจำเป็นต้องออกพรก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์ แต่การชุมนุมยังไม่มีทีท่าจะยุติลง นั่นทำให้รัฐบาลจึงต้องเริ่มดำเนินการจากเบาไปหาหนัก คือ ฉีดน้ำขึ้นข้างบน ไปจนฉีดสี จึงออกมาเป็นภาพอย่างที่เห็น

เมื่อตำรวจสลายการชุมนุม ภาพต่าง ๆ ที่ออกไป จึงสะเทือนใจความรู้สึกของประชาชน

หากลำดับเหตุการณ์แล้ว จะเห็นถึงที่มาที่ไปทั้งหมด ไม่ใช่การดูแค่ภาพแล้วตัดสิน โดยเฉพาะข่าวต่าง ๆ ที่ออกมาทาง social media มีทั้งข่าวปลอมและข่าวจริง เช่น มีการบอกตำรวจใช้กระสุนยางยิงนักศึกษา, บอกมีการทำร้ายปชช, การเอาภาพนักศึกษาโดนจับที่ฮ่องกงมาบอกว่าเป็นเหตุการณ์ที่บ้านเรา เป็นต้น เมื่อมีการแชร์ข่าวไปเรื่อยๆ คนที่เสพเฉพาะภาพและข้อความที่มีกระบวนการส่งต่อกันอย่างมีระบบ ทำให้คนมีอารมณ์ร่วมและรู้สึกว่าเราต้องออกมาแสดงความเห็นตามกระแสที่เกิดขึ้น

เมื่อคืนนั่งดูข่าวกับลูกทั้ง 3 คน ซึ่งเด็กๆพวกนี้ อ่านแต่ Twitter, IG story, Snapchat เอามาให้แม่ดู บอกทำไมตำรวจทำร้ายผู้ชุมนุม เพื่อนๆ Faye Finn บอกโกรธมาก อยากไปร่วมม็อบ ทำไมถึงเป็นอย่างนี้หล่ะแม่? เราเลยต้องลงนั่งอธิบายลำดับเหตุการณ์ให้ลูกฟังตั้งแต่ต้นจนจบ และทิ้งท้ายว่า เราเกิดมาบนแผ่นดินไทย ความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดและสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งที่เราต้องระลึกอยู่เสมอ โชคดีที่ลูกทั้ง 3 ถูกปลูกฝังเรืองนี้มาตั้งแต่เล็กๆเค้าจึงเข้าใจภาพค่อนข้างชัดเจน

ทั้งหมดนี้ ไม่ได้บอกว่าเห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วยกับมาตรการของภาครัฐ เพียงแต่จะขอให้ทุกคนเสพข่าวอย่างมีสติ รอบด้านและหาเหตุผลมาประกอบกัน โดยปกติการแก้ไขความขัดแย้งโดยหลักสากล เราจะใช้กฎหมายมาตัดสิน นั่นคือ legal justice แต่ในกรณีเหตุการณ์ที่ละเอียดอ่อนและบานปลายเช่นนี้ เราคงต้องใช้ social justice มากขึ้น โดยอาจเสนอคนกลาง ผู้ซึ่งเป็นที่ยอมรับของทั้ง 2 ฝ่าย และของประชาชนส่วนใหญ่มาเป็นผู้เจรจาให้เหตุการณ์สงบลงและประเทศชาติเดินต่อไปได้

และกล่าวทิ้งท้ายว่า คิดเองนะ ว่าคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำภารกิจนี้ ด้วยใจเป็นกลาง คือ คุณชวน หลีกภัย เพราะท่านเป็นทั้งนักกฎหมาย นักการเมืองที่มีอุดมการณ์ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ที่สำคัญที่สุดท่านทำหน้าที่ประธานสภาได้งดงามและสมเกียรติที่สุด…ก็ได้แต่หวังใจว่าทุกอย่างจะจบลงได้ด้วยดี และคนไทยทุกคนจะปลอดภัย รักประเทศไทย เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์