ปรับ ครม. ประยุทธ์ เครียด ล้างไพ่ใหม่ สัดส่วนโควต้ารัฐมนตรี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เครียดหนัก! เตรียมล้างไพ่ปรับ ครม. ตัดโควต้ารัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่มโควต้าพรรคภูมิใจไทย อย่างน้อย 1 ตำแหน่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องถกเครียดทันที ที่คำพิพากษาจำคุก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และรัฐมนตรีอีก 3 ราย อยู่ในข่ายถูกจำคุก

หลังจากศาลอาญาพิพากษาคดี คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส.กับพวกรวม 39 คน เป็นจำเลยความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฏ ก่อการร้าย ล้มล้างระบอบการปกครอง มั่วสุมชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง

ส่งผลให้ รัฐมนตรี 3 ราย ที่ต้องคำพิพากษาจำคุก คือ

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ถูกสั่งจำคุก 7 ปี

Advertisment

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ถูกสั่งจำคุก 6 ปี 16 เดือน

นายถาวร เสนเนียม รมช. คมนาคม ถูกสั่งจำคุก 5 ปี

นายถาร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศจะขนของออกจากกระทรวงทันทีในวันรุ่งขึ้น เพื่อไปทำหน้าที่ ส.ส.ระบบเขต ในจังหวัดสงขลา

ท่ามกลางข่าวการรีสตาร์ท วิ่งชิงตำแหน่งที่ว่างลง 1 ตำแหน่ง ในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

Advertisment

แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์  รายหนึ่ง คาดการณ์ บุคคลที่จะมาแทนนายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งแม้ว่าเดิมจะเป็นโควตาของกลุ่มกปปส. แต่ขณะนี้กลุ่มกปปส.ในพรรคไม่มีอีกต่อไปแล้ว

ดังนั้น คนที่จะถูกเสนอชื่อต่อกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เพื่อเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพิจารณาจึงเป็นคน “สายตรง-ใกล้ชิด” กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค และบุคคลคนนั้นต้องเป็น “ผู้สนับสนุนพรรค” และสามารถสร้างภาพลักษณ์ให้กับพรรคได้

แหล่งข่าวระดับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล วิเคราะห์ว่า นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะล้างไพ่ ในการจัดโผคณะรัฐมนตรีใหม่ เพราะขณะนี้สมการทางการเมือง และตัวเลขจำนวน ส.ส. ของพรรคร่วมรัฐบาลเปลี่ยนไปแล้ว

“มีความชอบธรรมที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะได้โควต้ารัฐมนตรีเพิ่ม อย่างน้อย 1 ตำแหน่ง เพราะมีจำนวน ส.ส.เพิ่มขึ้นจากการดึง ส.ส.งูเห่ามารวม 61 คน เป็นอันดับ 2 รองจากพรรคแกนนำ ที่มี 121 เสียง ขณะที่ ปชป.มีจำนวน ส.ส.เหลือเพียง 51 เสียง เท่านั้น จึงหมดอำนาจในการต่อรอง” แหล่งข่าววิเคราะห์

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งข่าวในพรรคร่วมรัฐบาลอีกราย ให้ความเห็นว่า แม้ว่าจะยังเร็วไปที่จะพูดถึงตำแหน่ง แต่ความเป็นไปได้มากที่สุด คือ ประชาธิปัตย์ อาจต้องคืนโควต้ารัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง ที่เป็นของนายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม ให้กลับไปที่โควต้าส่วนกลาง ให้ผู้จัดการรัฐบาลนำไปบริหาร เพราะจำนวน ส.ส. กับจำนวนรัฐมนตรี ที่มีอยู่ขณะนี้ สมเหตุสมผล ในสัดส่วน ส.ส. 7 คน ต่อ รัฐมนตรี 1 คน

ดังนั้น ขณะนี้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ เหลือ 51 คน เดิมมีรัฐมนตรี 7 คน 8 ตำแหน่ง ให้เหลือ 6 คน 7 ตำแหน่ง

ส่วนพรรคภูมิใจไทย มี ส.ส. จำนวน 61 คน (ไม่รวม ส.ส.งูเห่าจากพรรคก้าวไกลอีก 4 คน) เดิมมีรัฐมนตรี 7 คน 8 ตำแหน่ง คาดว่าจะเพิ่มเป็น 8 คน 9 ตำแหน่ง เป็นอย่างน้อย

แหล่งข่าวยังวิเคราะห์ด้วยว่า ความชอบธรรมที่พรรคภูมิใจไทย จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพิ่ม นอกจากจำนวน ส.ส.ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 6 คน ไม่ลงมติ ไว้วางใจ ให้ก้บ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เลขาธิการพรรค ที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งทำให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรรค รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนพรรคอย่างนายเนวิน ชิดชอบ กดดันให้ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค พปชร.และผู้จัดการรัฐบาล ต้องมีคำตอบทางการเมือง

เมื่อการปรับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประยุทธ์ 2/4 เดินทางมาถึง การเพิ่มโควต้ารัฐมนตรี ให้กับพรรคภูมิใจไทย จึงเป็นคำตอบและไพ่ตาย ที่พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ไม่สามารถปฏิเสธได้